ร่ายเป็นข้อ ๆ 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์'วิเคราะห์ผลดี-ผลเสียเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

ร่ายเป็นข้อ ๆ 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์'วิเคราะห์ผลดี-ผลเสียเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 13.50 น.

ร่ายเป็นข้อ ๆ 'เอ็ดดี้ อัษฎางค์'วิเคราะห์ผลดี-ผลเสียเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2568 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ระบุว่า ผลดีและผลเสียของการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

ผลดีของการเปิดด่าน (เน้นด้านเศรษฐกิจและการทูต)
การเปิดด่านหลัก ๆ เป็นการตัดสินใจเพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปิดด่าน และเป็นสัญญาณเชิงบวกในการรักษาสันติภาพ:


1. ฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าชายแดน: เป็นการปลดล็อกมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่เคยสูงถึงหลักแสนล้านบาทต่อปี การปิดด่านทำให้การค้าเสียหายอย่างหนัก การเปิดด่านช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยกลับมาดำเนินได้

2. รักษาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain): ช่วยให้ไทยสามารถนำเข้าวัตถุดิบสำคัญจากกัมพูชาได้ตามปกติ เช่น มันสำปะหลัง ซึ่งจำเป็นต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องของไทย (เช่น อาหารสัตว์ อาหารแปรรูป)

3. สนับสนุนแรงงานและสังคม: บรรเทาผลกระทบต่อแรงงานข้ามชาติที่ทำงานในฝั่งไทย และแก้ไขปัญหาด้านสวัสดิการของประชาชนตามแนวชายแดน

4. แสดงความจริงใจทางการทูต: เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้ หลังกัมพูชาแสดงความจริงใจด้วยการถอนอาวุธและเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิด ถือเป็นการตอบสนองในทางบวกและส่งเสริมบรรยากาศการเจรจาสันติภาพในระยะยาว

ผลเสียและความเสี่ยงจากการเปิดด่าน (เน้นด้านความมั่นคงและอธิปไตย)
ข้อเสียและความกังวลหลักมักเกี่ยวข้องกับการสูญเสียอำนาจต่อรองและความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่อาจกลับมา:

1. ความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่อาจกลับมา: แม้จะมีการถอนอาวุธไปแล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลว่าสถานการณ์อาจกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หากกลไกการตรวจสอบไม่เข้มแข็งพอ และอาจมีภัยคุกคามใหม่ ๆ เกิดขึ้น

2. การกลับมาของธุรกิจสีเทา: การเปิดด่านทำให้การเดินทางเข้า-ออกง่ายขึ้น ซึ่งอาจเปิดช่องให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (สแกมเมอร์) และธุรกิจพนันผิดกฎหมายกลับมาใช้พื้นที่ชายแดนในการดำเนินกิจการได้

3. สูญเสียอำนาจการต่อรอง: ฝ่ายคัดค้านมองว่าการปิดด่านเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพในการกดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องด้านอธิปไตย การเปิดด่านเร็วเกินไปอาจทำให้ไทยขาดเครื่องมือในการต่อรองที่ทรงพลังที่สุด

4. ความไม่ชัดเจนในพื้นที่พิพาท: การเปิดด่านโดยที่ปัญหาเขตแดนทางบกตาม MOU 43 ยังไม่ได้รับการแก้ไข อาจถูกมองว่าเป็นการยอมรับสภาพการณ์ในพื้นที่พิพาทโดยปริยาย

โดยสรุป การเปิดด่านเป็นการ แลกเศรษฐกิจกับการผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งรัฐบาลต้องวางมาตรการที่รัดกุมเพื่อลดผลเสียด้านความมั่นคงและธุรกิจสีเทาให้ได้มากที่สุด

ผมไม่ต้องการเป็นอีกเสียงที่สร้างดราม่าให้สังคมแตกแยก

ผมอยากเป็น “ผู้สังเกตการณ์การเมือง” ที่มองอย่างเป็นธรรม วิจารณ์ด้วยเหตุผล และเข้าใจว่าเบื้องหลังทุกการตัดสินใจมีทั้งมิติของอำนาจ ผลประโยชน์ และเจตนา ในวันที่สื่อจำนวนมากแข่งกันขายอารมณ์ เราจำเป็นต้องมีใครบางคนที่ยังเลือกขาย “สติ”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top