6เดือนประเมินใหม่ สธ.แจงปลดล็อกขายเหล้า

6เดือนประเมินใหม่ สธ.แจงปลดล็อกขายเหล้า

วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

6เดือนประเมินใหม่

สธ.แจงปลดล็อกขายเหล้า

 

“รมว.สาธารณสุข” ยันมติบอร์ดคุมน้ำเมา เคาะปลดล็อกเวลาขายเหล้า 14.00-17.00 น. ไม่ได้ลักไก่ผิดกฎหมาย ยันทำได้แม้ไม่ครบองค์ประชุมย้ำบอร์ดน้ำเมาคำนึงถึงทุกภาคส่วน มีประเมินจากพื้นที่ขึ้นมา พิจารณาอีกครั้งใน 6 เดือน


จากมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ล้อตามคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ปลดล็อกเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 14:00-17.00 น. โดยคณะกรรมการควบคุมฯ มีความเห็นเพิ่มเติมให้ต้องมีการประเมินมาตรการหลังจากนี้อีก 6 เดือน ส่วนประเด็นขยายเวลาจำหน่ายในสถานบริการนั้น คณะกรรมการควบคุมฯ ไม่เห็นด้วยให้ขยายเวลา แต่มีมติให้ “นักดื่ม” นั่งดื่มได้หลังเที่ยงคืนไปอีก 1 ชั่วโมงแต่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เพราะเหตุใดจึงต้องรีบร้อนในการพิจารณาเรื่องนี้ ทั้งที่ยังไม่มีการเลือกกรรมการในบอร์ดควบคุมฯ ซึ่งเกิดข้อกังขาว่า อาจไม่ครบองค์ประชุม เสี่ยงถูกฟ้องศาลปกครองหรือไม่นั้น

ล่าสุดวันที่ 14 พ.ย. 2568 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่า แม้จะมีมติให้ขายเหล้าได้ในช่วงเวลาที่ห้ามขายคือ 14.00-17.00 น. แต่บอร์ดควบคุมฯ เห็นว่า ต้องมีการประเมินมาตรการดังกล่าวจากนี้อีก 6 เดือน โดยให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัด ทำการศึกษาผลกระทบทั้งในมุมด้านสุขภาพ ผลกระทบทางสังคม ทั้งผลลบและผลบวกในเชิงเศรษฐกิจ เสนอกลับเข้ามายังส่วนกลางว่าในแต่ละพื้นที่ผลเป็นอย่างไร มีข้อห่วงใยอย่างไร และอยากจะผลักดันอะไร ที่เป็นการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนเรื่องการจัดโซนนิ่งนั้น ยืนยันว่ายังมีอยู่ ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เมื่อถามว่ามติที่ประชุมที่ออกมาถูกตั้งคำถามเนื่องจากองค์ประชุมยังไม่ครบ นายพัฒนากล่าวว่า กฎหมายระบุเอาไว้ว่ากรรมการฯ มี 2 ส่วน คือ กรรมการที่เป็นผู้แทนโดยตำแหน่งที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และกรรมการประเภทที่ 2 ที่จะต้องมีการเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า กรณีที่ยังไม่ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิหรือตำแหน่งต่างๆ ก็ให้องค์ประชุมตามตำแหน่ง สามารถประชุมไปได้ ดังนั้นการประชุม จึงเป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าจะถูกมองว่าเป็นการลักไก่หรือไม่ เนื่องจากองค์ประชุมที่เข้าประชุมเมื่อวานเป็นระดับปลัดกระทรวง เท่านั้นยังไม่ได้มีผู้แทนจากภาคประชาชนหรือผู้ทรงคุณวุฒิ และฝ่ายอื่นๆ เข้าไปร่วมพิจารณา นายพัฒนา กล่าวว่า คงไม่สามารถมองเป็นการลักไก่ได้ เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ดำเนินการได้ นั่นหมายความว่ากฎหมายมองเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในบางประการที่การบริหารราชการแผ่นดินจะต้องเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ไม่ขาดความต่อเนื่อง และแน่นอนเราไม่ได้คิดว่าเราจะทำเรื่องต่างๆให้ชักช้า อย่างที่เรียนว่าเราต้องสร้างสมดุลให้ดีระหว่างการดำเนินการทางเศรษฐกิจกับการรักษาสุขภาพของประชาชน

เมื่อถามว่าทำไมเรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างเร่งรีบ เหตุใดไม่รอให้ตั้งกรรมการให้ครบองค์ประกอบก่อน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ความเร่งด่วนมีหลายแง่มุม ซึ่งที่ประชุมเมื่อวานโดยผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอว่าในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้กับเทศกาลปีใหม่ ถัดไปก็จะเป็นสงกรานต์ พฤติกรรมของผู้บริโภค พฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาในช่วงนี้มีการดื่มกินกัน ดังนั้น ตรงนี้จึงต้องรีบทำให้เกิดความชัดเจนเพราะไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้บริโภคภายในประเทศเท่านั้น แต่มีผลกระทบสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงเวลาเหล่านั้นด้วย ซึ่งหลายๆ ประเทศก็มีความเป็นห่วงว่ากฎหมายที่มีการบังคับใช้ของไทยนั้นมีค่าปรับค่อนข้างสูง จะส่งผลกระทบต่อประชากรของเขาหรือไม่ เราจึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับต่างชาติด้วย จึงต้องทำให้เกิดความชัดเจน และรวดเร็ว ต้องมองกว้างๆ ออกไปที่ประชาคมโลกด้วย

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการฟ้องศาลปกครอง นายพัฒนากล่าวว่า จะฟ้องในมุมไหนไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าฟ้องในมุมอำนาจว่าไม่สามารถประชุมได้ ตนคิดว่าด้วยกฎหมายเขียนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า คณะองค์ประชุมเท่าที่มีสามารถเปิดประชุมได้

เมื่อถามว่ากรณีที่มีการต่อระยะเวลาอนุญาตให้นั่งดื่มภายในร้านได้อีก 1 ชั่วโมงหลังเวลาห้ามขายจะมีมาตรการตรวจสอบควบคุมอย่างไรว่าทางร้านจะไม่ลักไก่ขายให้อีก นายพัฒนา กล่าวว่า ยืนยันว่าระยะเวลาที่ต่อออกไปนี้ ไม่ได้ครอบคลุมถึงกรณีการขายของร้าน ในส่วนของร้านค้าเรายังอนุญาตให้ขายได้ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น และให้สำหรับร้านค้าที่ไม่ใช่สถานบริการ ดังนั้นการขายก็ต้องจบเที่ยงคืนเหมือนเดิม แต่ประกาศที่ออกมาเป็นประกาศเพื่อปกป้องและอะลุ่มอล่วยให้กับผู้บริโภคที่อาจจะยังรับประทานไม่หมด หรือ มีภาระที่จะต้องพาตัวเองหรือเพื่อนๆ กลับบ้านจะได้มีเวลาตั้งสติ ล้างหน้าล้างตา ทำตัวให้เป็นอันตรายน้อยกว่าบุคคลอื่นที่อยู่ในสังคม ทั้งนี้หากร้านยังฝ่าฝืนที่จะขายในช่วงเวลาที่อะลุ่มอล่วยให้กับผู้บริโภคทางร้านจะมีโทษ

“ผมยืนยันว่าตรงนี้เป็นมาตรการคุมร้านค้าและเปิดช่องให้ผู้ที่นั่งดื่มสามารถมีเวลาในการปรับตัว ดังนั้นจึงแนะนำร้านค้าว่าท่านจะต้องแสดงเจตนาว่าท่านไม่ได้มีการขาย ไม่ว่าจะเป็นการหรี่ไฟลง ปิดแอร์ หรือจัดการข้าวของภายในร้าน ท่านไม่ควรทำให้หน่วยงานราชการ มองเห็นว่าท่านยังมีเจตนาชัดที่จะขายต่อ ถ้าท่านเจตนาค้าขายต่อท่านจะมีความผิด” นายพัฒนา กล่าว

เมื่อถามว่า บุคลากรสาธารณสุขบางส่วนมองว่า การอนุญาต ขยายระยะเวลานั่งดื่มและ ปลดล็อกเวลาห้ามขายจะทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น การเข้าไปรักษาพยาบาลก็จะมากขึ้น ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่จะต้องกำหนดให้มีการร่วมจ่ายในกรณี เจ็บป่วยจากการดื่มแอลกอฮอล์ นายพัฒนา กล่าวว่า อันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะไปพูดถึงการ “ร่วมจ่าย” แต่เราก็เฝ้าระวังตลอด และนั่นก็เป็นเหตุผลที่เราอยากจะศึกษาประมาณ 6 เดือน ว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุ หรืออัตราปัญหาผลกระทบทางสังคมจะเพิ่มขึ้นอย่างไรบ้าง ตรงนี้เราทราบดีว่าในแต่ละพื้นที่มีความจำเป็น หรือมีข้อเป็นห่วงที่ไม่เหมือนกัน จึงให้คณะกรรมการระดับจังหวัดเป็นผู้เสนอขึ้นมา

เมื่อถามว่ามองว่าเป็นการย้อนแย้งหรือไม่เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขมีการรณรงค์ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่กลับอนุญาตให้มีการบริโภคและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงก่อโรคเหล่านี้มากขึ้น นายพัฒนา กล่าวว่า ภารกิจหลักของกระทรวงสาธารณสุขยังคงเป็นการควบคุม ป้องกัน รักษาโรค ซึ่งเราต้องรักษาหลักการนี้ให้มีความแข็งแรง แต่ในขณะเดียวกันเราจะมองเฉพาะมิตินี้อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะกระทรวงการท่องเที่ยว และกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจเขามีข้อนำเสนอออกมาต้องการทำให้ชัดเจน เป็นการปรับ ให้กฎหมายมีความร่วมสมัยมากขึ้น ชัดเจนมากขึ้น เราจึงต้องเอาตรงนี้มาสร้างสมดุลให้ดี

“ทีแรกข้อเสนอที่เสนอมานั้น เป็นข้อเสนอขอขยายระยะเวลาซื้อและดื่มมากกว่านี้ แต่ทางกระทรวงโดยคุณหมอ โดยกรมควบคุมโรคได้ให้เหตุผลไปแล้วว่า เพราะเหตุใดเราจึงไม่สามารถรับหรืออนุญาตไปให้ถึงตรงนั้นได้ เราคิดว่าในระดับที่เรามีมติออกมานี้เป็นระดับที่สมเหตุสมผล เหมาะสมต่อการดำเนินการศึกษาให้ชัดเจน เพื่อปรับวิธีคิดและการดูแลสุขภาพต่อไป แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รับภาระอย่างเดียว กระทรวงที่ดูแลฝ่ายปกครอง ก็ต้องช่วยเร่งรัดและเน้นย้ำในมาตรการเมาไม่ขับ ดื่มไม่ขับควบคู่กันไปด้วย” นายพัฒนากล่าว

เมื่อถามย้ำว่ากังวลเรื่องฐานเสียงหรือไม่ เพราะมีการมองว่ารัฐบาลชุดนี้มีการผลักดันอบายมุขอย่างการดื่มเหล้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ กังวลจะมีผลกระทบกับการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายพัฒนากล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เริ่มในรัฐบาลชุดนี้แต่เริ่มมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่มีการปรับปรุงและประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อต้นเดือน ก.ย.2568และมีผลบังคับใช้ 60 วัน เลยมาตกอยู่ในช่วงจังหวะเวลานี้พอดี ตนกลับมองว่าช่วงเวลานี้ต่างหากหรือรัฐบาลนี้ต่างหากที่เป็นรัฐบาลที่เข้ามาสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น และผลลัพธ์ต่างๆ ก็จะเอาผลการศึกษาเข้ามาวิเคราะห์มาพิจารณาอย่างเป็นธรรมและรอบด้าน ดังนั้นถ้ามองในมุมลักษณะแบบนี้จะมีความสมเหตุสมผลในการวางนโยบาย ที่รอบด้านมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า กังวลว่าจะกระทบกับการตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็น wellness Hub หรือไม่ เพราะเหมือนเป็นนโยบายที่ย้อนแย้ง นายพัฒนากล่าวว่า ไม่หรอก ตนคิดว่าเรื่อง wellness Hub เป็นเรื่องหนึ่งแต่องค์ประกอบของเรื่องนี้มีมากกว่าการดื่มหรือไม่ดื่มแอลกอฮอล์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top