นายกฯไฟเขียว  เปิดสมัยวิสามัญ  แก้รธน.วาระ2-3  มุ่งเสร็จทันสิ้นปี

นายกฯไฟเขียว เปิดสมัยวิสามัญ แก้รธน.วาระ2-3 มุ่งเสร็จทันสิ้นปี

วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“นายกฯอนุทิน” หนุนเปิดสภาวิสามัญแก้ไขรธน.วาระ 2-3 หวังเสร็จทันสิ้นปี สอดรับเงื่อนไข MOA ภท.-ปชน. “พริษฐ์” ชงสูตร 20 หยิบ 1 เลือกกมธ.ยกร่างฯสกัดการผูกขาด! ลั่นต้องเปิดวิสามัญก่อนธันวาฯ ให้ทัน ‘โฆษกกมธ.แก้รธน.’เผยมติเสียงข้างมากเคาะสูตร ‘20จับ1’เฟ้นหา‘35กมธ.ยกร่างฯ’ต้องใช้เสียงรัฐสภา 2 ใน 3 ขีดเส้นให้รัฐสภาเลือกให้ได้ภายใน 60 วัน ดันถกต่อปมที่มา

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน.2568 ที่ทําเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงข้อเรียกร้องของพรรคประชาชนที่ต้องการให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3ว่าเราดําเนินการอยู่ ซึ่งนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสส.อ่างทอง เป็นผู้ประสานงานในส่วนของสภากับรัฐบาลซึ่งทางรัฐสภาก็มีการเตรียมพร้อมที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อให้วาระ 2และ3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี เป็นไปตามเงื่อนไขเอ็มโอเอที่พรรคภูมิใจไทย ทำไว้กับพรรคประชาชนขอย้ำว่าเอ็มโอเอเป็นข้อผูกมัด ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนซึ่งเราต้องดําเนินการเป็นไปตามนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล”นายกรัฐมนตรี ระบุ


เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กรรมาธิการยกร่างได้ข้อยุติเกี่ยวกับองค์กรจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพียงองค์กรเดียวคือกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจํานวน35คนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รายละเอียดให้ไปถามนายภราดร

นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนคณะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภาให้สัมภาษณ์ถึงนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ2และ3ว่าก็ต้องเป็นไปตามนั้น หากตามเงื่อนไขการยื่นซักฟอก มาตรา 151 ของพรรคประชาชน คือเราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเกิดการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เสร็จภายในสิ้นปี โดยมีความจำเป็นต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ พิจารณาในวาระ 2 ก่อนวันที่ 12 ธ.ค.ซึ่งยืนยันว่าจะต้องมีการเปิดสมัยประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งกมธ.ฯจะหาข้อสรุปส่งรายงาน และบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระได้ทัน

นายพริษฐ์กล่าวว่าในการประชุมกมธ.ฯวันนี้จะมีการพิจารณาในมาตรา 256/5 ถึงเกณฑ์การคัดเลือก กมธ. ยกร่าง ซึ่งพรรคประชาชนได้เสนอสูตร 20 หยิบ 1 คือนำสมาชิกรัฐสภา 700 คนมาหารด้วย กมธ.ยกร่าง 35 คน หาก สส. และสว. รวมตัวกันมา20คนก็จะเสนอ กมธ.ได้ 1 คน ซึ่ง จะเป็นหลักประกันว่ากมธ. ยกร่าง จะไม่ถูกผูกขาดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คาดว่าจะมีข้อสรุปในวันนี้และเห็นว่าทุกพรรคอาจเห็นตรงกันในประเด็นนี้

เมื่อถามว่าโมเดลออกมาแบบนี้ถือว่าผิดMOAหรือไม่นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราต้องทำเต็มที่เพื่อปกป้องร่างของพรรคประชาชน หากมีประเด็นไหนที่เห็นต่าง 2 หลักการที่เรายึดถือคือป้องกันการผูกขาด และการมีส่วนร่วมของประชาชน ท้ายที่สุดร่างจะออกมาอย่างไร กมธ. ทุกคน ก็ต้องตระหนักว่าร่างที่ออกมา ต้องเป็นฉันทามติของสภา และต้องตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน

ขณะที่นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม กมธ. ซึ่งพิจารณารายละเอียดในร่างมาตรา256/5 ว่าด้วยขั้นตอนการเลือกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ของรัฐสภาว่า มติของที่ประชุม 19 เสียงเห็นด้วยกับกระบวนการที่กำหนดสูตรให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่มกัน จำนวน 20 คน และเลือก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ 1 คน ตามที่นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.เป็นผู้เสนอ แต่ได้ปรับรายละเอียดเล็กน้อย ในกรณีที่สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถรวมกลุ่มได้ครบ 20 คนและไม่สามารถเลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ครบ 35 คน ได้กำหนดให้รัฐสภาโหวตเลือกจากบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่ถูกชื่อให้เป็น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ตามจำนวนที่ขาด โดยใช้มติของรัฐสภา จำนวน 2 ใน 3 เพื่อตัดสิน เหตุผลที่ต้องใช้เกณฑ์เห็นชอบ 2 ใน 3 นั้น เพื่อป้องกันการใช้เสียงข้างมากลากไป และอย่างน้อยการให้ความเห็นชอบผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีส่วนผสมระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

“เช่นกรณีที่กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ไม่ครบ 35 คน ขาดอีก 3 คน การเสนอชื่อให้รัฐสภาโหวต ต้องเสนอชื่อเข้ามาเป็น 2 เท่า หรือ 6 คน จากนั้นให้รัฐสภาลงมติ สำหรับคนที่จะได้รับคัดเลือก ให้พิจารณาตามคะแนนโหวตสูงสุดเรียงตามลำดับที่ขาด ทั้งนี้มีเงื่อนไขต้องได้เสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ด้วย” นายนรเศรษฐ์ กล่าว

นายนรเศรษฐ์กล่าวด้วยว่าสำหรับกรอบเวลาที่รัฐสภาต้องเลือกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ ภายใน 60 วัน แต่หากครบเวลาแล้วไม่สามารถได้ กมธ.ครบ 35 คน แต่ไม่น้อยกว่า 90% หรือ 32 คน ให้ทำหน้าที่ไปตามจำนวนที่มี ทั้งนี้หลังจากพิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้วเสร็จในช่วงบ่ายจะพิจารณาเนื้อหาของมาตรา 256/2 ว่าด้วยที่มาของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตามร่างหลักของพรรคประชาชน เสนอให้ใช้กระบวนการที่มามาจากการเสนอบัญชีรายชื่อ ให้ประชาชนเลือกตั้ง และเสนอให้รัฐสภาเลือก แต่ในรายละเอียดนั้นต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะปรับรูปแบบเป็นอย่างไร

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top