วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
นายกฯนั่งรถทหารดูสถานการณ์น้ำท่วมรอบเมืองหาดใหญ่ แจกน้ำดื่ม-ข้าวกล่องผู้ประสบภัย รับ รู้สึกกดดัน-เป็นห่วงปชช. หลังมีเสียงสะท้อนชาวบ้านอดทนมา 5 วันแล้ว จ่อกลับ กทม.เรียกประชุมด่วน ออกมาตรการ ช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟู ลั่นทำทุกอย่างให้ดีที่สุด กำชับจว.ไหนประกาศพื้นที่ประสบภัย มีงบจัดการ
เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 26 พ.ย.ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นั่งรถยกสูงของทหารตระเวนดูพื้นที่อ.หาดใหญ่ โดยรอบที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับประชาชน ตั้งแต่บริเวณสะพานโคกพระ อ.หาดใหญ่ ก่อนนั่งรถต่อไปยังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า (มณฑลทหารบกที่ 42) ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กองทัพภาคที่ 4 เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยนายกฯได้พูดคุยกับ แม่ทัพภาคที่ 4 และสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน
จากนั้นเวลา 11.00 น.นายกฯเดินทักทายประชาชนที่เข้ามาพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่อาคารศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยระหว่างทางน.ส.ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือ เจ๊เอ๋ เจ้าแม่เงินกู้ จิตอาสา ที่มาบริจาคของให้กับประชาชน ได้ตะโกนว่า “นายกฯ เอ๋อยู่นี่ ช่วยเอ๋หน่อย เอ๋ไม่ไหวแล้ว นายกฯ ยังไหวอยู่ไหม ดีใจจังเลยได้เจอนายกฯ ตัวเป็น ๆ แล้ว ขอให้กำลังใจนายกฯ แก้ไขให้ได้นะ“ ก่อนที่นายกฯ ตอบกลับว่า ”ยังไหว“ และอวยพรให้คนที่มาบริจาคเจริญ ๆ ยิ่งขึ้น
ต่อมานายกฯ ตรวจเยี่ยมโรงครัวของกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย และได้พูดคุยให้กำลังใจกับจิตอาสาที่เข้ามาทำงานภายในโรงครัวของศูนย์พักพิงฯด้วย

จากนั้นนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการที่หลายฝ่ายมองว่าล่าช้า ว่า ตอนนี้เราดูแลคนจำนวนหลายหมื่นคน มีศูนย์พักพิงและศูนย์อพยพอยู่ตามชุมชนต่าง ๆ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้สั่งการ และดูแลพื้นที่ ซึ่งงบประมาณมี เพราะได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยสามารถใช้เงินได้เลย โดยวันนี้ที่ตนลงมากับผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)ก็เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างสั่งการภายใต้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ดำเนินการทุกอย่างโดยทันที ผู้บังคับบัญชาสูงสุด คือ พล.อ. อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) รัฐบาลก็ได้มอบอำนาจให้ และให้การสนับสนุนทุกอย่าง วันนี้ตนก็ลงมาเพื่อที่จะช่วยท่านด้วย ทั้งนี้ ยอมรับว่า กดดันมาก ๆ และเป็นห่วงประชาชน หลังมีเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนที่อดทนมานานกว่า 5 วันแล้ว
เมื่อถามถึงเรื่องเงินเยียวยา ครอบครัวละ 9,000 บาทที่อาจจะไม่เพียงพอนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ในขณะนี้ และเมื่อตนกลับไป ก็จะเร่งเรียกประชุมด่วน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้โดยเฉพาะ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู เพราะตอนนี้ความเสียหายเยอะมาก
เมื่อถามว่า สำหรับผู้ป่วยตามโรงพยาบาล มีความน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ ทยอยลำเลียงผู้ป่วยที่อยู่ไอซียู และ ผู้ป่วยที่ต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ ได้ลำเลียงมาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลสงขลา ส่วนโรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งฟื้นฟู

เมื่อถามถึฃกรณีที่มีแพทย์ และพยาบาลโพสต์ว่าขาดอาหาร และขาดออกซิเจน จะช่วยอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดไปที่โรงพยาบาลที่สามารถให้บริการได้ เพราะน้ำเข้ามาท่วม เมื่อท่วมก็ท่วมห้องเครื่องต่างๆ ด้วย
เมื่อถามต่อว่านายกฯประกาศในห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย ว่าจะไม่กลับจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นายอนุทิน กล่าวว่า จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อบัญชาการทุกอย่างร่วมกัน โดยมีผบ.ทสส. บัญชาการในพื้นที่ ส่วนตนเองจะไปๆ มาๆ เพราะศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.ฉก.) อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีมีการสั่งอพยพประชาชน ที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล เนื่องจากฝนยังตกอยู่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ตนมอบให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด ดำเนินการอย่างเต็มที่ และถ้าจังหวัดไหนประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย ก็จะมีงบประมาณในการจัดการ
เมื่อถามอีกกรณีมีหลายคนวิจารณ์ว่า รัฐบาลตั้งศูนย์ต่าง ๆ ทับซ้อนกัน นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าวก่อนจะขอตัวเข้าไปประชุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี