วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
            
								นายกฯ ประกาศเดินหน้า ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ -สแกมเมอร์ ตามแนวชายแดน ย้ำ ไม่ละเลย ดูแลชายแดนไทย-เมียนมา หลัง KK Park กำลังถูกกวาดล้าง เผย จับตากลุ่มบุคคลมีชื่อเสียง-นักการเมือง เอี่ยวอาชญากรรมออนไลน์แบบปิดชื่อดูพฤติกรรม ไม่มีใครรอด ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากบุญคุณประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 พ.ย.68 ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียนครั้งที่ 43 (The 43rd ASEANAPOL Conference) ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเน้นอาชญากรรมทางออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงการค้ามนุษย์ ไซเบอร์สแกมเมอร์ เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้บรรจุเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ทำให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานต่อเนื่องมาโดยตลอด มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ เพราะเป็นอาชญากรรมที่ทำลายเศรษฐกิจ ทรัพย์สิน และชีวิตของประชาชน หากไม่ดำเนินการอย่างเต็มที่และไม่ได้ความร่วมมือจากประเทศในภูมิภาคจะส่งผลให้ความเสียหายเกิดขึ้นในทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่า ไม่มีประเทศไหนยอม ซึ่งในวันนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานด้านนี้ไม่ได้ทำอยู่ฝ่ายเดียว ยังหาความร่วมมือในประเทศภูมิภาคอาเซียนและยืนยันว่า ทุกหน่วยงานจะทำหน้าที่ด้วยความเด็ดขาดและเข้มงวด
เมื่อถามถึงกรณีการดูแลแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ขณะนี้ พื้นที่ KK Park ได้รับการปราบปรามอย่างหนัก จะมีการเพิ่มมาตรการอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการในทุกๆด้าน ไม่ใช่เฉพาะชายแดนฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ส่วนไหนที่พบว่า การข่าวได้รับทราบมาและประเมินแล้วมีความสุ่มเสี่ยงต่อประเทศไทย ชีวิต และทรัพย์สินประชาชน ทุกหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการยึดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก พร้อมดำเนินคดีอีกหลายข้อหา ซึ่งทำอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

"ต้องขอความเข้าใจจากประชาชน บางทีเห็นการนำเสนอข่าว การพาดหัวข่าวว่า ไม่ได้ทำ ไม่ได้ใส่ใจ เรื่องนี้ไม่ใช่ ซึ่งทำมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะสองเรื่องนี้ ยังมีการปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติด บ่อนการพนัน ทุก ๆ เรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาของสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เท่าที่ตนเองทำงานร่วมกันมาและในฐานะที่รู้จักกันมานาน เป็นเพื่อนกันหมด แถวนี้ ก็ได้เห็นทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ซื่อสัตย์สุจริต และเต็มความสามารถ เรื่องพวกนี้เราไม่ปล่อยปละละเลย ย่อหย่อน เห็นแก่พวก ไม่มีหรอกครับ มันอยู่เหนือความสัมพันธ์ใด ๆ อยู่เหนือความต้องการผลประโยชน์ใด ๆ แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนที่ทุกคนไม่มีวันจะยอมให้สิ่งเหล่านี้มาทำลายประเทศและประชาชน" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามต่อถึงกรณีการปราบปรามในเรื่องนี้มักมีบุคคลสำคัญและนักการเมืองอยู่เบื้องหลังอาชญากรรมเหล่านี้ นายกฯ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เลขาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)และรมว.ยุติธรรม ได้ทำงานปิดชื่อ ดูพฤติกรรม เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะไปโดนใครก็จะไม่ยกเว้น ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่า เราไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร พวกตนกินเงินเดือน ภาษีจากประชาชน ดังนั้น การที่จะปกป้องหรือคุ้มครอง ทำคุณประโยชน์ให้ ก็คือ คนที่จ่ายภาษี จ่ายเงินเดือนให้กับพวกเรา นั่นก็คือ ประชาชน ขอให้เลิกกังวล เลิกพยายามคิดว่า กระแสข่าวที่ไปเกี่ยวข้องหรือขัดขวางการปราบเรื่องนี้ ขอให้มั่นใจว่า ทุกท่านที่ยืนอยู่ตรงนี้ขึ้นมาด้วยความสามารถของตนเองทั้งนั้น ไม่ได้ติดใครหรือมีหนี้บุญคุณที่ต้องชำระใคร นอกจากบุญคุณประเทศและประชาชนและเป็นหน้าที่ที่พิทักษ์ปกป้อง
เมื่อถามต่อว่าการประชุมนี้จะมีการพูดคุยกับกัมพูชาในการเพิ่มมาตรการปราบปรามอย่างไร นายกฯกล่าวว่า แน่นอนจะต้องมีการพูดคุยและได้มีการทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว ไม่ได้หยุด ถึงแม้ว่า มีปัญหาอยู่ แต่ในปฏิญญาที่ได้ลงนาม เรื่อง สแกมเมอร์ เป็นเรื่องหนึ่งในสี่ข้อที่ได้หารือกับกัมพูชาและเป็นเงื่อนไขที่สองประเทศจะต้องปฏิบัติร่วมกัน
								
							
								
							
								
							
								
							
								
							โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี