วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
'น.อ.อนุดิษฐ์'แจงปม'ชนนพัฒฐ์' ถูก ปปง.อายัดทรัพย์ ชี้ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งสภา ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ปกป้อง แต่ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2568 เวลา 11.35 น.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกรณีกระแสสังคม หลังนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์จากข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงคดีพนันออนไลน์ โดยระบุว่า พรรคกล้าธรรมยืนยัน ไม่แทรกแซง ไม่ปกป้อง ไม่ขัดขวาง การตรวจสอบ พร้อมให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ช่วง 2–3 วันที่ผ่านมา ตนได้รับคำถามจากสื่อหลายสำนัก ทั้งเรื่องความรับผิดชอบของพรรค และข้อเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ต้องลาออกหรือไม่ ซึ่งขอชี้แจงว่าประเด็นนี้ ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นมาตรฐานเดียวกันของทั้งสภาผู้แทนราษฎร
น.อ.อนุดิษฐ์ ย้ำว่า ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดก็ต้องรับผิด แต่หากเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการยกเว้นให้ใครทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม น.อ.อนุดิษฐ์ เรียกร้องให้สังคมมองภาพใหญ่ด้วยความเป็นธรรม พร้อมตั้งคำถามถึงความ สองมาตรฐานทางการเมืองโดยชี้ว่า ปัจจุบันมี ส.ส.จากหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่เคยถูกศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก แต่ยังดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ขณะที่บางคนซึ่งมีคดีติดตัวกลับออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลาออกทันที
“คำถามคือ เรากำลังใช้มาตรฐานเดียวกันจริงหรือไม่? หากผู้แทนที่กำลังต่อสู้คดีของตัวเองยังทำหน้าที่ต่อไปได้ หลักเดียวกันก็ควรใช้กับทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะบางฝ่ายเท่านั้น นี่ไม่ใช่การโจมตีใครเป็นพิเศษ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นปัญหามาตรฐานร่วมของสภาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน“น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ย้ำหลักการสำคัญ 3 ประการของพรรคกล้าธรรม ได้แก่ 1.ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องถูกตรวจสอบอย่างเท่าเทียม 2.เคารพกระบวนการยุติธรรม คำพิพากษาศาลชั้นต้นหรืออุทธรณ์คือข้อเท็จจริงตามกฎหมาย แม้คดียังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ควรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และ 3,นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี หากจะเรียกร้องให้คนอื่นลาออก ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับตัวเอง
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยอยู่กับ “สองมาตรฐาน” มานาน และการใช้คดีของผู้อื่นสร้างประโยชน์ทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การยกระดับความเชื่อมั่นของสภาคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งต้องเริ่มจากการตรวจสอบตนเองก่อน ก่อนจะกวาดบ้านให้คนอื่น เราต้องกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดก่อนเสมอ สีเขียวก็ไม่เอาสีเทาเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี