เชิญ‘หนู-วรภัค’แจง  กมธ.มั่นคงลุยสอบ5พ.ย.นี้  เคลียร์ปมสแกมเมอร์/ทุนเทา

เชิญ‘หนู-วรภัค’แจง กมธ.มั่นคงลุยสอบ5พ.ย.นี้ เคลียร์ปมสแกมเมอร์/ทุนเทา

วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กมธ.มั่นคงแห่งรัฐลุยสอบ! สาวทุนเทา 5 พฤศจิกายนนี้ ปม“บีไอซี กรุ๊ป” เชิญ “อนุทิน-วรภัค” เข้าชี้แจง พร้อมผู้บริหาร “ไพร์มสตรีท”

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ.ฯยังคงติดตามปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติต่อเนื่อง โดยในวันที่ 5พ.ย.ได้นัดพิจารณารณีกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย กรณีของบีไอซี กรุ๊ป บีไอซี แบงค์และนายยิม เลียก ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าชี้แจง


นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาต่อเนื่องถึงความเกี่ยวข้องระหว่างบุคคล หรือบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กรณีบองบีไอซี แบงค์ และบีไอซี กรุ๊ป และ นายยิม เลียก โดยเชิญ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรมช.คลัง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม นายรีวิน เพทายบรรลือ รวมถึงประธานกรรมการบริษัท ไพร์มสตรีท แคปปิตอล

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” หัวข้อ “อย่าปล่อย ทุนดำ ยึดประเทศไทย!”ระบุว่า อย่าปล่อย #ทุนดำ ยึดประเทศไทย! ด้วยเงินเพียง 20,000ล้านของพวกแก๊งสแกมเมอร์ ทุนดำที่ปล้นคนไทย ไปหลายแสนล้านบาท ร่วมกับนักการเมืองชั่วบางคน ตั้งแต่โควิดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กัมพูชากลายเป็นศูนย์กลาง #สแกมเมอร์ ที่ใช้หลอก “ปล้น” เงินของคนไทยและคนทั้งโลก เสียหายปีละหลายแสนล้าน รวมทั้งมีการหลอกคนไทยและคนจากหลายประเทศเข้าไปทำงาน มีการซ้อมทรมานและทำให้เสียชีวิต เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนได้ฉายาว่าสแกมโบเดีย เงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการ “ปล้น” คนไทยและคนทั้งโลก ต้องการการ #ฟอกเงิน (Money Laundering) และไทยคือสวรรค์ของ “อาชญากรข้ามชาติ” ที่นำเงินสีดำเข้ามาฟอกขาว ไทยจึงกลายเป็น“ศูนย์กลางการฟอกเงิน”ของพวกสแกมเมอร์

เมื่ออาชญากรเหล่านี้ต้องเข้ามาฟอกเงินในไทย ทำผิดกฎหมายไทย ก็ต้องวิ่งเต้นจ่ายเงินให้ผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะนักการเมืองของไทย เพื่อให้การ“คุ้มครอง” จนทำให้ขบวนการ #ทุนดำ เติบโตอย่างรวดเร็ว กลุ่มเหล่านี้จึงเข้ามามีบทบาททางการเมือง ผ่านการติดสินบน ซื้อนักการเมือง ซื้อพรรคการเมือง ซื้อข้าราชการ เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในละตินอเมริกา ซึ่งรูปแบบเดิมของการ #ฟอกเงิน มีตั้งแต่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย เช่น หมู่บ้านจัดสรร, ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย, ซื้อคลิปโต, รวมทั้งซื้อทองคำ จนทำให้เงินบาทแข็งค่า กระทบต่อการส่งออกเราอย่างรุนแรง แต่รูปแบบใหม่ของการ #ฟอกเงิน กำลังจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ ผ่านพรรคการเมือง

โดยนักการเมืองชั่วและอาชญากรข้ามชาติจะร่วมมือกันยึดประเทศไทยอย่างเบ็ดเสร็จ โดยใช้เงินไม่เกิน 20,000 ล้าน จ่ายให้ สส.หัวละ 50–70ล้าน เพื่อนำไปซื้อเสียง หายนะของประเทศมาถึงแน่ ถ้าเราคนไทยไม่พร้อมใจกันลุกขึ้นสู้ ดิฉันขอเรียกร้องให้พวกเราคนไทย ไม่เลือกคนที่ซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด! ซึ่งเงินที่เขานำมาซื้อเสียงก็คือเงินที่ “ปล้น” พวกเรามา ซึ่งทุกคนสามารถรับเงินที่นักการเมืองชั่วเหล่านี้นำมาแจกได้ เพราะเป็นเงินที่ปล้นคนไทยมา แต่ต้องไม่ให้ “กากบาท” ให้คนชั่วเหล่านี้กลับมา “ปล้น” มา “โกง” คนไทยต่อไปอย่างเด็ดขาด รวมทั้งดิฉันขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ลงมือปราบแก๊งสแกมเมอร์ที่ซุกตัวอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งนักการเมืองชั่วที่ให้การคุ้มครองคนเหล่านี้ ด้วยการสั่งอายัดทรัพย์ พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน และดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่อยู่ในข่ายนี้ทันที ไม่ว่าจะตรวจสอบเส้นเงินไปพบ นักการเมืองหรือข้าราชการใหญ่คนใด ก็ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด โดยประสานข้อมูลกับสหรัฐอเมริกาและนานาชาติ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top