วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐสภา ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ระบุว่าจะยุบสภาในวันที่สภาเปิดสมัยประชุม คือวันที่ 12 ธ.ค. ว่า เป็นการท้าทายและขู่ฝ่ายค้าน ที่เตรียมยื่นญัตติเพื่อขออภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีนัยส่งถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายกฯ บอกว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นให้ไปรับผิดชอบกันเอง อย่าโทษนายกฯ เท่ากับเอาร่างรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน
เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อเรื่องดังกล่าว ที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จและต้องยื่นญัตติซักฟอกด้วยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า การยื่นซักฟอก เพื่อตรวจสอบรัฐบาลเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่ให้ความสำคัญ ตามที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ ฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมรัฐธรรม ให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาดีที่สุด เน้นการเป็นประชาธิปไตยภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชนไม่ยึดติดฝ่ายใด หรือฝ่ายใดมาชี้นำ หรือครอบงำได้ เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้นทั้ง 2 ประเด็นนั้น พรรคเพื่อไทยอยากได้ทั้งคู่
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ เนื้อหาของการแก้รัฐธรรรมนูญ เพื่อนนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากไม่สามารถไปสู่ความคาดหวังได้ โดยเฉพาะ ที่มาของกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ที่พบว่าเสียงข้างมากถูกครอบงำจากสีใดสีหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้การจัดทำรัฐธรรมนูญไม่สามารถได้รัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดและดีกว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้ จึงเป็นความชอบธรรมที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ในวาระสองแล้วเสร็จ
เมื่อถามว่าหากเนื้อหาพอรับได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะทบทวนเรื่องเวลายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ หลังโหวตร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ในวาระสาม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ กมธ.พิจารณาเนื้อหาครบทุกมาตรา แต่ยังรอพิจารณาไว้ 16 มาตราซึ่งเป็นบทประกอบเท่านั้น แต่บทหลักผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ดีในประเด็นที่มาของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน ที่กำหนดที่มา จากการสมัครและมี 100 คนรับรอง เหมือนจะเปิดให้มีส่วนร่วม แต่ประเด็นดังกล่าวจัดตั้งได้ ผ่านกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองที่มีสมาชิก ซึ่งสามารถกำหนดตัวได้มาตั้งแต่การสมัคร ส่วนสูตร20 หยิบ 1 นั้นตอบได้ทันทีว่าจะทำให้ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญเป็นของเสียงข้างมากของรัฐสภาสมัยหน้าแน่นอน เพราะสูตรดังกล่าวกำหนดให้เป็นไปตามสัดส่วนของพรรคการเมืองเสียงข้างมาก
“เช่น รัฐสภา สมัยหน้า คาดการณ์จากสีใดมีเสียงข้างมากในรัฐสภา คือ มีสว. คาดการณ์ว่ามี 160 เสียง ขณะที่การรวมตัวเป็นรัฐบาล แนวโน้มเห็นได้ว่าสีใดจะเป็นรัฐบาล หากสามารถรวมพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งผมเชื่อว่าจะรวมได้ 320 เสียง เมื่อรวมกับ สว. จะได้ 480 เสียง เท่ากับว่าจะได้กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ 24 คน จาก35 คน ถือเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด ดังนั้นจึงเป็นความยากที่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นไปตามคาดหวัง” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่าการประชุมกมธ. วันนี้ (21 พ.ย.) ตนจะเสนอให้ทบทวนเนื้อหา ทั้งการตัดส่วนที่ให้ประชาชน 100 คนรับรอง ซึ่งเป็นการปิดกั้นผู้สมัครอิสระ เพื่อเปิดให้มีตัวเลือกมากขึ้น และ ประเด็นการกันไม่ให้จัดตั้ง จะเสนอให้กำหนดสัดส่วนไว้ เช่น รายพื้นที่ 20 ที่ใช้เกณฑ์รายภาค ตามความเชี่ยวชาญ อาชีพต่างๆ แม้จะมีการจัดตั้งแต่ส่วนหนึ่งมั่นใจว่ามีตัวแทนกระจายไม่ใช่หยิบคนของตัวเองได้
นพ.ชลน่าน กล่าต่อว่า สำหรับวิธีเลือกกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อาป้องกันเสียงข้างมากครอบงำ ตนเสนอวิธีให้ใช้เห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่าย โดยกมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ต้องได้เสียงเห็นด้วย จาก ฝ่ายค้าน 20% และ เสียงสว. 1 ใน 5 ด้วย ทั้งนี้หากใช้สูตร 20 หยิบ 1 จะหนีจากการจัดตั้ง ชี้นำ และครอบงำไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีโอกาสได้แก้ไขทั้งในชั้นกมธ. และในวาระสองต่อที่ประชุมรัฐสภา
“จากที่เสนอไปแล้ว และเท่าที่ฟัง หลายฝ่ายพยายามคัดค้าน แต่กมธ.ของเพื่อไทยพยายามเรียกร้องสิทธิ แต่การให้ทบทวนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติเสียงข้างมากและความเป็นเหตุเป็นผลความไม่สมบูรณ์ของตัวร่าง หากเห็นว่าวิธีที่ผมเสนอ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญต้องได้รับฉันทามติและเห็นร่วมจากทุกฝ่ายอย่างแท้จริง อาจจะเอาด้วยเพราะพรรคประชาชนอยากได้แบบนั้น ส่วนพรรคเพื่อไทยก็อยากได้ อาจจะเอาด้วยก็ได้ หากเห็นเป็นประโยชน์ อาจทบทวนขึ้นอยู่กับเนื้อหสาระ” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่าหากมีการทบทวน และแก้ไขตามประเด็นเสนอได้ จะพิจารณายืดเวลายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “เป็นข้อพิจารณา เพราะพรรคเพื่อไทยมีวัตถุประสงค์อยากได้ทั้งสองอย่าง ไม่ผูกมัด แต่ไปด้วยกันได้”
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนพยายามเสนอเพื่อไม่ให้ผู้ร่างถูกกินรวบ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนยอมรับว่ากินรวบไม่ได้หากเทียบกับการใช้เสียงข้างมากลงมติ แต่วิธี 20 หยิบ 1 จะมีเสียงข้างน้อยได้บ้าง เพื่อทัดทานเท่านั้น แต่สุดท้ายเสียงข้างมากจะกำกับและกำหนดได้ เพราะใช้มติตัดสิน
เมื่อถามย้ำว่าเท่ากับว่าจะเปิดช่องฟอกขาวทำได้แต่เนื้อในไม่ใช่ หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าาว่า เป็นความกังวล แต่ใชั้นการพิจารณาต้องติดตาม เพราะสิ่งที่พูดคือทิศทางจะเกิดแต่อาจไม่เกิดก็ได้ เพราะกมธ.ที่เลือกมาอาจตั้งใจทำรัฐธรรมนูญจริง โดยไม่เอาการเมืองหรือผลประโยชน์การเมืองมาเกี่ยวข้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี