วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เข้าร่องแข้ง!‘โรม’ฮึ่มวันนี้ต้องไม่ใช่แค่‘ชนนพัฒฐ์’ แต่ต้องถึง‘ธรรมนัส’ บี้ถาม‘อนุทิน’ปลดคนนี้ ประเทศเสียอะไรชี้ยึดทรัพย์น้อยไป แค่เบี่ยงประเด็น-ลดกระแส ลั่นกัดไม่ปล่อยหาก‘นายกฯ’ยังปล่อยจอย หวั่นลามช่วงเลือกตั้งใช้‘ทุนเทา’ สุดท้ายอาจเกิดอำนาจรัฐที่มาปกป้อง
13 พฤศจิกายน 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่าวาระการพิจารณากมธ.วันนี้ จะมีการตรวจสอบนักการเมืองที่มีชื่อเกี่ยวโยงกับเว็บพนันและมีการเชิญนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม มาชี้แจงด้วย หลักๆเป็นเรื่องของเว็บพนัน เส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับนายชนนพัฒฐ์ และนักการเมือง ส. และยังมีการเชื่อมโยงกับนายตำรวจ ทั้งอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)และตำรวจ PCT4 ซึ่งเราไม่ได้เชื่อทันที ต้องให้ทุกคนได้มาชี้แจงต่อกมธ.ฯ และเมื่อดำเนินการไปแล้วก็คงต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ได้ยึดอายัดทรัพย์นายชนนพัฒฐ์แล้ว ต้องดูทรัพย์ที่อายัดไปมีรายการอะไรบ้าง ถ้าทรัพย์ที่เกี่ยวกับ สแกมเมอร์หรือเว็บพนัน น่าจะมีรูปแบบของคริปโต
นายรังสมันต์ กล่าวต่อว่า ไม่รู้ว่ามีการยึดอายัดทรัพย์คริปโตบ้างหรือไม่ รถหรู บ้าน ที่ดิน มีการยึดอายัดบ้างหรือไม่ ที่เราเห็นเป็นเพียงตัวเลขออกมาเท่านั้นเอง ซึ่ง 159 ล้านบาท น่าจะเป็นเงินหมุนเวียนในบัญชี และไม่มั่นใจว่าเป็นบัญชีทั้งหมดหรือไม่ แต่ถ้ายึดอายัดทรัพย์จริงต้องไล่ให้หมด ทำให้เกิดคำถามว่าที่ยึดอายัดมีใครบ้าง และตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ด้วยหรือไม่ เราพยายามทำให้ทุกคนได้อธิบายอย่างเต็มที่ นอกจากนายชนนพัฒฐ์แล้ว ยังมีนายสมยศ พลายด้วง สส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสมยศ น่าจะมาไม่ได้ เพราะติดภารกิจต่างประเทศ ส่วน นายชนนพัฒฐ์ก่อนที่จะมีการยึดอายัดทรัพย์ได้รับทราบว่าจะมาชี้แจง และจะมาพร้อมกับนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรมด้วย แต่ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนใจหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ได้รับการติดต่อว่าจะไม่มา
เมื่อถามว่ากรณีของนายชนนพัฒฐ์ กับนายสมยศ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเส้นเงินที่มีการโอนถึงกันเป็นเหตุผลอะไร แต่เบื้องต้นมีเส้นเงินที่ถึงกัน ก็ต้องรอให้ทุกฝ่ายชี้แจง ซึ่งเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ เยอะกว่ามาก จึงเป็นเหตุผลว่านายชนนพัฒฐ์ เป็นเป้าหมายในการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลที่ตนมีเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายชนนพัฒฐ์ และได้เชิญกรมสรรพากรมาให้ข้อมูลในการเสียภาษี ว่ามีการจงใจเลี่ยงภาษีหรือไม่
เมื่อถามว่ามีนักการเมืองอีก 3 คนที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นใคร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขอให้ไล่ไปทีละส่วนดีกว่า จะได้ไม่สูญเสียโฟกัส ส่วนจะไปถึงใครก็ต้องรอดู ตอนนี้ยอมรับว่ามีหลายคน สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากกว่านักการเมืองคือตำรวจ ตำรวจยังไปรับเงินเว็บพนัน สแกมเมอร์แล้วใครจะมาปราบสแกมเมอร์
“อันนี้ก็ชวนคิดกันดีๆ เราต้องยอมรับว่าสังคมไทย ประเทศไทยตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าทุนเทายึดประเทศ ถ้าเราไม่จัดการเรื่องนี้ดีๆ เราจะพบว่าท้ายที่สุดประเทศของเราอาจจะเต็มไปด้วยทุนสีเทาแล้วก็ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เรื่องเส้นทางการเงิน ตนมอบหมายให้นายปิยรัฐ จงเทพ สส. กทม.พรรคประชาชน เป็นผู้พิจารณารายละเอียด แต่อย่างไรก็ต้องฟังคำชี้แจงของผู้ร้องด้วย ทั้งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรช่วยเหลืออาญชากรรม และ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.
เมื่อถามว่าเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ จะเชื่อมโยงไม่ถึงพรรคการเมืองหรือไม่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องรอฟังว่า นายชนนพัฒฐ์ ซัดทอดหรือไม่ ซึ่งการซัดทอดในกระบวนการก็ไม่ได้หมายความว่า 100% เพราะอาจมีเหตุผลและแรงจูงใจอื่นก็ได้ และต้องดูเส้นเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าเส้นเงินที่เห็นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางบัญชีอาจจะมีการปิด แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นถ้าเงินที่ไหลเวียนไปยัง สส. ต่างๆก็ต้องดูว่า นายชนนพัฒฐ์อยู่ในฐานะใด ลูกมุ้ง หรือหัวหน้ามุ้ง ตนเข้าใจว่าการเมืองใช้เงินสด แต่ก็ไม่แน่ เพราะถ้าใช้เงินสดเราก็ไม่ได้ข้อมูลหลักฐานเส้นทางการเงิน
เมื่อถามว่า อยากเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ เคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มันคือการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่เรื่องของลูกพรรคอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นเรื่องของลูกพรรคอย่างเดียวก็คงมีกระบวนการอื่นจัดการได้ แต่วันนี้ ประเทศไทยมีภัยคุกคามคือทุนสีเทา ร.อ.ธรรมนัส คือหนึ่งในตอสำคัญที่ทำให้คนที่มองประเทศไทยข้าราชการไทยไม่เชื่อมั่น
“คุณธรรมนัสไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว จริงๆก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่เคยมี ฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้ คุณธรรมนัสต้องพิจารณาตนเอง ผมไม่เรียกร้องให้คุณธรรมมนัสแสดงสปิริตอะไร ไม่ได้สนใจว่าคุณธรรมนัสจะมีหรือไม่มี แต่ตั้งคำถามกลับไปที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ว่าท่านจะเอาแบบนี้ใช่มั้ย จะปล่อยจอยกับเรื่องนี้ใช่มั้ย ผมคิดว่าการตัดสินใจแบบนั้น เป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายประเทศไทย การตัดสินใจของนายกฯแบบนี้เป็นการปล่อยจอย ปล่อยให้ทุนสีเทายึดประเทศได้โดยง่าย ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ผมถามจริงๆ การปลดคุณธรรมนัสประเทศเสียอะไร นี่คือสิ่งที่ผมต้องตั้งคำถามกับคนที่ชื่ออนุทิน ว่า ธรรมมนัสถูกปลดประเทศไทยเสียอะไร ในทางตรงกันข้าม ธรรมนัสถูกปลดประเทศไทยได้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นการขจัดทุนสีเทา เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนตามที่นายกฯ ประกาศสงครามกับทุนเทา สแกมเมอร์ ว่าต้องการจะทำสงครามกับพวกนี้ แต่ก็ยังปล่อยให้พวกนี้มีอำนาจรัฐประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ไม่ได้แสดงถึงความจริงใจต่อการแก้ปัญหานี้เลย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เราต้องซีเรียสจริงจัง ว่าจะปล่อยให้ทุนเทามีอำนาจรัฐต่อไปจริงๆ หรือ” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีของนายชนนพัฒฐ์ จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือการลดกระแส วันนี้ยึดอายัดทรัพย์แล้ว แต่อย่างที่ตนบอกมันน้อยไป และยังไม่เห็นรายละเอียดการยึดอายัดทรัพย์ สองเป็นการเบี่ยงประเด็น การที่นายชนนพัฒฐ์ถูกยึดอายัดทรัพย์ 90 วัน สังคมอาจจะไม่สนใจว่าสุดท้ายนายชนนพัฒฐ์รอดหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ต้องไม่ใช่แค่นายชนนพัฒฐ์ ถ้ารัฐบาลจริงใจในการทำเรื่องนี้ มันต้องร.อ.ธรรมมนัส นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญ เราถึงจะยอมรับได้ว่าพอจะมีความก้าวหน้า หรือการแสดงออกที่จริงใจ แต่ขณะนี้ที่ทำอยู่มีแต่คำพูด ตนยืนยันจะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“หากนายอนุทินยังทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆ แบก ร.อ.ธรรมนัส อยู่แบบนี้ นายอนุทินก็มีแต่เสียกับเสีย และคงจะได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สุดแล้ว ต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศมาวาง ถ้าไม่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศให้มาก ยังแบกทุนเทาแบบนี้ไปเรื่อยๆ นายอนุทินจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า ประเมินมูลค่าทุนเทาไว้จำนวนเท่าไหร่ นายรังสิมันต์ ร้องโหและกล่าวว่า มหาศาล ไม่อั้น อันลิมิเต็ดแน่นอน แค่ปริ๊นส์ กรุ๊ป ก็มี 5 แสนล้านบาทแล้ว และนี่ตั้งกี่เครือข่าย ถ้าเงินทุนเทาใช้สำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้าจริงจะเกิดอำนาจรัฐ มาปกป้องทุนสีเทา ทุนสีเทาจะซื้อธุรกิจของไทย ซื้อบริษัทพลังงาน บริษัททางยุทธศาสตร์ และมีการเปิดร้านรายย่อยแข่งกับคนไทย สุดท้ายเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจของการฟอกเงิน ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ยังไม่รวมถึงการท่องเที่ยวและประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงิน จะทำลายเศรษฐกิจการเงินการคลังอย่างไร ตนไม่อาจจะนึกภาพได้ ความเสียหายของประเทศไทยนับเฉพาะเงินที่ไหลเข้าไหลออก 1.15 แสนล้าน แต่ความเสียหายที่แท้จริงยังไม่มีใครประเมินได้ อาจจะมากกว่านั้นเป็นล้านล้านแล้วก็ได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี