วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เศรษฐกิจชีวิตประจำวัน! ‘นักวิชาการ’ ชี้ ‘รัฐบาลอนุทิน’ เดินนโยบายเศรษฐกิจได้ผลจริง เน้นขยายกำลังซื้อจากฐานราก สร้างความมั่นใจให้ประเทศเดินหน้า
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2568 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวให้ความเห็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีว่า เป็นรัฐบาลที่เลือกใช้แนวทางที่ทำได้ง่ายที่สุด เน้นผลลัพธ์ที่ประชาชนสัมผัสได้จริงในชีวิตประจำวัน และขับเคลื่อนผ่านนโยบายที่สอดประสานกันทั้งระบบ
ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าเศรษฐกิจชีวิตประจำวัน(Everyday Economy) หรือเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมาในตลาดสด ร้านขายของชำ ร้านกาแฟ และชีวิตของคนทำงานรายวัน มากกว่าเน้นตัวเลขการเติบโตในเอกสารรายงาน เพราะหัวใจของการฟื้นเศรษฐกิจไทยในเวลานี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นของผู้คน และ การหมุนเวียนของเม็ดเงินในระดับฐานราก
“สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำได้ดีคือการคืนชีวิตให้ตลาด คืนแรงให้ชุมชน และคืนกำลังใจให้ประชาชน ผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสและการสนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าว
ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวอีกว่า หนึ่งในนโยบายที่สะท้อนแนวคิดดังกล่าวได้ชัดคือ “คนละครึ่งพลัส” ที่เริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2568 ต่อเนื่องถึงสิ้นปี โดยรัฐบาลสนับสนุนวงเงินให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านแอป “เป๋าตัง” เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพและกระตุ้นการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน โดยรัฐร่วมจ่ายไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โครงการนี้ไม่เพียงเพิ่มอำนาจซื้อ แต่ยังสร้าง “ความรู้สึกมั่นใจ” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะเมื่อคนเริ่มจับจ่าย ร้านค้าก็เริ่มมีรายได้ และภาคบริการโดยรอบก็ฟื้นตัวตามมา ผศ.ดร.วันวิชิตระบุว่า นี่คือ การออกแบบนโยบายด้วยมุมมองมนุษย์ ที่ไม่ได้มุ่งผลเชิงสถิติเท่านั้น แต่คำนึงถึงจิตวิทยาทางสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง
“ต่างจากบางช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจดูดี แต่บรรยากาศในตลาดกลับเงียบเหงา รัฐบาลอนุทินเลือกทำในสิ่งที่ประชาชนรู้สึกได้จริง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดพลังทางเศรษฐกิจ” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าว
ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวต่อว่า นอกจาก “คนละครึ่งพลัส” รัฐบาลยังเดินหน้านโยบายอื่นควบคู่กัน เพื่อสร้างระบบฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการแก้หนี้รายย่อยผ่านกลไก AMC ที่เปิดทางให้ลูกหนี้รายย่อยสามารถปรับโครงสร้างหนี้ และกลับมามีเครดิตในระบบได้อีกครั้ง มาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง 1.5 เท่า ที่กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและกระจายรายได้สู่ชุมชน
โครงการพลังงานชุมชน ที่ส่งเสริมให้ท้องถิ่นสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้เอง เพื่อสร้างรายได้ยั่งยืนและลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน
ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางบริหารที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังเพราะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และภาคชุมชนในเวลาเดียวกัน
“รัฐบาลอนุทินทำงานแบบบูรณาการ เชื่อมโยงนโยบายระหว่างกระทรวง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าไปพร้อมกันทั้งระบบ ผลลัพธ์จึงเห็นได้จริงตั้งแต่ฐานล่างไปถึงโครงสร้างใหญ่ของประเทศ วันนี้ เศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นเพราะตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่ฟื้นเพราะประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลกำลังพาเขาไปข้างหน้า และรัฐบาลชุดนี้สามารถทำให้ความรู้สึกนั้นกลับมาได้จริง” ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าว
ผศ.ดร.วันวิชิต กล่าวด้วยว่า การเดินเกมเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทินเป็นตัวอย่างของการบริหารที่มีทิศทาง คือชัดเจนว่าจะพาเศรษฐกิจไทยออกจากภาวะชะลอตัวอย่างไร และจะทำให้คนไทยทุกกลุ่มรู้สึกมีส่วนร่วมในความเปลี่ยนแปลงนั้น รัฐบาลนี้ไม่ได้มองเพียงอัตราการเติบโต แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการเติบโต และนั่นคือสิ่งที่ทำให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจของไทยเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี