‘ไอเอฟดี’ เปิดผลโพล คนไทยถึง 50% หมดหวัง ’การเมืองไทย’ เลือกตั้งหน้าเสี่ยงกลับสู่วังวนเดิม

‘ไอเอฟดี’ เปิดผลโพล คนไทยถึง 50% หมดหวัง ’การเมืองไทย’ เลือกตั้งหน้าเสี่ยงกลับสู่วังวนเดิม

วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.40 น.

‘ไอเอฟดี’ เปิดผลโพล คนไทยถึง 50% หมดหวัง ’การเมืองไทย’ เลือกตั้งหน้าเสี่ยงกลับสู่วังวนเดิม ขณะที่ 38% หนุนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘นายกฯ’

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2568 ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ หรือดร.แดน ประธานสถาบันการสร้างชาติ ประธานสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และนางจิตติมา บุญวิทยา ผู้อำนวยการไอเอฟดีโพลและเซอร์เวย์ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไทยตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป  เรื่อง “คนไทย 50% หมดหวังการเมือง–เลือกตั้งหน้าเสี่ยงวนเดิม 38% หนุนอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ” 1,272 ตัวอย่าง สำรวจ 12 - 13 พ.ย. 2568 ใน 6 ภูมิภาค โดยการลงภาคสนามและการโทรศัพท์ สุ่ม‍ตัวอย่างความน่าจะเป็น Stratified Four-Stage Random Sampling ค่าความผิดพลาด 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%


ไอเอฟดีโพลสำรวจความเห็นประชาชนว่า “ความหวังต่อการเมืองไทยวันนี้ “กึ่งต่อกึ่ง” ฝั่ง “น้อย/ไม่มีเลย” รวม 50.15% สูงกว่าฝั่ง “มาก/พอมี” รวม 49.85% โดย “น้อย” สูงสุด 37.26%, “พอมี” 30.27%, “มาก” 19.58%, “ไม่มีเลย” 12.89% ส่วน ความหวังว่า “เลือกตั้งครั้งหน้า” จะพาไทยเสียงอยู่ในรูปแบบการเมืองเดิมๆ โดยฝั่ง “น้อย/ไม่เลย” รวม 51.65% สูงกว่า “พอมี/มาก” รวม 48.35% และโดย “พอมี (เปลี่ยนได้บางส่วน)” 34.43%, “น้อย (เปลี่ยนได้น้อย)” 34.83%, “ไม่เลย” 16.82%, “มาก (เปลี่ยนได้ชัดเจน)” 13.92%

เมื่อสมมติถามว่า MOA ระหว่างภูมิใจไทย–พรรคประชาชนสะดุด ทางออกที่ประชาชนอยากเห็นมากที่สุดคือ 1) อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แล้วทำตามผลโหวต (หากแพ้โหวต ครม. พ้นทั้งคณะ) 37.81% ตามด้วย 2) อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล (แพ้โหวต พ้นเฉพาะราย) 18.16% 3) ยุบสภาก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 16.12% 4) นายกฯ นอกบัญชี” 15.33% ส่วน 5) ‍รัฐประหาร 6.05% และ 6) อยากให้อยู่ครบวาระถึงปี 2570 4.09%

ด้านคะแนนนิยมพรรคสำหรับเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า “ยังไม่ตัดสินใจ” สูงสุด 29.48% รองลงมา พรรคประชาชน 23.66%  พรรคภูมิใจไทย 9.20%  พรรคเพื่อไทย 7.47%  พรรคประชาธิปัตย์ 4.95%  พรรครวมไทยสร้างชาติ 3.38%  พรรคไทยสร้างไทย 2.36% พรรคพลังประชารัฐ 1.73%  พรรคกล้าธรรม 1.18%  พรรคอื่น/ไม่ประสงค์ลงคะแนน 11.48% และไม่ออกไปใช้‍สิทธิ์ 2.28%  ไม่สนใจ/ไม่ตอบ 2.83%

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผลโพลชี้อารมณ์สังคมยัง “ก้ำกึ่ง”: คนไทยเกือบครึ่งหมดหวังต่อการเมือง และกว่าครึ่งยังไม่มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนรูปแบบเดิมได้มากนัก ขณะเดียวกัน หากข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนสะดุด ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้คลี่คลายในรัฐสภา และในภาวะทางตันมี 15.33% เสนอ “นายกรัฐมนตรีคนนอกบัญชี” ภายใต้กฎหมาย เพื่อทำหน้าที่ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การเมืองที่มีคุณภาพและพัฒนาประเทศให้เดินหน้า

จากผลสำรวจ ดร.แดน ยังวิเคราะห์ว่า “มีกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด” เกือบ 30% สะท้อนว่ายังไม่มีพรรคใดชนะขาด ส่งผลให้ภาพหลังเลือกตั้งน่าจะเป็นรัฐบาลผสม โดยพรรคขนาดใหญ่ เช่น ภูมิใจไทย เพื่อไทย หรือพรรคประชาชน จำเป็นต้องจับมือร่วมกับพรรคหน้าใหม่หรือพรรคขนาดเล็กต่าง ๆ เพื่อรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ผมเสนอว่าอยากให้“พรรคการเมืองใหม่ที่มีคุณภาพ” หรือผมขอเรียกว่า “พรรคการเมืองใหม่สีขาว” ที่ควรรวมตัวจับมือกัน ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ แต่การจะได้รับการเลือกตั้ง จำเป็นต้องใช้ทุน ซึ่งจะขึ้นกับการสนับสนุนของนายทุน ดังนั้นนายทุนควรมุ่งสนับสนุนพรรคที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้น โดยการเลือกตั้งครั้งหน้าสำคัญมาก เพราะประเทศไทยมี ‘หน้าต่างเวลา’ จำกัดไม่เกิน 5 ปีในการเร่งฟื้นตัวและพัฒนาประเทศ หากชะลอมากกว่านี้โอกาสแข่งขันจะลดลงอย่างรวดเร็ว  

“ขอฝากถึง กกต. และผู้มีอำนาจ ตรวจสอบ ทุนเทา-ทุนดำที่รู้กันดีว่า มีส่วนค้ำจุนพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ไม่เพียงแค่ทุนในประเทศ แต่รวมถึงทุนข้ามชาติเข้ามาจับมือทุนเทาไทย ที่เข้ามาเอาผลประโยชน์ ทำให้การเมืองจึงยังคงอยู่วังวนเดิม ประชาชนจึงควรมีส่วนตรวจสอบและหาผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากคนไทยมีสำนึก เป็นพลชาติ วันนั้นจะนำประเทศไทยให้ไปรอดได้" ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ระบุ

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top