วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
กต.สรุปท่าที! ประท้วง"กัมพูชา"ละเมิดข้อตกลง ย้ำรุกการทูตทุกเวทีแจงประชาคมโลก "สีหศักดิ์"เตรียมร่วมวงประชุมอินโด-แปซิฟิก พร้อมพบสื่อต่างประเทศ เผยไทยเป็นเจ้าภาพประชุมปรามสแกมเมอร์สากล ธ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา และการเจรจาการค้าไทยกับต่างประเทศ
โดย นายนิกรเดช แถลงว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการทันทีในทุกระดับ และไม่มีช่องว่าง โดย 1.นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ประท้วงไปยังรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศกัมพูชา ถึงสองครั้งในทันที และทำหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย 2.ได้ชี้แจงหารือกับสหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ทำหนังสือถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเอกสารเป็นการย้ำว่าประเทศไทยยึดมั่นในเส้นทางแห่งสันติภาพ เคารพปฏิบัติตามประกาศร่วมสันติภาพ แต่การละเมิดของกัมพูชา ทำให้ไทยต้องสงวนสิทธิ์ตามความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงความปลอดภัยของประชาชน เราจึงต้องระงับการปฏิบัติตาม Joint Declaration เป็นการชั่วคราว ซึ่งไทยจะกลับมาปฏิบัติตามอีกครั้งก็ขึ้นอยู่กับท่าทีและความจริงใจของกัมพูชา
นายนิกรเดช กล่าวว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐฯและผู้นำมาเลเซีย มีประเด็นสำคัญ คือนายกรัฐมนตรีขอให้มีการแยกเรื่องทวิภาคีของไทยและกัมพูชา ซึ่งเป็นเรื่องความมั่นคงออกจากการเจรจาการค้าซึ่งเป็นผลประโยชน์ของไทยและสหรัฐอเมริกาไม่เกี่ยวกับประเทศอื่น พร้อมขอให้ประธานอาเซียนช่วยหาแนวทางฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพ โดยคำนึงถึงข้อเสนอของไทย คือให้กัมพูชาขอโทษ สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงความรับผิดชอบ รวมถึงป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้นอีกในอนาคต และผู้นำทั้งสองแสดงความเข้าใจและรับพิจารณาข้อเสนอของไทย
นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า หลังการหารือทางโทรศัพท์นายกรัฐมนตรีจะมีหนังสืออีกฉบับถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อย้ำท่าทีของไทยและการที่กัมพูชาจะต้องกลับมาปฏิบัติตาม Joint Declaration โดยเฉพาะประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่และต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในชั้นนี้จึงขึ้นอยู่กับกัมพูชาที่ต้องกำหนดอนาคตของ Joint Declaration
นายนิกรเดช กล่าวว่า 3.กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ไปยังประเทศที่ญี่ปุ่น ในฐานะประธานภาคีประชุมอนุสัญญาออตตาวา และทำหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UNSG) แจ้งเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่และการยั่วยุที่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยไทยจะยกประเด็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาของกัมพูชาในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญา ครั้งที่ 22 วันที่ 1 - 5 ธ.ค.นี้ ที่นครเจนีวา และ 4.เรายังทำหนังสือประท้วงไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งศาสตร์ประชาชาติ (UNSC) เกี่ยวกับการลุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมให้เวียนหนังสือดังกล่าวให้รัฐสมาชิก UNSC ทราบด้วย
นายนิกรเดช กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จะมีการชี้แจงต่อประชาคมโลกในทุกโอกาส โดยที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก (IPMF) ครั้งที่ 4 และจะพบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยในวันที่ 25 พ.ย.นี้ รมว.การต่างประเทศ จะร่วมเวทีเสวนากับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเดินหน้า ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมเอเปก คือเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ระดับรัฐมนตรี ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ขอยืนยันเราดำเนินการทูตเชิงรุกในทุกเวที
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี