วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ประธาน กกต.ส่งหนังสือเตือนพรรคการเมือง 5 ประเด็น เกี่ยวกับการเตรียมเลือกตั้ง สส. ทั้งการหาสมาชิก-การตั้งสาขา-ตัวแทนประจำจังหวัด-การทำไพรมารีโหวต-นโยบายหาเสียง ย้ำยึดกฎหมายเคร่งครัด ละเลยโทษหนักทั้งจำทั้งปรับ เพิกถอนสิทธิ
เมื่อวันที่ 13 พฤสจิกายน 2568 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มอบหมายให้สำนักงาน กกต.มีหนังสือกำชับไปยังพรรคการเมือง เกี่ยวกับการดำเนินการตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ใน 5 เรื่องสำคัญ ดังนี้
1.การหาสมาชิกพรรคการเมือง ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้ามมิให้พรรคการเมือง หรือผู้ใด ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิก เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก หากพรรคการเมืองใดกระทำการดังกล่าวจะเป็นเหตุให้พรรคการเมืองนั้นถูกยุบได้ นอกจากนี้ หากพรรคการเมืองใดแอบอ้างว่าผู้ใดสมัครเป็นสมาชิกโดยผู้นั้นไม่รู้เห็นหรือไม่สมัครใจ หรือนายทะเบียน สมาชิกจัดทำทะเบียนสมาชิกอันเป็นเท็จ จะมีความผิดตามมาตรา 25 ประกอบมาตรา 107 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
2.การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองและประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด พ.ศ.2566 โดยต้องแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ดังกล่าว ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และปรับอีกวันละ 1,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
3.การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคการเมืองอย่างกว้างขวาง และเป็นไปตามมาตรา 49 มาตรา 50 และมาตรา 51 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดประชุมสมาชิกพรรค การเมืองเพื่อรับฟังความคิดเห็น การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 หากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หัวหน้าสาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี และหัวหน้าพรรคการเมืองผู้ใดออกหนังสือรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
4.การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณา พรรคต้องดำเนินการตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงินการประกาศโฆษณา นโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ (1) วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ (2) ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย (3) ผลกระทบและความเสียงในการดำเนินนโยบาย โดยให้พรรคการเมืองคำนึงถึงความเห็นของสาขาพรรคการ
เมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดด้วย หากไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
5.การควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกพรรคการเมือง คณะกรรมการบริหารพรรค และกรรมการบริหารพรรค มีหน้าที่ตามมาตรา 22 พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการควบคุมและกำกับดูแล มิให้สมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง กระทำการในลักษณะที่อาจทำให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ ตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของคณะกรรมการ หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว จะเป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรค การเมืองซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุดังกล่าว ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง และห้ามกระทำการอันมีลักษณะเป็นการก้าวก่าย หรือแทรกแซงการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง และมีให้มีส่วนร่วมในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือตำแหน่งอื่น หรือการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย กกต.มุ่งหวังให้ทุกพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พรรคการเมืองทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นสถาบันหลักในการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี