นายกฯ เปิดประชุมหัวหน้า ตร.อาเซียน ตอกย้ำปราบอาชญากรรมข้ามชาติ

นายกฯ เปิดประชุมหัวหน้า ตร.อาเซียน ตอกย้ำปราบอาชญากรรมข้ามชาติ

วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.24 น.
Tag :

นายกฯเปิดประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงร่วมกับทุกประเทศ เพื่อภูมิภาคอาเซียนที่มั่นคงและรุ่งเรือง

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.68 เวลา 09.00 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 (The 43rd ASEAN Chiefs of National Police – ASEANAPOL) ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “ร่วมมือปฏิบัติการ: ปราบปรามการหลอกลวง ขัดขวางการฉ้อโกง และปกป้องประชาชน” หรือ “Collaboration in Action: Crushing Scam, Disrupting Fraud, and Protecting People” ระหว่างวันที่ 3–7 พฤศจิกายน 2568 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับอาวุโสจากประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจา และผู้สังเกตการณ์จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วมมากกว่า 200 คน โดย ในพิธีเปิดฯ ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมยืนสงบนิ่งถวายความอาลัย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 


นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม โดยแสดงความยินดีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEANAPOL ครั้งนี้ พร้อมขอบคุณผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการเสริมสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในภูมิภาค รวมถึงกล่าวแสดงความยินดีต่อ ติมอร์-เลสเต ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของอาเซียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอาชญากรรมข้ามชาติได้ทวีความซับซ้อนและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงข้ามชาติ และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งทำลายเสถียรภาพของสังคม สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

ข่าวร้ายคือ ปัญหาดังกล่าวทำให้ภูมิภาคอาเซียนกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ายินดีคือ ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างตระหนักถึงปัญหา รับรู้ถึงความท้าทาย และมีความตั้งใจร่วมกันที่จะดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง

นอกจากนี้ ประชาคมโลกยังได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ พร้อมกับอีก 67 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ในการประชุมสหภาพรัฐสภาโลก (Inter-Parliamentary Union) ยังได้หยิบยกประเด็น “การหลอกลวงและอาชญากรรมทางไซเบอร์” มาหารือในฐานะวาระเร่งด่วน โดยมีประเทศไทยเป็นผู้เสนอประเด็นดังกล่าว 

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่เพียงต้องการเข้าร่วม แต่ต้องการเป็นผู้นำ และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบร่วมกัน 

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง การฝึกอบรมร่วม และการพัฒนากลไกประสานงานเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากอาชญากรรมข้ามชาติ โดยประเทศไทยได้ประกาศให้ “การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ” เป็นวาระแห่งชาติ และเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยแนวทางแบบองค์รวมและบูรณาการ

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม ASEANAPOL ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ และร่วมกันพัฒนากรอบความร่วมมือเชิงรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพร่วมกันในการรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติในทุกมิติ พร้อมเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะเป็นทิศทางเชิงกลยุทธ์ให้กับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน คือ “ความมั่นคงและความรุ่งเรืองของภูมิภาคอาเซียนและประชาคมโลกโดยรวม”

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมต่อความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกประเทศที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันความร่วมมือของภูมิภาค พร้อมอวยพรให้การประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อความสงบสุขและปลอดภัยของประชาชนในภูมิภาคและทั่วโลก

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top