‘ชนนพัฒฐ์’โวแหลก รอบหน้าจะได้เป็นรัฐมนตรี กธ.ชี้ยังไม่มีบทสรุป เอี่ยวพนันออนไลน์

‘ชนนพัฒฐ์’โวแหลก รอบหน้าจะได้เป็นรัฐมนตรี กธ.ชี้ยังไม่มีบทสรุป เอี่ยวพนันออนไลน์

วันอาทิตย์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘ชนนพัฒฐ์’โวแหลก
รอบหน้าจะได้เป็นรัฐมนตรี
กธ.ชี้ยังไม่มีบทสรุป
เอี่ยวพนันออนไลน์

“ภคมน หนุนอนันต์” ขุนพลหญิงสายใต้ ปชน. โพสต์คลิป มัด “ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว” สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ประกาศลั่นทุ่ง จะรีบเคลียร์ตัวเอง ให้จบเพื่อรอบหน้า จะได้เป็นรัฐมนตรี ขณะที่ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ชี้ปม ปปง.อายัดทรัพย์สส.ฉาวโยงเวปพนันยังไม่จบ ต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรม เป็นผู้ชี้ขาด

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาของ กมธ. จะเสร็จภายในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่ว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะขณะนี้เหลือพิจารณาเรื่องคุณสมบัติและข้อห้ามของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญรวมถึงวิธีการทำงานร่วมกันของ กมธ.ยกร่างฯและ กมธ.รับฟังความคิดเห็น แต่สาระสำคัญได้พิจารณาเสร็จไปแล้วจึงเชื่อว่าการพิจารณาหลังจากนี้จะเร็วขึ้น


ผู้สื่อข่าวถามว่าคาดว่าจะสามารถเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้เมื่อไหร่ นายกรวีร์ กล่าวว่า ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับว่ากมธ.จะพิจารณาเสร็จเมื่อไหร่ แต่ยืนยันว่าไทม์ไลน์กรอบใหญ่ทั้งหมด คือเสร็จภายในเดือนธันวาคม ส่วนการเปิดสมัยวิสามัญจะเป็นวันไหน คงไม่ต่างกันมาก เพราะการลงมติในวาระสาม จะทันภายในเดือนธันวาคมแน่นอน

‘น.อ.อนุดิษฐ์’แจงปม‘ชนนพัฒฐ์’

.น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกรณีกระแสสังคม หลังนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) อายัดทรัพย์จากข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงคดีพนันออนไลน์ว่า พรรคกล้าธรรมยืนยัน ไม่แทรกแซง ไม่ปกป้อง ไม่ขัดขวาง การตรวจสอบพร้อมให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

ลั่นต้องใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งสภา

น.อ.อนุดิษฐ์ย้ำว่าช่วง 2–3วันที่ผ่านมา ตนได้รับคำถามจากสื่อหลายสำนัก ทั้งเรื่องความรับผิดชอบของพรรคและข้อเรียกร้องให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯต้องลาออกหรือไม่ ซึ่งขอชี้แจงว่า ประเด็นนี้ ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นมาตรฐานเดียวกันของทั้งสภาผู้แทนราษฎร

“ส.ส.ชนนพัฒฐ์ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม และพรรคจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด หากตรวจสอบแล้ว พบว่ามีความผิดก็ต้องรับผิด แต่หากเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้เช่นเดียวกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และกระบวนการยุติธรรม ไม่มีการยกเว้นให้ใครทั้งนั้น”

ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์เรียกร้องให้สังคมมองภาพใหญ่ด้วยความเป็นธรรม พร้อมตั้งคำถามถึงความ สองมาตรฐานทางการเมือง โดยชี้ว่าปัจจุบันมี ส.ส.จากหลายพรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่เคยถูกศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก แต่ยังดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ขณะที่บางคนซึ่งมีคดีติดตัวกลับออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลาออกทันที

“คำถามคือ เรากำลังใช้มาตรฐานเดียวกันจริงหรือไม่? หากผู้แทนที่กำลังต่อสู้คดีของตัวเองยังทำหน้าที่ต่อไปได้ หลักเดียวกัน ก็ควรใช้กับทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะบางฝ่ายเท่านั้น นี่ไม่ใช่การโจมตีใครเป็นพิเศษ แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นปัญหามาตรฐานร่วมของสภาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน“น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

ไล่กวาดบ้าน ย้ำสีเขียวก็ไม่เอาสีเทา

น.อ.อนุดิษฐ์ได้ย้ำหลักการสำคัญ 3 ประการของพรรคกล้าธรรมได้แก่1.ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องถูกตรวจสอบอย่างเท่าเทียม 2.เคารพกระบวนการยุติธรรม คำพิพากษาศาลชั้นต้นหรืออุทธรณ์คือข้อเท็จจริงตามกฎหมาย แม้คดียังไม่ถึงที่สุดก็ไม่ควรทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และ 3,นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่างที่ดี หากจะเรียกร้องให้คนอื่นลาออก ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับตัวเอง

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยอยู่กับ“สองมาตรฐาน”มานาน และการใช้คดีของผู้อื่นสร้างประโยชน์ทางการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น การยกระดับความเชื่อมั่นของสภา คือ สิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งต้องเริ่มจากการตรวจสอบตนเองก่อน ก่อนจะกวาดบ้านให้คนอื่น เราต้องกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดก่อนเสมอ สีเขียวก็ไม่เอาสีเทา เช่นกัน

‘ชนนพัฒฐ์’โวจะเป็นรัฐมนตรี

นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์คลิป ขณะที่นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กำลังกล่าวกับชาวบ้านในช่วงหนึ่งว่า”จะรีบเคลียร์ตัวเองให้จบ..ถ้าผมเสร็จรอบนี้ รอบหน้าผมได้เป็นรัฐมนตรีแล้วและสัญญาว่าจะทำงานอยู่กับชาวบ้านอย่างนี้ตลอดไป อยู่ใกล้ชิดกับทุกคนตลอดไปไม่ทิ้ง..และถ้าได้ไปสมัยหน้าก็รับปากว่า ก็ยังทำงานแบบนี้ล่ะ เพราะสนุก มีความสุขที่ได้เที่ยวไปที่โน่นที ที่นี่ที”

โดย น.ส.ภคมน ได้ระบุว่า”ท้าทายกันให้สุดๆไปเลยประเทศไทย ในขณะที่สังคมกำลังจับตาการสอบเส้นทางเงินของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว แต่เจ้าตัวบอกว่า เคลียร์จบรอบนี้ รอบหน้าเป็นรัฐมนตรีแล้ว ไอยะ!!??การทุจริตคอรัปชั่นมันเคลียร์ได้มาตลอด รอบนี้ก็คงมั่นใจมันจะอยู่กันยังไง ถ้าคนที่มีชนักติดหลัง กล้าประกาศตัวจะเป็นรัฐมนตรี เอากันใหญ่ประเทศไทย พูดออกมาเหมือนพี่น้องประชาชนพื้นที่เขต4 สงขลาเป็นสมบัติตัวเองผูกขาดมั่นใจ จัดสรรอำนาจให้ตัวเองเสร็จสรรพ

‘ทสท.’ลุยอีสานลงหนองบัวลำภู

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนางสาวยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ และคณะทำงานพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ล้อมวงพบปะประชาชน รับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น โดยหลายคนสะท้อนปัญหาใหญ่ทั้งการทุจริตในระบบรัฐ ราคายาง ราคาข้าวตกต่ำ รวมถึงปัญหาความยากจนที่สืบเนื่องเพราะการเมืองที่ไม่โปร่งใส ซึ่งประชาชนในพื้นที่มองว่าเป็นต้นตอของความล้าหลังและความเหลื่อมล้ำที่ฝังรากมายาวนาน

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ได้เปิดตัว น.ส.ประภาลักษณ์ สิทธิ หรือ“สจ.กุ๊กไก่”เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากพี่น้องในพื้นที่ โดย“สจ.กุ๊กไก่”ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่เติบโตและทำงานอยู่กับพื้นที่มาโดยตลอด รู้ลึกถึงปัญหาและศักยภาพของชุมชน มีความรู้ ความสามารถ และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนทำงานจริง เข้าใจคนจริง และช่วยเหลือชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมยังมีแนวคิดพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งแผนการจัดตั้งโรงสีชุมชน เพื่อยกระดับราคาข้าว เพิ่มอำนาจต่อรองให้เกษตรกร รวมถึงการตั้ง โรงงานแปรรูปยางพารา เพื่อแก้ปัญหายางราคาตก พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรอื่นๆเพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนให้ชุมชนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดให้กลายเป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ผลักดันมาต่อเนื่อง ถือเป็นความหวังใหม่ของคนในจังหวัด ที่ต้องการผู้แทนที่ “ตั้งใจทำงานจริง ไม่ซื้อเสียง ไม่โกง และไม่ทอดทิ้งพื้นที่”

ปลุกอย่าเลือกคนซื้อเสียงเด็ดขาด

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ผู้แทนประชาชนเก่งอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องเป็นคนดีด้วย ซึ่ง “ผู้แทนที่ดีจริง” ต้องไม่ใช่ผู้แทนที่ซื้อเสียง จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า “ใครมาซื้อเสียง รับเงินไว้ได้ แต่อย่าไปเลือก” เพราะเงินซื้อเสียงไม่ใช่เงินจากน้ำใจใคร แต่คือ “เงินประชาชนที่ถูกโกงไป” แล้วนำกลับมาใช้ซื้ออนาคตของประเทศ การซื้อเสียงคือการเปิดทางให้คนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ และเมื่อคนไม่ดีได้อำนาจ ประเทศก็ต้องวนอยู่ในวงจรทุจริตซ้ำซาก ประชาชนยากจนลง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน “อย่าให้คนเลวมาซื้อประเทศไทยได้สำเร็จ” และ “อย่าเลือกคนซื้อเสียงเด็ดขาด เพื่อป้องกันโจรครองเมือง”

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยยังกล่าวย้ำว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะเดินหน้าปราบโกงแบบไม่ประนีประนอม ผ่าน 5 มาตรการเข้มข้น ได้แก่ เพิ่มโทษประหารผู้ทุจริตร้ายแรง เปิดทางประชาชน 50,000 รายชื่อร่วมถอดถอนองค์กรอิสระ พร้อมตั้งองค์กรตรวจสอบทุจริตภาคประชาชน ทำงานคู่กับ ป.ป.ช. สตง. ระงับกฎหมายและระเบียบที่ขวางการทำมาหากิน และปรับลดขนาดระบบราชการเพื่อลดงบประมาณรั่วไหล โดยประกาศชัดจะ “ล้างบางคนเลวในระบบราชการและการเมืองให้จบใน 6 เดือน” เพื่อเปิดทางให้คนดีทำงานได้เต็มที่ตามพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9

‘เสรี’จวกพรรคการเมืองคิดเอาเปรียบ

ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ว่า สำหรับการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งบัตรใบเดียว ซึ่งเราก็ได้รับการเลือกมาเป็น สส. จำนวน 10 คน แต่ตนมองว่าพรรคการเมืองก็ไม่ได้คิดจะทำงานเพื่อประชาชน แต่คิดว่าทำอย่างไรถึงจะให้พรรคของตัวเองมีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งและจะเอาเปรียบคนอื่นอย่างไร จนในการเลือกตั้งปี 2566 ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งเปลี่ยนจากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ อีกทั้ง ผู้สมัครไม่ได้หาเสียงให้พรรค แต่หาเสียงให้เบอร์ของตนเอง เพราะฉะนั้นจาก สส. จำนวน 10 คนก็เลยเหลือตนแค่คนเดียว ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หากมีแค่เสียงของตนเพียงเสียงเดียวในสภาจะไปคิด หรือจะทำอะไรก็ไม่ได้

“ผมกำลังทำเรื่องที่คนอื่นไม่ทำ คือ กรณีของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ร่วมกับพวก ขอพระราชทานอภัยโทษ กราบบังคมทูลพระอภัยโทษ ส่อว่าเป็นเท็จหรือไม่ ซึ่งมีใครบ้าง หลังจากนี้ขอผมรวบรวมพยานหลักฐานก่อน” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

แนะแก้มาตรฐานถอดถอนคลุมถึงสส.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่าหลังจากที่พรรคเสรีรวมไทยมีเพียงแค่ สส. คนเดียว ทำให้ผู้สมัครพรรคหายหมด แต่ตนขอตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญปี 2560มันถูกหรือไม่ ที่ระบุว่าให้สส.เป็นอิสระไม่อยู่ใต้บังคับของพรรคการเมืองซึ่งเท่ากับสอนให้คนไม่รักองค์กรเอาแต่ตัวรอด เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ใช่แก้ทั้งฉบับ เพราะส่วนดีของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ดีเช่นกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯที่โดนถอดถอนจากการเป็นนายกฯก็เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญปี2560ที่ระบุว่านายกฯและคณะรัฐมนตรี (ครม.)หากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรมก็ถูกถอดถอนได้ แต่ควรที่จะครอบคลุมถึงสส.ด้วย

ลั่นไม่ยุบพรรคไปรวมใครกัดฟันสู้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันก็ประกาศหาผู้สมัครว่าใครจะมาเป็นสส.ของพรรค ซึ่งสถานการณ์ก็ลำบากอยู่เช่นกันเพราะเราไม่ได้ทำการซื้อเสียงสส.แต่ยืนยันว่าจะกัดฟันสู้และอยู่ที่ประชาชน ถ้าไว้ใจพรรคเสรีรวมไทย มีบัญชีรายชื่อที่ใด ก็ขอให้เลือกเราให้ได้มากที่สุด โดยผลงานเมื่อปี 2562-2566 ก็รับประกันคุณภาพอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามีพรรคการเมืองใดมาทาบทามให้เข้าร่วมด้วยหรือไม่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่าก็มีเหมือนกัน แต่เราทำไม่ได้เพราะพรรคเสรีรวมไทยชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเสรีรวมไทยซึ่งจะให้ยุบพรรคไปรวมกับเขาเหรอ รวมถึงตนเป็นผู้ใหญ่อายุเยอะเช่นนี้แล้ว จะให้ไปรวมพรรคเหรอ เราก็จะอยู่ในป่าใหญ่อย่างราชสีห์ แต่คนอื่นอย่ามายุ่งกับตนก็แล้วกัน

เมื่อถามอีกว่าสโลแกน เสรีมีไว้ลุย ยังยืนยันให้กับประชาชนได้ใช่หรือไม่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอบว่า ตัวตนของตนก็คือตัวตนของตน จะไปเปลี่ยนอะไร เพราะฉะนั้น ถ้าตนไม่ใช่ของจริง จะไปกล้าลุยเหรอ

ประกาศชัดลุยแก้ปัญหาทุจริต

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลนั้นจะต้องแก้ไขปัญหาใดเป็นลำดับแรก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าสิ่งที่จะทำลำดับแรกคือการแก้ปัญหาทุจริต เพราะทุกรัฐบาลไม่มีแนวคิดอุดมการณ์ในการบริหารประเทศ แต่พรรคเสรีรวมไทยมีอุดมการณ์ ถ้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เป็นนายกฯก็จะมีอุดมการณ์ที่จะให้ ครม.ข้าราชการ และประชาชน มีอุดมการณ์ทำงานร่วมกันโดยอุดมการณ์ที่ว่าคือ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ เสียสละ พึ่งตนเองร่วมมือร่วมใจกัน

อัดรบ.ชั่วคราวมุ่งหาเสียงไม่ช่วยปชช.

เมื่อถามอีกว่ากรณีการแก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและสแกมเมอร์ของรัฐบาล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่ารัฐบาลรู้ตัวว่าเป็นรัฐบาลชั่วคราว มีเวลาทำงาน 4 เดือน อีกทั้งหากในเดือนธันวาคม 2568 เปิดประชุมสภามา และพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมา มีการยุบสภาขึ้นมา รัฐบาลก็แทบที่จะไม่ได้ทำอะไรเลยซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมีเวลาน้อยและไม่ได้คิดช่วยเหลือประชาชน ทำแต่เรื่องหาเสียงเช่นโครงการคนละครึ่งพลัส ทั้งที่ประชาชนก็มีปัญหาเดือดร้อนเยอะโดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่ท่วมทุกปี หรือกรณีตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ถล่ม ถามว่าปัจจุบันหาบุคคลที่กระทำผิดได้แล้วหรือไม่

ชี้การเมืองไม่มีมิตรแท้/ศัตรูถาวร

เมื่อถามย้ำว่าการเมืองปัจจุบันเป็นการเมืองสามก๊ก โดยมีพรรคแดง ส้ม น้ำเงิน มองว่าพรรคใดมีความเป็นไปได้ที่จะจับมือร่วมกันมากที่สุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “การเมืองพอผมได้เข้ามาสัมผัสจริง ก็สัมผัสได้ว่า ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร เดี๋ยวต้องดูผลการเลือกตั้ง หากพรรคนี้มีคะแนนมากสุดสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เสียงไม่พอ แต่ว่าอีกพรรคโกงกันเมื่อคราวที่แล้ว หักหลังกันก็ต้องเอามาร่วม ไม่งั้นก็เป็นรัฐบาลไม่ได้ เป็นนายกฯ ไม่ได้ พอเพื่อไทยพังปุ๊บ ภูมิใจไทย มาปุ๊บ คนนั้นก็มาอยู่นี่ คนนี้ก็ไปอยู่นั้น วุ่นวายกันไปหมดเพราะฉะนั้นนักการเมืองเชื่อใจไม่ได้“

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top