วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กทม.ย้ำ! คนกรุงพาน้องหมา-แมวจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงทั้งเดิม-ใหม่ ต้องขึ้นทะเบียนฝังชิปทุกตัว
วันที่ 4 ธ.ค.68 รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2568 ถึงการเตรียมการใช้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ว่า กรุงเทพมหานครจะกำกับใช้กฎหมายนี้ในเดือนมกราคม 2569 จึงขอชวนกรุงเทพฯ ให้นำน้องหมาน้องแมวมาขึ้นทะเบียนฝังชิป โดยสัตว์เลี้ยงเดิมที่เลี้ยงมาก่อนหน้าไม่จำกัดจำนวน ไม่ว่าจะเกินจำนวนหรือไม่ก็ตาม ขอให้ขึ้นทะเบียนฝังชิปทุกตัว ส่วนสัตว์ใหม่ที่จะเลี้ยงหลังวันที่ 10 มกราคม 69 เราจะเริ่มจำกัดจำนวน และก็ต้องขึ้นทะเบียนฝังชิปทุกตัว
ประชาชนสามารถมาขอขึ้นทะเบียนฝังชิปได้ที่คลินิกสัตวแพทย์ของกทม. ทั้ง 8 แห่ง โดยในเดือนมกราคมนี้จะเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 10 แห่ง ส่วนถ้าใครมีคุณหมอที่ดูแลน้องหมาน้องแมวอยู่แล้วถ้าอยากไปที่คลินิกเอกชนก็สามารถไปได้แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการฝังชิพ และนำตัวเลขมาขึ้นทะเบียนในระบบของกทม. ขอให้ทุกคนจดทะเบียนสัตว์เลี้ยงของท่าน ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. ย้ำว่า สัตว์เลี้ยง หมา-แมว เดิมที่เลี้ยงไว้ก่อนหน้ากฎหมายใหม่ เกินจำนวนได้ แต่ขอให้เจ้าของไปขึ้นทะเบียนฝังชิพทุกตัว
สำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 สืบเนื่องจากนโยบายผู้ว่าฯกทม. ที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ได้แก่ P137 ขึ้นทะเบียนตลอดช่วงชีวิต เพื่อเป็นการป้องกันการปล่อยทิ้งสัตว์ที่มีเจ้าของเป็นสัตว์จรจัด และ P138 จัดระเบียบสัตว์จร แก้ปัญหาผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยการควบคุมการเพิ่มจำนวนสัตว์ ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และหาบ้านใหม่ให้สัตว์จร ลดการซื้อสัตว์ใหม่มาเลี้ยง
โดยข้อบัญญัติฯนี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 ม.ค.68 มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หรือวันที่ 10 ม.ค.69 กำหนดให้กรุงเทพมหานครเป็นเขตควบคุมการเลี้ยงสัตว์หรือปล่อยสัตว์ ดังนี้ 1.สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 2.สัตว์ปีก 3.สัตว์น้ำ 4.สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 5.สัตว์เลื้อยคลาน 6.สัตว์มีพิษหรือสัตว์ดุร้าย ทั้งนี้ การเลี้ยงสัตว์ตามข้อ 1-5 ดังกล่าว ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่กำหนด เพื่อประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สำหรับในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นเขตห้ามเลี้ยงสุนัขและแมวเกินจำนวนที่กำหนด ดังนี้ 1.พื้นที่อาคารชุดหรือห้องเช่าตั้งแต่ 20 ตร.ม. แต่ไม่เกิน 80 ตร.ม. เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว 2.พื้นที่อาคารชุดหรือห้องเช่าตั้งแต่ 80 ตร.ม. ขึ้นไป เลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 2 ตัว 3.เนื้อที่ดินไม่เกิน 20 ตร.ว. เลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 2 ตัว 4.เนื้อที่ดินตั้งแต่ 20 ตร.ว. แต่ไม่เกิน 50 ตร.ว. เลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 3 ตัว 5.เนื้อที่ดินตั้งแต่ 50 ตร.ว. แต่ไม่เกิน 100 ตร.ว. เลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 4 ตัว 6.เนื้อที่ดินตั้งแต่ 100 ตร.ว. เลี้ยงรวมกันได้ไม่เกิน 6 ตัว
หากเจ้าของสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ก่อนวันที่ข้อบัญญัติฯ บังคับใช้ หรือก่อนวันที่ 10 ม.ค.69 ให้แจ้งต่อสำนักงานเขต ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครใช้บังคับ หรือภายในวันที่ 9 เม.ย.69 หากไม่แจ้งและมีผู้ร้องเรียน เขตจะเข้าไปตรวจ ตักเตือน พร้อมแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อบัญญัติ กรณีเลี้ยงสุนัขและแมวเกินกว่าจำนวนที่กำหนด เพื่อประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ฟาร์มสัตว์ ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง คาเฟ่สัตว์เลี้ยง ร้านอาบน้ำตัดขนสัตว์ โรงแรมสัตว์) ให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เจ้าของสุนัขและแมว นำสัตว์ไปจดทะเบียน ออกบัตรประจำตัว และฝังไมโครชิป ด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำการแทน โดยยื่นคำขอจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ หน่วยงานที่รับจดทะเบียน สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย และสำนักงานเขต
ส่วนการนำสุนัขหรือแมวออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องปฏิบัติ ดังนี้ 1.แสดงบัตรประจำตัวสุนัขหรือแมว เมื่อเจ้าพนักงานเรียกตรวจ 2.ใช้สายจูงที่แข็งแรงและจับสายจูงตลอดเวลา หรือใช้ กระเป๋า คอก กรง หรืออุปกรณ์อื่นที่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้เป็นอันตรายต่อคนหรือสัตว์อื่น กรณีเป็นสุนัขควบคุมพิเศษ เช่น พิทบูลเทอร์เรีย บูลเทอร์เรีย สเตฟฟอร์ดเซอร์บูลเทอร์เรีย รอทไวเลอร์ ฟิล่าบราซิลเลียโร ต้องใช้อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรงและจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 ซม.ตลอดเวลา 3.ห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 15 หรือเกินกว่า 65 ปี นำสุนัขควบคุมพิเศษออกนอกสถานที่เลี้ยง
ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้ มีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากฝ่าฝืนตามมาตรา 29 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท)
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี