วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘วิโรจน์’ออกโรงป้อง‘นายกฯ’อย่าเพิ่งกล่าวหาเอื้อประโยชน์‘ทุนเทา’ ชี้ยุบสภาเป็นอำนาจ‘อนุทิน’ ก่อนแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ย้ำ‘รธน.60’โซ่ตรวนขวางพัฒนา ยันพร้อมจับมือ‘เพื่อไทย’ยื่นซักฟอก หากรัฐบาลผิดฉกรรจ์ ไม่โยงเป็นเกมการเมือง
5 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักษณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ต้องรับผิดชอบหรือไม่ ที่ปล่อยให้ทุนเทายึดประเทศว่า ต้องบอกว่ามีอำนาจดำเนินการ เพราะวันนี้ท่านถืออำนาจ แต่เราอย่าเพิ่งไปกล่าวหาท่านว่าท่านเอื้อประโยชน์ให้ทุนเทา เพราะท่านเพิ่งมารับตำแหน่ง แต่ท่านมีหน้าที่ต้องจัดการกับทุนเทาเหล่านั้น โดยสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีอาจยุบสภาก่อนวันที่ 31ม.ค.69 หากมีความสุ่มเสี่ยงทางการเมืองจะกระทบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ เราก็ทำตามหน้าที่กันไป ในส่วนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญตนคิดว่าคณะกรรมาธิการที่พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ทำเต็มที่ ซึ่งการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะยุบสภาก็ต้องว่ากันไปในสภาฯ สมัยหน้า
เมื่อถามว่า แบบนี้จะถือว่าผิดสัญญาใน MOA หรือไม่เพราะจะทำจะเสียของ เนื่องจากยังแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่างน้อยเราได้พยายาม เราพูดมาตลอดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ส่วนที่พรรคประชาชนต้องพูดถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ก็เพราะกฎระเบียบของประเทศ จะโอเคหรือไม่ที่ 2 ปีเปลี่ยนนายกฯ 3 คน แล้วจะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจได้อย่างไร อย่างนโยบายเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้กลายเป็นแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งคนละครึ่ง ชอปช่วยชาติ แต่นโยบายเศรษฐกิจ ต้องพูดถึงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่ กระจายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น
“ผมเคยคุยกับสส.พรรคเพื่อไทย ว่าถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้น แล้วนโยบาย 30 บาท ยังไม่เคยเกิด แต่มาเกิดในยุคนี้คิดว่าจะผ่านหรือไม่ คำตอบคือไม่น่าผ่าน เพราะแค่คิดก็จะมีนักร้องไปร้อง แล้วจะมีเก้าอี้ 9 ตัว ทำตัวเป็นเดอะวอยซ์กดหันหลัง แล้วก็ไปกันไม่ได้ สิ่งที่ผมพูดไม่เกินไป ระบบแบบนี้เคยเกิดขึ้นในรถไฟความเร็วสูง สุดท้ายทำให้ประเทศเราถูกเหนี่ยวรั้ง ถูกโซ่ตรวนในการพัฒนาประเทศ ทำได้แต่คนละครึ่งคนละข้างแบบนี้ และย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า คาดหวังว่านายกฯ จะยุบสภาหลังจาก ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขผ่านวาระ 3 แล้วหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่าตนก็คาดหวัง หากพรรคภูมิใจไทยเห็นปัญหาเดียวกับเราว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นโซ่ตรวนในการพัฒนาประเทศ ตนก็ตั้งคำถาม ว่าคนที่ร่างรัฐธรรมนูญปี 60 วันที่ร่างรู้จักปัญญาประดิษฐ์แล้วหรือไม่ ซึ่งคิดว่าเขาไม่เคยคิด
“เขาจินตนาการอนาคตโดยเอาอดีตมาจินตนาการ แต่การจินตนาการในอนาคตต้องใช้ความเป็นปัจจุบัน เพื่อจินตนาการอนาคตข้างหน้า Good Old Days ย้อนรำลึกวัยหวาน แล้วก็เป็นนโยบายที่ไม่ใช่อนาคต แต่ผมจะเรียกว่านโยบายที่แก้ไขอดีตที่คุณไม่พึงพอใจ แล้วคุณเรียกสิ่งนั้นว่าอนาคต“ นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ มีโอกาสที่พรรคประชาชนอาจจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากมีเนื้อหาสาระที่จำเป็นต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาชนก็พร้อมที่จะยื่น เพราะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง MOA หากมีเรื่องที่หนักหนาสากันหรือประเด็นที่เป็นภัยร้ายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนพรรคประชาชนก็พร้อมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และพร้อมที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเอาเนื้อหามาคุยกัน
“แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอภิปรายโดยยึดกับเนื้อหาสาระ ถึงความผิดฉกรรจ์ที่รัฐบาลก่อ และเนื้อหาสาระในการอภิปราย เราจะไม่ใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาเป็นเกมทางการเมืองหรือเป็นช่องทางระบายความแค้นส่วนตัวของใคร เรายึดเนื้อหาสาระเป็นหลัก หากมีเนื้อหาสาระที่มากพอก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายวิโรจน์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี