‘กมธ.แก้รธน.’องค์ประชุมล่ม ก่อนโหวตเคาะเฟ้นหา‘องค์กรทำรัฐธรรมนูญใหม่’ นัดใหม่ 12 พ.ย.

‘กมธ.แก้รธน.’องค์ประชุมล่ม ก่อนโหวตเคาะเฟ้นหา‘องค์กรทำรัฐธรรมนูญใหม่’ นัดใหม่ 12 พ.ย.

วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.51 น.

งานหยาบ!‘กมธ.แก้รธน.’องค์ประชุมล่มก่อนโหวตเคาะประเด็นเฟ้นหา‘องค์กรทำรัฐธรรมนูญใหม่’ นัดอีกครั้ง 12 พ.ย.นี้ ด้าน‘โฆษก กมธ.’เรียงหน้าถามหาวุฒิภาวะ-ความรับผิดชอบ หวั่นเกิดปัญหาในอนาคต รับหากมีประเด็นต้องพิจารณาเพิ่ม ‘ไทม์ไลน์’อาจขยับได้ ขณะที่‘เอกพร’ปัดยื้อเล่นเกมการเมือง แต่ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับร่างฯพรรคส้ม-มีคุณภาพ

7 พ.ย.2568 เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ ... พ.ศ. ... รัฐสภา ที่มีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธานกมธ. ซึ่งกำหนดวาระประชุมเพื่อลงมติตัดสินในเนื้อหาของร่างมาตรา 256/1 ว่าด้วยองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าจะให้มี เฉพาะคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น หรือให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเริ่มประชุม พบว่าที่ประชุมสามารถเปิดประชุมและให้กมธ.ที่เสนอแนวทางต่างๆ ได้นำเสนอแนวคิดและรายละเอียดให้กมธ.ได้พิจารณาและซักถามในรายละเอียดต่างๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายเนื้อหาเสร็จสิ้นจนถึงเวลา 12.00 น. แล้ว ประธานในที่ประชุม ระบุว่า ให้มีการลงมติตัดสินเพื่อให้ได้พิจารณาในเนื้อหาอื่นต่อไป แต่ปรากฏว่าก่อนลงมติต้องตรวจสอบองค์ประชุม แต่พบว่า มีกมธ.อยู่ในห้องประชุมเพียง20 คนจากกมธ.ทั้งสิ้น 43 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ต้องปิดประชุม และนัดประชุมใหม่ในวันที่ 12พ.ย.นี้เวลา 09.30 น. โดยกำหนดให้นัดลงมติทันที

จากนั้นเวลา13.00น. นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) พร้อมด้วย น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน (ปชน.) และนายเอกพร รักความสุข สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะโฆษก กมธ.ฯ แถลงผลการประชุม กมธ. ภายหลังองค์ประชุมล่ม

นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ กมธ.พิจารณาในส่วนของมาตรา 256/1 เรื่ององค์ประกอบขององค์กรที่จะจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องลงมติ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถลงมติในมาตรานี้ได้ เพราะกมธ.ที่มาประชุม ไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อในมาตรานี้ได้ ทั้งที่เป็นมาตราสำคัญ หากลงมติได้จะทำให้การพูดคุยในมาตราถัดไปเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่ากมธ.เร่งพิจารณาอย่างเต็มที่ และพยายามให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาเดิม แต่วันนี้เกิดอุปสรรคในแง่ขององค์ประชุม จึงเลื่อนการลงมติไปในวันพุธที่ 12พ.ย. เมื่อเปิดประชุมจะอยู่ในวาระแรกคือลงมติทันที ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้กรรมาธิการทุกท่านเข้าประชุม เพื่อหาฉันทามติให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เดินหน้าต่อไปได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด

ด้านนายเอกพร กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดในหลายแง่มุม แต่อยากเรียนว่าตอนที่เริ่มประชุมครั้งแรกกมธ.ทุกคนมีความเห็นพ้องกันว่าอยากที่จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จทันเวลา และมีการวางแผน 2 รูปแบบคือ หากสามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น เราก็จะเสนอให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลางเดือนพ.ย. แต่หากไม่สามารถทำได้ทัน ใช้เวลาตามปกติ ในสมัยประชุมสามัญวันที่ 12ธ.ค. ระยะเวลาในการลงมติ แม้จะต้องเว้นระยะเวลา 15 วัน ก็ยังทันช่วงเดือนมกราคม ยืนยันว่าเป็นไปตามกำหนด

นายเอกพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เราเห็นพ้องต้องการว่าจะมีคณะทำงานก่อนที่จะนำประเด็นต่างๆ เข้ามาหารือหรืออภิปรายในที่ประชุม กมธ. อีกทั้งประเด็นที่จะต้องมีการลงมติในวันนี้ มี 2 ทางคือ 1.ออกไปตามร่างของพรรคประชาชน และ 2.สร้าง ส.ส.ร. ซึ่งเป็นการเสนอโดยสมาชิกพรรคเพื่อไทย แม้จะเลือกทางใดทางหนึ่งก็อยู่ในกรอบที่เราตกลงกันตั้งแต่แรก แต่การที่ไม่สามารถลงมติได้ในวันนี้ มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ มีกมธ.ส่วนหนึ่งติดภารกิจที่ต่างประเทศ และสส.ต้องลงพื้นที่

“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ว่ามีใครไม่อยากลงมติ หรือเล่นเกมการเมือง แต่การทำงานของกมธ.ที่พิจารณาประเด็นว่าจะให้มีองค์กรทำรัฐธรรมนูญใหม่แบบใด ระหว่างเป็นไปตามร่างหลักของพรรคประชาชน กับการมี ส.ส.ร. เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาออกแบบให้มีคุณภาพ” นายเอกพร กล่าว

เมื่อถามถึง สาเหตุที่องค์ประชุมไม่ครบครบ น.ส.พนิดา กล่าวว่า กมธ.ท่านอื่นๆ มีภารกิจเร่งด่วน เช่น กลับไปดูพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม และการป้องกันเรื่องพายุ ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ในเวลา 12.30 น. ตามที่ประธาน กมธ.กำหนดไว้

เมื่อถามว่า มีประเด็นอื่นๆ ที่ขัดแย้งกันมากทำให้ไม่สามารถลงมติได้ ด้วยหรือไม่ น.ส.พนิดา กล่าวว่า อาจมีความแตกต่างหลากหลายในประเด็นนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถได้ข้อสรุป และยังไม่สามารถมีฉันทามติได้ว่ารูปแบบที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของผู้เขียนร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร โดยจุดนี้อาจเป็นจุดที่ทำให้หลายคนมีความกังวล และเชื่อว่าคณะทำงานของ กมธ. อาจสามารถหาข้อสรุปได้และมีการลงมติในวันที่ 12 พ.ย.นี้ เพื่อที่จะสามารถเดินหน้าต่อในมาตราต่อไปที่จะมีผลจากการกำหนดในมาตรา 256/1 (1)

เมื่อถามว่า สัดส่วนของ กมธ.ที่หายไปมีจำนวนเท่าไหร่ น.ส.พนิดา กล่าวว่า จริงๆ เป็นสัดส่วนของหลายพรรค มีทั้งสส. และ สว. ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ซึ่งวาระสำคัญแบบนี้ถ้าองค์ประชุมไม่ครบก็อาจจะมีปัญหาในอนาคต เพราะหากลงมติแล้วเสียงปริ่มน้ำก็อาจจะเกิดปัญหา จึงจำเป็นต้องปิดการประชุมในวันนี้ แล้วพิจารณาใหม่ในวันพุธหน้า

เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องมีส่วนในความรับผิดชอบด้วยหรือไม่ น.ส.พนิดา กล่าวว่า จริงๆ กมธ.ทุกท่าน มีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และเป็นความคาดหวังของประชาชน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ขณะที่นายนรเศรษฐ์ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตนไม่ขอเจาะจงว่าเป็นสส.จากพรรคไหน หรือจะเป็น สว. และเชื่อว่ากมธ.เข้าใจอยู่แล้วว่ามาตรานี้มีความสำคัญอย่างไร เราคุยกันมาหลายวัน ไม่ใช่ว่าเราจะมาปุ๊บปั๊บจะลงมติเรามีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ซึ่งขอเรียกร้องไปว่าภารกิจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

เมื่อถามว่า ไม่ได้มีการวอล์กเอาต์ใช่หรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า มีบางส่วนที่อยู่ในห้องประชุม แต่เมื่อถึงเวลาที่เราจะลงมติแล้ว เราก็ไม่ได้มีการสังเกตว่าท่านใดบ้างที่มีการวอล์กเอาต์ มีเพียงการนับองค์ประชุม และปรากฏว่าองค์ประชุมไม่ครบ พบว่ามีเพียงประมาณ 20 กว่าคน ขาดไป 2 คน

เมื่อถามว่า การลงมติไม่ได้ปุ๊บปั๊บ เป็นไปได้หรือไม่ว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะมีธงในใจแล้ว นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนสามารถประเมินได้ ส่วนตัวตนคิดว่า กมธ.ทุกคนมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันมาตลอดคือ สิ่งใดที่ยังมีความคิดเห็นที่ต่างกันสามารถใช้พื้นที่ใน กมธ.ในการพูดคุยเพื่อหาฉันทามติร่วมกันเพื่อที่จะสามารถเดินต่อไปได้

นายนรเศรษฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่ยังไม่ตกผลึกสามารถนำมาพูดคุยกันได้ ผู้ที่เป็นเจ้าของร่างและกมธ.มีหน้าที่ที่จะชี้แจงอยู่แล้ว หากท่านต้องการเวลา ตนคิดว่าเราก็สามารถที่จะพูดคุยกันได้อย่างมีวุฒิภาวะ เข้าใจว่าบางท่านอาจมีภารกิจในพื้นที่ แต่ก็อยากให้ทุกท่านให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าการประชุมครั้งต่อไป อาจจะเกิดปัญหาอีก นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าในช่วงสัปดาห์หน้า ประเด็นนี้ได้มีการถกเถียงกันไปพอสมควรแล้ว และเป็นประเด็นที่จะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนและถกเถียงกันในประเด็นย่อยได้ต่อไปอีกในหลายประเด็น และหากเราสามารถมีฉันทามติร่วมกันได้ในสัปดาห์นี้ ตนคิดว่าจะทำให้งานสามารถคืบหน้าต่อไปได้ แต่หากเป็นสัปดาห์หน้าตนคิดว่าเราจะพยายามให้ได้ฉันทามติภายในวันที่12พ.ย. หาก กมธ.ท่านใดที่ยังมีข้อกังวลอยู่ ตนคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือพื้นที่ กมธ.จะเป็นพื้นที่ที่สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกัน และมีหลายวิธีที่จะสามารถทำให้การผลักดันในประเด็นนี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้ายังมีปัญหาอยู่ ไทม์ไลน์ที่วางไว้จะต้องขยับหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า เราจะพยายามเดินตามไทม์ไลน์เดิมที่ทาง กมธ.เซ็ตเอาไว้ แต่ไม่ได้ฟิกตายตัว ซึ่งหากมีประเด็นที่เราต้องใช้เวลาในการพูดคุยแลกเปลี่ยนหรือพิจารณาเพิ่มเติม ไทม์ไลน์ก็อาจจะมีการขยับได้

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top