'กองทัพบก'ซัด'กัมพูชา' ฝ่าฝืนข้อตกลง-ยั่วยุชายแดนต่อเนื่อง

'กองทัพบก'ซัด'กัมพูชา' ฝ่าฝืนข้อตกลง-ยั่วยุชายแดนต่อเนื่อง

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.29 น.

"กองทัพบก"ซัด"กัมพูชา" ฝ่าฝืนข้อตกลง-ยั่วยุชายแดนอย่างต่อเนื่อง ย้ำมีความพร้อมในการรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทย

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงประเด็นสถานการณ์ไทย - กัมพูชา ที่ปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ความตึงเครียดอีกครั้ง ว่า แม้ว่ารัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ได้ร่วมลงนามในปฏิญญาร่วมไทย - กัมพูชา (Joint Declaration) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงตามแนวชายแดน ครอบคลุม 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์สแกม และการบริหารจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน จ.สระแก้ว ตามที่ทุกท่านได้ทราบดีแล้วนั้น


แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อฝ่ายไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการลักลอบวางทุ่นระเบิด โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้เกิดเหตุการณ์ และตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 หลายครั้ง เหตุการณ์ทั้งหมดมีลักษณะต่อเนื่องและเข้าข่ายเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างชัดเจน รวมทั้งหมด จำนวน 17 ทุ่น ดังนี้

ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

- เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ที่มีลักษณะการวางใหม่จำนวน 7 ลูก

- เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบแนวลวดหนามถูกตัดหลายจุด

- วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ทหารเหยียบกับระเบิดภายในแนวลวดหนามของฝ่ายไทยในระยะลึกเข้ามาประมาณ 7 เมตร ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 4 นาย และได้ตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 3 ลูก ในบริเวณใกล้เคียง

สำหรับเหตุการณ์พื้นที่อื่นๆ

- พื้นที่ปราสาทโดนตวล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 - 11 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบทุ่นระเบิดจำนวน 5 ลูก

- พื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ตรวจพบ PMN-2 จำนวน 1 ลูก

การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการขัดขวางกระบวนการสันติภาพในพื้นที่ชายแดนที่กำลังเดินหน้าไปด้วยดีแล้ว ยังเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างกันและอนุสัญญาออตตาวา

นอกจากนี้ กัมพูชาได้มีการเผยแพร่ข่าวปลอม บิดเบือนข้อมูลในหลายประเด็น โดยไม่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงแต่อย่างใด อาทิ การเสียชีวิตของเชลยศึก การกล่าวหาว่าทหารไทยเปิดฉากยิงใส่ประชาชนกัมพูชาก่อน การใส่ร้ายว่าไทยเป็นผู้วางทุ่นระเบิดเอง เป็นต้น ซึ่งความเป็นจริงคือ ฝ่ายกัมพูชาสร้างหลักฐานและคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จใส่ร้ายฝ่ายไทยโดยไม่มีมูลความจริงทุกประการ

ต่อกรณีนี้ จะเห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชามีเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมไทย - กัมพูชา (Joint Declaration) และกระทำการที่แสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์ต่อไทยอย่างชัดเจน จนนำไปสู่รัฐบาลไทยมีมติให้ระงับการดำเนินการตามข้อตกลง โดยกองทัพบกได้ระงับการถอนอาวุธหนัก รวมถึงการส่งกลับเชลยศึกในทุกกรณี แต่ฝ่ายไทยยังคงเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตอธิปไตยไทยต่อไป เพื่อให้พื้นที่มีความปลอดภัยและพร้อมสำหรับการปฏิบัติการทุกด้านที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ กองทัพบกมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ในกรอบการปฏิบัติของศูนย์บัญชาการทางทหาร และกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่จะส่งผลกระทบต่ออธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนไทยในทุกพื้นที่

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top