นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้

นายกฯสั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC ลดข่าวปลอมช่วงน้ำท่วมใต้

วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.01 น.

‘อนุทิน’สั่ง‘ศุภมาส’เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC รวมข้อมูลชุดเดียวให้สื่อใช้ ลดข่าวปลอมช่วงวิกฤติใต้ พร้อมจัดทำ Press Release รายวัน

27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนและการรับข้อมูลจากประชาชน เป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการสื่อสารสถานการณ์ การช่วยเหลือ เยียวยา และการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีนายชัยวัฒน์ บุญชวลิต รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เลขานุการ พร้อมผู้แทนหน่วยงานและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมผ่านระบบทั้งในพื้นที่และออนไลน์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมในช่วงท้ายของการประชุม


นางสาวศุภมาสกล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยที่ยังส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดในภาคใต้จำเป็นต้องมีระบบสื่อสารที่ถูกต้อง เป็นเอกภาพ และเชื่อถือได้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลชัดเจนและทันเวลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 11/2568 มอบหมายให้ตนจัดตั้งและปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนและการรับข้อมูลจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่รวบรวม บูรณาการ และสื่อสารข้อมูลจากทุกหน่วยงานของรัฐให้เป็นทิศทางเดียว ลดความสับสน และลดโอกาสเกิดข่าวปลอมในสถานการณ์วิกฤติ

นายชัยวัฒน์ บุญชวลิต รายงานโครงสร้างและภารกิจของศูนย์ฯ ว่า ศูนย์ฯ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านอุทกภัยภาคใต้ โดยรับข้อมูลแบบเรียลไทม์จากสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 5 และเขต 6 ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด รวมถึงข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หน่วยทหาร และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่ได้รับครอบคลุมสถานการณ์น้ำ ความเสียหาย การช่วยเหลือที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ฯ ยังเป็นช่องทางกลางในการรับข้อมูลจากประชาชน ผ่านสายด่วนรัฐบาล 1111 สายด่วน 1784 เฟซบุ๊กกรมประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชันของรัฐ และระบบ Traffy Fondue โดยข้อมูลทุกเรื่องจะถูกส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ และศูนย์ฯ จะติดตามผลกลับมาเพื่อสื่อสารตอบกลับประชาชนให้ครบถ้วนและถูกต้อง

จากนั้น นางสาวศุภมาส กล่าวต่อว่า เพื่อให้ข้อมูลจากภาครัฐมีความเป็นเอกภาพและช่วยลดการแพร่กระจายของข่าวปลอม ศูนย์ฯ จะจัดทำ ONE PAGE INFOGRAPHIC ประจำวัน โดยสรุปสถานการณ์สำคัญทุกมิติไว้ในแผ่นเดียว ทั้งแผนที่แสดงระดับความรุนแรงของพื้นที่ประสบภัย จุดเสี่ยง จุดพักพิง จุดรับบริจาค สถานะน้ำและไฟฟ้า เส้นทางคมนาคม การช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงาน ความคืบหน้าการฟื้นฟูสาธารณูปโภค การจัดการพื้นที่และ Big Cleaning การซ่อมแซมเสาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต รวมถึงมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง เช่น การพักหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย และสินเชื่อซ่อมแซมบ้านหรือร้านค้า นอกจากนี้ยังรวมข้อมูลเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงดินถล่มจากฝนตกสะสมหลายวัน

นางสาวศุภมาสระบุว่า ONE PAGE INFOGRAPHIC จะเผยแพร่ทุกวัน เป็นเวลา 2 รอบ ในเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ผ่านเพจกรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์ NBT NBT Connext ไทยคู่ฟ้า และจะถูกส่งต่อให้สื่อมวลชนทุกสำนัก เพื่อใช้เป็นข้อมูลกลางในการรายงานสถานการณ์ ลดความคลาดเคลื่อน ลดความสับสน และทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง

นางสาวศุภมาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ฯ จะจัดทำข่าวประชาสัมพันธ์หรือ Press Release ประจำวันจากข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และเผยแพร่ผ่านทุกช่องทางของกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสามารถนำเสนอข่าวได้อย่างมีมาตรฐานเดียวกัน

ช่วงท้ายการประชุม นางสาวศุภมาสกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ และย้ำว่าการบูรณาการข้อมูลอย่างเป็นระบบจะทำให้การช่วยเหลือประชาชนชาวใต้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top