‘ไผ่ ลิกค์’ เขย่ากลับพรรคประชาชน กางเอกสารคำร้อง กกต. ทำธุรกรรมซ่อนเงื่อน

‘ไผ่ ลิกค์’ เขย่ากลับพรรคประชาชน กางเอกสารคำร้อง กกต. ทำธุรกรรมซ่อนเงื่อน

วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 10.02 น.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก ไผ่ ลิกค์ ระบุว่า เอาเงินผู้ช่วย สส. ไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองผิดนะครับ แล้วเอาแค่ชื่อมาเป็นผู้ช่วย สส. และไม่ให้ทำงานเรียกบัญชีม้านะครับ แบบนี้เค้าเรียกหลักฐาน และยังมีอีกนะครับ คำสารภาพของเจ้าของบัญชี

ทั้งนี้ ไผ่ ลิกค์ ได้โชว์เอกสารที่ ทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นักธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ยื่นต่อ นายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ขอให้อายัดบัญชีพรรคประชาชนและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดมูลฐาน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542


โดยมีเนื้อหาระบุว่า ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคประชาชน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการปกปิดแหล่งที่มาของเงินบริจาค ด้วยวิธีการจ่ายเป็นเงินค่าสมัครสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งอาจถือเป็นการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

กรณีเงินค่าสมัครสมาชิกซึ่งทำธุรกรรมจากบัญชีของผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นเงินที่อาจได้มาจากการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่งรายชื่อให้สำนักงานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนำเงินค่าตอบแทนเข้าบัญชีผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว ทั้งที่มิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอันแสดงเจตนาทุจริตด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้ได้ทรัพย์ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นโดยทุจริต อันเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2546

เมื่อความปรากฏว่า พรรคประชาชนซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลที่ต้องมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่กลับมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 การกระทำที่เกี่ยวข้องดังกล่าวย่อมเป็นความผิดต่อรัฐให้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างยิ่งและสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรพึงได้รับทรัพย์ที่ถูกหลอกลวงโดยทุจริตนั้นคืนแก่รัฐ หากปล่อยให้บัญชีพรรคประชาชนยังคงทำธุรกรรมต่อไปก็อาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้น และไม่สามารถติดตามทรัพย์นั้นคืนแก่รัฐได้

ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินการของพรรคการเมืองให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากปล่อยให้มีการดำเนินธุรกรรมอยู่ก็อาจส่งผลเสียหายยิ่งขึ้น และเพื่อประโยชน์แก่การสืบสวน สอบสวน หรือไต่สวน แล้วแต่กรณี จึงขอได้โปรดรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาให้มีการอายัดบัญชีพรรคประชาชนและดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องดังกล่าวอันเกี่ยวกับความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top