วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายกฯ เผย น้ำท่วมหาดใหญ่เป็นวิกฤติในรอบ 15 ปี ลั่นประเทศไทย 4 ปี หากตนเป็นนายกฯอยู่ 4 ปีข้างหน้าไม่ปัง-ก็พัง
24 พ.ย.68 เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
พร้อมด้วย น.ส.ธนนนท์ นิรามิษ ภริยา ร่วมงาน Dinner Talk ภายใต้หัวข้อ “THAILAND THE NEXT 4 YEAR”
โดยนายกฯกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่มาร่วมงานในวันนี้สายไปพอสมควรวันนี้ตั้งแต่เช้าก็มีภารกิจต่อเนื่องมาโดยตลอดและมีเหตุการณ์ที่ใช้เวลาเยอะ คือเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ถึงแม้ว่าตนจะลงไปดูสถานการณ์และไปสั่งการถึง 2 วันติดต่อกัน แต่ฟ้าก็ไม่เป็นใจ เพราะหลังจากเรากลับมาปรากฏว่ามีมลน้ำอีกละลอกหนึ่งซึ่งเราไม่ได้คาดฝันว่าจะมีจำนวนมหาศาลขนาดนี้เข้ามาใน อำเภอหาดใหญ่ เพราะนอกจากเป็นน้ำที่มาจากนอกพื้นที่แล้วยังมีปริมาณฝนที่ตกไม่หยุดและเป็นการตกที่ค่อนข้างหนักตลอดทั้งวัน ทั้งคืนรับทราบมาว่าเป็นวิกฤตในรอบ 15 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สูงสูงสุด อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้สั่งการและมอบหมายให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ที่รับผิดชอบในสถานการณ์ต่างๆได้อยู่ในพื้นที่และอำนวยการรักษาสถานการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้การช่วยเหลือต่างๆมีความพร้อมแล้ว ตอนนี้เราสู้กับธรรมชาติ แต่ในเรื่องของการดูแลให้ความช่วยเหลือกับประชาชน เรามีการเตรียมตัวโดยระดมหน่วยงานทุกหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ถือเป็นครั้งแรกเหตุการณ์ที่หาดใหญ่ทำให้เราต้องมานั่งคิดว่าแค่ข้ามคืนเดียวเมื่อมีอุบัติติภัยไม่ใช่เฉพาะเรื่องน้ำ ถ้ามันตัดไฟ ตัดน้ำ ตัดการเดินทางทุกโหมดสิ่งที่มันเกิดขึ้นภายในไม่ถึง 10 ชั่วโมงเมืองหาดใหญ่กลายเป็นเมืองที่ไม่สามารถหาทรัพยากรอะไรได้เลย อาหารไม่มี วัตถุดิบไม่มี เราจะต้องให้ความสำคัญในการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ แบบนี้ขึ้นอีก โดยเฉพาะเมืองที่มีสภาพเศรษฐกิจเติบโตอย่างเมืองหาดใหญ่
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนยังไม่ทันได้หายใจมาถึงก็ถูกเรียกขึ้นมาทันทีและให้มาพบปะกับเพื่อนๆพี่ๆทุกคนในห้องนี้ภายใต้หัวข้อเรื่อง THAILAND THE NEXT 4 YEAR ประเทศไทยในอีก 4 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไรก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งที่จะมาถึงว่าใครจะได้มาเป็นผู้นำ เพราะผู้นำแต่ละคนมีวิธีการขับเคลื่อนวิธีการตั้งนโยบายให้กับประเทศไปคนละแนวทาง ภาพจบอาจจะไม่ตรงกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ตนจะต้องตั้งต้นจากการพูดให้ชัดว่าประเทศไทย 4 ปีต่อจากนี้ในมุมมองของตนบนเงื่อนไขที่ว่าถ้าเป็น 4 ปีที่ยังมีตนเป็นนายกฯอยู่ 4 ปีข้างหน้าสำหรับประเทศไทยถ้าไม่ปังก็พัง เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า PANG แล้วแต่ว่าเราจะอ่านว่าปังหรือพัง เพราะเป็น 4 ปีที่เราเปลี่ยนแปลงด้วยความรวดเร็ว ถ้ายืนอยู่ผิดที่หรือเดินช้าอาจจะพบกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งการที่ตนพูดว่ายืนผิดที่คือในเชิงภูมิศาสตร์ การยืนคือการไปอิงแอบกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมากเกินไป หรือแม้แต่การกระโดดไปกระโดดมาตามกระแส แต่การยืนถูกที่คือการยืนให้เด่นยืนให้โลกรู้ว่าคุณค่าของประเทศไทยอยู่ตรงไหน
นายกฯ กล่าวอีกว่า การทำงานของตนบางครั้งเราจำเป็นที่จะต้องเดินทางสายกลาง โดยที่เราต้องมีดีในตัวเองมากพอสมควร แต่ถ้าเรากระโดดไปกระโดดมานึกสภาพว่าถ้าเราไม่มีความมั่นคงด้านไหนเลย และพยายามกระโดดไป กระโดดมาตรงไหนได้เปรียบไปไหนไปด้วยช่วย 2 บาทคนที่กระโดดก่อนคนที่เหนื่อยที่สุดคือเรา เพราะเรามัวแต่กระโดดไปกระโดดมา แต่ถ้าเราไปอิงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไปภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศไทยก็อาจจะยังไม่ใช่ และไม่ได้เอื้ออำนวยให้เราสามารถอยู่ในตำแหน่งนั้นได้ แต่เราต้องหาจุดแข็งของเราในการที่เราจะดีลกับประเทศต่างๆในโลกนี้โดยที่เขาต้องให้ความสนใจต่อเราซึ่งเราทำได้และทำมาโดยสม่ำเสมอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี