ไทยไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์ ‘อนุทิน’เสียงแข็ง ชี้ถูกใช้เป็นฐานฟอกเงิน ไม่มีมาเฟียใหญ่กว่ารบ.

ไทยไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์ ‘อนุทิน’เสียงแข็ง ชี้ถูกใช้เป็นฐานฟอกเงิน ไม่มีมาเฟียใหญ่กว่ารบ.

วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ไทยไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์
‘อนุทิน’เสียงแข็ง
ชี้ถูกใช้เป็นฐานฟอกเงิน
ไม่มีมาเฟียใหญ่กว่ารบ.
กมธ.มั่นคงเล็งชง43ชื่อ
ให้รัฐตรวจสอบขึ้นบช.ดำ

นายกฯลั่นไม่แฟร์! ยันไทยไม่ใช่ศูนย์กลางสแกมเมอร์ แต่เป็นประเทศตรงกลางที่ถูกใช้เป็นฐานฟอกเงิน ย้ำต้องบังคับใช้กฎหมายเข้ม กร้าวไม่มีนักเลง-มาเฟีย คนไหนใหญ่กว่ารบ. รับเป็นคนบอกให้อดีต รมช.คลังลาออก หลังเจอครหาโยงสแกม โวรบ.นี้ใช้กม.มุ่งที่พฤติกรรมรูปคดี ไม่ใช้กลไกรัฐกำจัดคู่แข่งทางการเมือง เหมือนที่เคยโดนตอนรบ.ที่แล้ว เหน็บอารยะปท.ไม่ทำกัน ด้าน‘กมธ.ความมั่นคงฯ’ เตรียมส่ง 43 รายชื่อโยงเอี่ยว ‘สแกมเมอร์’ ให้ทางการสอบ-แบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศ ยังไม่ท้อเรียก ‘นายกฯ-ธรรมนัส’ แจงกมธ.ฯ

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่สยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” รูปแบบการสัมภาษณ์ โดยผู้ดำเนินรายการถามความคืบหน้าการปราบสแกมเมอร์


ไทยถูกใช้เป็นฐานฟอกเงิน-ไม่ใช่ศูนย์สแกม

นายกฯกล่าวว่า เราต้องทำความเข้าใจ ก่อนจะบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน ไม่ค่อยแฟร์ สแกมเป็นสิ่งน่ารังเกียจ เราอยู่ตรงกลางเป็นประเทศตรงกลาง รอบๆประเทศที่ทำสแกม สิ่งที่ทำให้คนที่ทำธุรกิจเหล่านี้ ไม่ใช่สแกมฯอย่างเดียว แต่มีเรื่องยาเสพติด ค้ามนุษย์ เป็นสิ่งไม่ใช่สีเทาแต่เป็นสีดำ ที่ต้องใช้ไทยเป็นฐานฟอกเงิน สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ในไทยคือ มีกฎหมายเคร่งครัดเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ที่ตั้งใจปราบปรามสิ่งนี้ ซึ่งเรามีกลไกลหมด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)เตรียมไว้หมดและทำไปเยอะแล้ว แต่ของแบบนี้เป็นเรื่องปฎิบัติทางลับ จะไปบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนทุกวัน ฉะนั้น ตนบอกเสมอว่าเราต้องอยู่เหนือคนทำผิด ไม่ใช่ไล่ตามเป็นโปลิศจับขโมย และหากต้องการเครื่องมือรัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน

ลั่นไม่มีมาเฟียใหญ่กว่ารบ.-เซ็นเช็คเปล่าลุยปราบ

“ในเรื่องการเกรงกลัวผลประโยชน์ใดๆ นายกฯยืนยันกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ว่าเราเป็นรัฐบาลไม่มีนักเลง ไม่มีมาเฟียคนไหน ขาใหญ่คนไหนที่จะใหญ่กว่ารัฐบาลได้ ในเมื่อรัฐบาลไม่เกรงกลัวผู้ปฏิบัติก็ต้องไม่กลัวด้วย”นายกฯกล่าว และว่า รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าในการสนับสนุนเพื่อปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ คุยกันทุกวัน ผลงานมีตลอด ทั้งเรื่องยาเสพติด เดือนเดียวจับได้หลายล้านเม็ด เรื่องสแกมก็ยึดทรัพย์ได้เยอะมาก สัปดาห์ที่แล้ว ถอนสัญชาติขาใหญ่สแกมเมอร์ รัฐบาลเข้ามาทำงาน 3 สัปดาห์ถอนสัญชาติไปแล้ว ไม่เกรงกลัวใคร แม้ว่าจะมีการอ้างว่ามีแม่เป็นคนไทย แต่เมื่อสืบแล้วไม่ใช่ ก็ได้ถอนสัญชาติและอายัติทรัพย์

นายกฯยืนยันว่า เราทำงานอยู่ตลอด ยาเสพติดจับได้เดือนเดียวหลายสิบล้านเม็ด สแกม ยึดทรัพย์ 2 หมื่นกว่าล้านบาท แบล็คลิสต์และอาหรับยัดทรัพย์เยอะมาก แต่ของแบบนี้ไม่สามารถบอกได้ เป็นการสืบทางลับและขยายผลยึดทรัพย์ไปเรื่อยๆ สัปดาห์ที่แล้วถอนสัญชาติขาใหญ่รายหนึ่งสัญชาติไทย 30 ปี รัฐบาลของตนเข้ามา 3 อาทิตย์ถอนสัญชาติเรียบร้อย ไม่เห็นมีปัญหา ก็จะดำเนินการต่อไปยังเครือข่าย

รับเป็นคนบอกให้อดีตรมช.คลังลาออก

นายอนุทินยังตอบคำถามผู้ดำเนินรายการถึงกระแสข่าวพาดพิงอดีตรมช.คลัง ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวข้องกับเรื่องสแกมว่า ท่านถูกครหา แต่ยังไม่ถูกกล่าวหา ยังไม่ได้มีหลักฐานใดๆ และไม่มีหน่วยงานไหนทั้งไทยและต่างประเทศที่ดำเนินคดีกับท่าน แต่เมื่อมีข่าวออกมาต่อเนื่อง ตนก็เรียนท่านตรงๆ ตนนี่แหละเป็นคนไปบอกให้ท่านลาออก ซึ่งท่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี อะไรที่พอถูกครหาหาขึ้นมาแล้ว ท่านอยู่ในกระทรวงที่เรากำลังต้องใช้กลไกของกระทรวงไปปราบสิ่งเหล่านี้ ท่านก็แสดงสปิริตทันที และการดำเนินการต่างๆ ไม่มีทางพ้นไปจากหน่วยงานที่เขากำลังดำเนินการ ถ้าท่านไม่ผิดก็คือไม่ผิด จะไปบอกผิดไม่ได้

ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นใช้กลไกรัฐกำจัดคู่แข่ง

“การใช้กฎหมายในรัฐบาลของผม มุ่งไปที่พฤติกรรมรูปคดี ไม่ใช่ไปบอกเกลียดคนนี้ ไม่ชอบคนนี้ เดี๋ยวคนนี้มาเป็นคู่แข่งทางการเมือง ต้องพยายามเอาเขาออกให้ได้ เหมือนที่พวกผมเคยโดนมา ความจริงมาตรงนี้ คนก็จะไปบอกว่า ผมจะย้อนรอยหรือเปล่า ไม่มีเลย และผมคิดว่าสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่เขาพยายามใช้กลไกของรัฐกำจัดคู่แข่งทางการเมือง หรือมากีดกันกล่าวหา เพื่อให้เกิดความเสียหาย มันเป็นสิ่งที่ประเทศอารยะเขาไม่ทำกัน และปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะจะเกิดเป็นกงกรรมไม่จบไม่สิ้น นักการเมืองทะเลาะกัน ใช้กลไกรัฐกลั่นแกล้งกัน คนที่เดือดร้อนคือประเทศและประชาชน ซึ่งคนจะเป็นนักการเมืองต้องไม่ทำเช่นนั้น และผมก็ไม่ทำเช่นนั้น”นายกฯกล่าว และย้ำว่า วันนี้รัฐบาลนี้ ถ้าไม่ใช่ 4 เดือน ไม่นับเวลาของมัน ตนว่าอำนาจมากที่สุดตั้งแต่มีรัฐบาลมาในรอบ 20-30 ปี นายกฯเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยกำกับดูแลกระทรวงสำคัญทุกกระทรวง ถ้าตนเจ้าคิดเจ้าแค้นสนุกเลย เดือนหนึ่งก็ทำได้แล้ว อย่าว่าแต่ 4 เดือนเลย แทนที่ตนจะเจ้าคิดเจ้าแค้น ตนก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเปลี่ยน

เล็งชง43ชื่อโยงสแกมให้รัฐสอบขึ้นบช.ดำ

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศแถลงผลประชุมกมธ. ในประเด็นการตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ว่า กมธ.จะทำหนังสือรายชื่อบุคคลต่างๆรวม 43 คน ที่เราแบ่งเป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งเรามีข้อมูลและจะส่งไปให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบ และจัดทำเป็นแบล็กลิสต์ว่าเป็นบุคคลที่อาจไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ รวมถึงอาจต้องตรวจสอบความเกี่ยวพันกับแก๊งสแกมเมอร์มากน้อยแค่ไหน ส่วนผู้ต้องสงสัยเป็นชาวไต้หวัน ความคืบหน้าเชิงรายละเอียดยังไม่มี และต้องยอมรับว่าหน่วยงานต่างๆ ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือเต็มที่เท่าที่ควร แต่เราคาดหวังว่าเราควรเห็นความก้าวหน้ากว่านี้ เพราะปัญหาต่างๆร้ายแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่าสัปดาห์หน้าจะเชิญใครเข้ามาชี้แจงบ้าง นายรังสิมันต์กล่าวว่า จะสรุปและทำหนังสือแจ้งไปอีกครั้ง แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นนายกฯและร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรฯ

รบ.ผนึก14เครือข่ายเซ็นMOUปราบสแกม

ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯจะเป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer) ในวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบฯ โดย 14 หน่วยงานภาครัฐร่วมลงนามใน MOU ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าปราบสแกมเมอร์ พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ใช้ทุกระบบ เครื่องมือ และกลไกที่ทันสมัยเข้ามาใช้ โดยบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งนายกฯใช้บทบาททุกเวทีส่งเสริมความร่วมมือเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ซัดไทยมัวแต่รำตั้งกก.สอบสแกม

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ หนีไม่พ้น ทั่วโลกกดดันเขมรเรื่องสแกมเมอร์ แต่ไทยยังมัวแต่รำตั้งกรรมการสอบ สส.เมกาเสนอร่างกฎหมาย HR5490 เข้าสภาให้เขมรเป็นประเทศอาชญากรรม พร้อมรายชื่อแบล็กลีสอีกกว่า 40 ชื่อ คนดังๆที่เดินเข้าออกและสนิทสนมคนไทย เอาเถอะจะปฏิเสธพลิกลิ้นยังไงเชิญเต็มที่ อย่าให้เขาแพลมชื่อนักการเมืองไทยพัวพัน ถึงตอนนั้น ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ศักดิ์ศรีประเทศชาติเสียหายขายขี้หน้า เมกาสั่งยึดเงินห้าแสนล้าน เกาหลีใต้ สิงค์โปร์แปดเปื้อนสั่งยึดทรัพย์ย่านนี้เหลือแต่ไทย จะรอดหรือสวรรค์ของคนเทาๆ มีนักการเมืองเป็นเพื่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top