วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘หนู’ฮึ่ม!สแกมเมอร์สาวถึงใครจับหมด
ลั่น‘รู้จักผมน้อยไป’
แจงร่วมถ่ายรูปคู่‘เบน สมิธ’
รูปเก่า/รับรู้จักแต่ไม่สนิท
‘บิ๊กแดง-เอกนิติ’ออกโรงโต้
เจอในงานเลี้ยง/ไม่ได้คบหา
“อนุทิน”ตอบชัดปมร่วมเฟรม“เบน สมิธ”รับรู้จักแต่ไม่สนิท เป็นรูปเก่า บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ชี้เป็นเหตุต้องพ้น มท.โต้“โรม”รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์ “บิ๊กแดง”แจงภาพหลุดร่วมเฟรม“เบน สมิธ”ลั่นภาพเมื่อปี’57 แค่ร่วมโต๊ะอาหาร ด้าน“เอกนิติ”ระบุ แค่เจอกันในงานเลี้ยง แต่ไม่ได้คบหา หลังจากนี้ใครขอถ่ายรูปจะระวังให้มากขึ้น ขณะที่เพจดังงัดภาพ “ทักษิณ”ร่วมโต๊ะอาหาร“เบน สมิธ”ตอกหน้าแฟนคลับพรรคแดง ระบุ ระวังย้อนเข้าตัวเอง
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีปรากฏภาพถ่ายร่วมกับ นายเบน สมิธ นักธุรกิจที่ถูกสหรัฐจัดอยู่ในกลุ่มบุคคลเสี่ยงเกี่ยวข้องขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ และอยู่ในเครือข่ายที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์ ว่า สื่อก็เห็นอยู่แล้วว่าภาพดังกล่าวถ่ายเมื่อไหร่ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ตนไปแถลงข่าวเรื่องการยึดทรัพย์สแกมเมอร์ สื่อก็ถามว่าใครมีเส้นมีสายตนก็พูดชัดเจนว่า หากไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด
ยันสาวถึงใครก็จับคนนั้น
เมื่อถามว่าจะออกหมายจับนายเบน สมิธ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถึงใครก็โดนคนนั้น และเรื่องการออกหมายจับหรือไม่นั้นต้องไปถามตำรวจ เส้นเงินถึงใครก็คนนั้น ตนถึงบอกว่าปิดชื่อถือพฤติกรรม
เมื่อถามว่ารู้จักกับนายเบน สมิธหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “รู้จักๆ แต่ไม่สนิท และภาพที่ปรากฏคือการเจอกันครั้งแรก”เมื่อถามว่าการเจอครั้งนั้นนายเบน สมิธ บอกหรือไม่ว่าทำธุรกิจอะไร นายอนุทิน ส่ายหน้าพร้อมบอกว่า เป็นคนที่คุยกันในลักษณะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน ถามว่ารู้จักหรือไม่ก็รู้จัก และหลังจากนั้นก็เจอกันตามงานก็ทักทาย
รับเป็นเหตุผลที่พ้นรมต.มหาดไทย
เมื่อถามว่า เคยเจอกันกี่ครั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า โอ้โห ถามอะไรขนาดนั้น ก่อนย้อนถามสื่อว่า เจอเองกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร เขาก็มีแวดวงเจอในงานประมาณ 5-6 ครั้ง
เมื่อถามว่าแสดงว่านายเบน สมิธ รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมืองเยอะใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สื่อก็เห็นจากรูปแล้ว ทำไมจะมาเอากับเรื่องรูปที่ถ่ายเป็น10 ปี
เมื่อถามว่าการปรากฏภาพดังกล่าวเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แล้วแต่คิด ปกติแล้วตนไม่ได้ติดต่อและไม่ได้มีธุรกิจร่วมกับนายเบนสมิธ และจำไม่ได้หรือที่เขาไม่ได้สัญชาติไทยเสียที
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ถูกปลดจากรัฐมนตรีมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ”ใช่ ก็ว่าเป็นหนึ่งเหตุ เป็นหนึ่งในข้อหาที่ผมโดนขอให้ออกจากรัฐมนตรีมหาดไทย แต่ยืนยันไม่ใช่เป็นการปลดจากรัฐบาล ตอนนั้นเป็นการให้ผมไปเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข แต่ผมไม่เอาเขาไม่ได้ปลดผมออกจากรัฐบาล ผมถอนตัวเอง”
ลั่น“คุณรู้จักผมน้อยไป”
เมื่อถามว่าพยายามกู้ภาพรัฐบาลจากปัญหาน้ำท่วม ด้วยการปราบสแกมเมอร์แต่การปล่อยภาพนี้ออกมาเหมือนพยายามจะดึงลงเหวไปด้วยกัน นายอนุทิน กล่าวว่า คิดวิเคราะห์และแยกเรื่องให้ถูก
เมื่อถามย้ำว่าทราบหรือไม่ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพดังกล่าวออกมา นายอนุทิน ตอบว่า รู้หมด สื่อก็รู้
เมื่อถามว่า นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชนออกมาตั้งข้อสังเกตว่าการรู้จักกับนายเบน สมิธ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากแก้ปัญหาสแกมเมอร์ นายอนุทินย้อนถามสื่อว่า “โอ้โหนี้อ่ะนะที่ไม่แก้เรื่องสแกมเมอร์You know me little go (คุณรู้จักผมน้อยไป)”
แจงเป็นภาพเก่าเมื่อปี’57ที่สิงคโปร์
นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้กล่าวในช่วงหนึ่งของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ถึงกรณีภาพที่นายอนุทินมีภาพ ร่วมเฟรมกับ นายเบน สมิธ ว่า ตนมีโอกาสคุยกับ นายอนุทิน ถามว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง นายอนุทิน บอกว่าเป็นภาพเก่าเมื่อปี 2557 จำได้คร่าวๆ หมายความว่าหลังรัฐประหาร เมื่อปี 2557 มีการเดินทางไปสิงคโปร์ แล้วก็ไปเจอกับคณะของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลที่1และได้เจอ นายเบน สมิธ ซึ่งก็จำได้ และจนมาเป็นข่าววันนี้ก็จำได้ว่าคนนี้คือนายเบน สมิธ แต่ยืนยันว่าไม่ได้คบหาก็รู้ตั้งแต่มีการอภิปรายถึงนายเบน สมิธ ตนก็รู้ และก็เป็นคนที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีความพยายามขอสัญชาติไทย และตนในฐานะรมว.มหาดไทย ก็ไม่ได้อนุญาตให้สัญชาติกับนายเบน สมิธ แต่อย่างใด นี่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่จะยืนยันว่าไม่ได้มีการคบค้า และตนก็สงสัยด้วยซ้ำไปว่า หลังจากนั้นอาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ถูกผลักออกจากกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ จากกรณีที่ไม่ได้ให้สัญชาติกับนายเบน สมิธ
นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ปี2557 มันยังไม่มีประเด็นสแกมเมอร์เกิดขึ้นเลย และไล่เหตุการณ์ว่ามีการพบปะกัน นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่ได้มีการคบหา สิ่งที่จะพิสูจน์ก็คือในรัฐบาลตน ก็มีการยึดทรัพย์นายเบน สมิธ และนายยิมเลียกตลอดจนสั่งให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย
“บิ๊กแดง”ชี้ไม่ได้สนิท-แค่รู้จักผิวเผิน
ล่าสุดนายสรยุทธ กล่าวในช่วงหนึ่งของรายการสรยุทธ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ เมื่อจู่ๆ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ส่งข้อความและคำชี้แจงมาหาในไลน์ส่วนตัว โดยระบุว่า“ผมได้เห็นภาพและขอชี้แจงตามนี้ว่า ภาพแรกเป็นภาพปี 2557 ขณะเรียนหลักสูตร วปอ.และเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักนายเบน สมิธ เป็นนักธุรกิจและมารับประทานอาหาร ซึ่งยังจำได้ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล พูดในตอนนั้นว่า อเมริกันแชร์ คือทุกคนจ่ายค่าอาหารทุกคน ไม่มีใครเลี้ยงภาพอีกภาพเป็นรูปงานแต่งของลูกสาว และคนมาร่วมงานเยอะ ยืนยันส่วนตัวไม่ได้สนิทหรือคบหากับนายเบน สมิธ เป็นการรู้จักแบบผิวเผินกับนายเบน สมิธ”
“เอกนิติ”แจงแค่เจอกันในงานเลี้ยง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวชี้แจงกรณีปรากฎภาพถ่ายคู่กับ นายเบน สมิธ ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ โดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ ความว่า ภาพที่ปรากฎเป็นงานเลี้ยงหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ น่าจะเป็นช่วงหลังจากโควิดตนไปในฐานะที่ปรึกษาและอาจารย์ของหลักสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่นหนึ่งมีร้อยกว่าคน แต่ไม่รู้จักทุกคน เป็นอาจารย์ไปบรรยาย แล้วเวลามีงานเลี้ยงหรือกิจกรรมก็จะเชิญอาจารย์ไปด้วย แต่ไม่รู้ว่า เบน สมิธ เป็นนักเรียนร่วมรุ่นหรือแขกที่เชิญมา
นายเอกนิติ กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่าจำไม่ได้เลยว่าพูดคุยอะไรกัน เพราะเป็นปกติในงานเลี้ยงที่พบปะพูดคุย วันนี้ยังจำไม่ได้เลย แต่พอเห็นรูปถึงนึกออก น่าจะเป็นช่วง 5-6 ปีที่ แล้วเนื่องจากมีหน้ากากอนามัยแขวนอยู่ แต่ยืนยันไม่ได้คบหานายเบน สมิธ แน่นอน
จากนี้ใครขอถ่ายรูปจะระวังให้มากขึ้น
เมื่อถามว่าตอนอภิปรายเรื่อง นายเบน สมิธ พอนึกออกไหม นายเอกนิติ กล่าวว่า พอเขาดังขึ้นมาก็นึกออก แต่ตอนนั้นจำไม่ได้ ก็มีคนมาแลกนามบัตรในงานเลี้ยง
“ผมตรงไปตรงมา ตอนนี้ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ตอนนี้ไปงานเลี้ยง ไปงานสัมมนา ก็มีคนมาขอถ่ายรูป ก็ต้องระวังมากขึ้น ผมเองก็ไม่มีภาพนี้ คือในทุกหลักสูตรก็มีคนมาขอถ่ายรูป”นายเอกนิติ กล่าว
เพจดังโพสต์“แม้ว”ร่วมโต๊ะ“เบน สมิธ”
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับ นายอนุทินชาญวีรกูล นายรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง, พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก, นายอุปกิต ปาจรียางกู อดีต สว.และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจThailand FACT Today ที่มีผู้ติดตาม 5.3 แสนรายบนเฟซบุ๊ก ได้โพสต์ภาพถ่ายนายทักษิณ ชินวัตร ร่วมรับประทานอาหารกับเบน สมิธและร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ถูกเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้
ตอกกองเชียร์ระวังย้อนเข้าตัว
เฟซบุ๊กเพจThailand FACT Today ยังได้ระบุข้อความว่า ระวัง มันจะย้อนเข้าตัวกองเชียร์พรรคหนึ่ง ได้ทีด่านายกฯ พยายามจับเชื่อมโยงกับ เบน สมิธ จากภาพถ่ายแสนโบราณ อายุร่วม10ปี ยุคที่โลกยังไม่รู้จักสแกมเมอร์ด้วยซ้ำและวันนั้น เบน สมิธ ก็เป็นคนหนึ่ง ซึ่งแทบไม่มีใครรู้จักเช่นกันโดยหลงลืมไปว่า รัฐบาลนายกฯคนนี้แหละ ที่ไล่ยึดทรัพย์เครือข่ายเบน สมิธ แถมปฏิเสธให้สัญชาติไทยกลับกันขณะที่แฟนคลับพรรคนั้น อาภาพเก่ามาผูกโยงเขารู้ไหมว่า มันมีภาพใหม่กว่านั้นมากเป็นภาพของผู้มากบารมีของพรรคเพื่อไทย อยู่กับเบน สมิธ และภาพนี้ มีอายุไม่เกิน1ปีภาพนี้ เกิดขึ้นในวันที่โลกรู้แล้วว่า เบน สมิธ เป็นใคร ทำธุรกิจอะไรแต่ผู้มากบารมีทางการเมืองคนนั้น ก็ยังไปนั่งร่วมโต๊ะเจรจา จนปรากฏภาพออกมาแฟนคลับพรรคนั้น จะว่าอย่างไรบ้างนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี