วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568
‘นักปกป้องสิทธิ’รวมพลหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ยื่นหนังสือคัดค้าน-จี้เพิกถอน‘MOU แรร์เอิร์ธ’
30 ตุลาคม 2568 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ยื่นหนังสือคัดค้าน “MOU แร่ธาตุสำคัญ” หรือที่เรียกกันว่า “MOU แร่แรร์เอิร์ธ” (บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุที่มีความสำคัญในระดับโลกและการส่งเสริมการลงทุน) หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย
จุฑามาส ศรีหัตถผดุงกิจ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ กล่าวว่า MOU ฉบับดังกล่าวไม่ได้รวมแค่แร่แรร์เอิร์ธอย่างเดียว แต่รวมไปถึงแร่สำคัญหรือ Critical Minerals ซึ่งมีแร่อีกอย่างมาก กว่า 60 ชนิด วันนี้กลุ่มของตนจึงต้องมายื่นแถลงการณ์คัดค้านที่นี่ เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังจะซ้ำเติมผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากแร่แรร์เอิร์ธข้ามพรมแดนอยู่ในขณะนี้ ทั้งแม่น้ำสาย แม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เราก็มีข้อมูลแล้วว่ามีการปนเปื้อนจากสารโลหะหนักในแม่น้ำ มีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก แต่การทำ MOU ในครั้งนี้ ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านายกของเราไม่ได้ให้ความสนใจกับกระบวนการแก้ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเลย แต่กำลังจะซ้ำเติมปัญหาที่ไม่ใช่แค่แร่แรร์เอิร์ธ แต่รวมถึงแร่อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นประเทศไทยด้วย
“สิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือแร่แรร์เอิร์ธและแร่สำคัญต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือและภาคใต้ของประเทศ โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามันซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญมากๆ ในเรื่องของการท่องเที่ยว และถ้า MOU นี้ยังเดินหน้าต่อไปก็เป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่าแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของไทยจะถูกทำให้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นพื้นที่ในการขุดทรัพยากรแร่ แล้วก็ไม่ใช่แค่เรื่องการขุดแร่หรือแต่งแร่เท่านั้น แม้แต่การนำเข้าแร่มาจากต่างประเทศแล้วมาทำการแต่งแร่ในประเทศไทยเพื่อส่งออกก็มีผลกระทบอย่างมากเหมือนกัน” จุฑามาส กล่าว
หลังจากนั้น มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผ่านละครสั้นจำลองผลกระทบจากเหมืองแร่แรเอิร์ธ ที่ส่งผลต่อแม่น้ำสายสำคัญของไทย ได้แก่ แม่น้ำสาย แม่น้ำกก แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง รวมถึงการจำลองการลงนามใน MOU ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีของไทย ก่อนที่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่จะร่วมกัน “ฉีก MOU” เป็นสัญลักษณ์ของการปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว
จากนั้น เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ร่วมกับ สุภาภรณ์ มาลัยลอย และ สุทธิเกียรติ คชโส ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้าน MOU โดยระบุว่า สหรัฐฯ ควรร่วมมือกับไทยในการแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากเหมืองแร่ในรัฐฉานของพม่า มากกว่าการผลักดัน MOU ที่จะขยายการลงทุนเหมืองแร่สำคัญและแร่หายากในไทย ซึ่งจะยิ่งเพิ่มมลพิษลงสู่แม่น้ำกก สาย รวก และโขง
แถลงการณ์ชี้ว่า สหรัฐฯ เคยมีบทบาทวิพากษ์วิจารณ์จีนเรื่องการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงที่ส่งผลต่อประเทศลุ่มน้ำตอนล่าง แต่กลับเลือกจะสนับสนุนข้อตกลงที่อาจนำพาผลกระทบในลักษณะเดียวกันมาสู่ภูมิภาคนี้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี