วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายกฯย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 1 จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบนโยบายในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด และดูการสาธิตสถานการณ์สมมุติ หากมีเหตุปะทะแนวบริเวณพื้นที่แนวชายแดน ของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่า ก็เป็นหนึ่งในแผนเผชิญเหตุของผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีชายแดนติดอยู่กับประเทศกัมพูชา ซึ่งมีทั้ง จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว จันทบุรี และ จ.ตราด และตรงกับที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ไป ที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความพร้อมไหม ซึ่งนี่คือการฝึกใช้แผนพิทักษ์แนวหลัง เพื่อที่จะทำให้ฝ่ายกองทัพที่จะต้องไปดูแลชายแดน จะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง เพราะฝ่ายหลังจะมีทีมสนับสนุนในการดูแลพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัย
เมื่อถามว่า ไม่ได้มีสัญญาณบอกเหตุจากฝ่ายความมั่นคงใช่หรือไม่ ว่าจะมีสถานการณ์อะไรจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ นายอนุทิน กล่าวว่า สัญญาณบอกเหตุ มันก็มีมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา และยึดหลักระวัง ตั้งสงบ เตรียมรบให้พร้อมสรรพ ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะมีการระดมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งคือผู้คอยให้การบริการประชาชนในชุมชน ถือว่าเป็นมือไม้สำคัญ ทั้งกองทัพ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กองอาสารักษาดินแดน (อส.) เพราะฉะนั้นเราต้องให้ความมั่นใจ ว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า แสดงว่าในวันนี้เรายังไว้ใจกัมพูชาไม่ได้ใช่หรือไม่ว่าเขาจะเปิดอีกเมื่อไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมีความพร้อมตลอดเวลา ในท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่มีบทสรุป เราคงไม่ได้พูดถึงความไว้ใจ หรือไม่ไว้ใจ แต่เราต้องเตรียมในเรื่องของความพร้อมของเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทุกคนคงเห็นว่ามีความพร้อม แต่ความพร้อมไม่ได้ไปรบกับเขาอย่างเดียว แต่พร้อมในการที่จะเผชิญเหตุอย่างไร สิ่งแรกคือการเตรียมการอพยพพี่น้องประชาชนให้ไปในจุดที่ปลอดภัย เช่น ศูนย์พักพิงต่างๆ ที่จัดตั้งไว้ และในโรงเรียนต้องมีการจัดทำหลุมหลบภัย ซึ่งทำไว้ทุกๆ โรงเรียนแล้ว ในเขต 7 จังหวัด และมีการซักซ้อม แม้กระทั่งให้นักเรียนต้องซ้อมเผชิญเหตุการณ์ว่าถ้าเกิดจริงจะต้องทำอย่างไร และการสนับสนุนทุกอย่างหลังจากที่เกิดเหตุแล้วเราจะต้องเร่งดำเนินการอย่างไรให้เกิดความพร้อมสูงสุด โดยเฉพาะชาวบ้านต้องมีอาหารครบ ต้องมีที่นอน หมอน มุ้ง ครบ และต้องมีอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการดำรงค์ชีพ โดยเราเคยทำมาแล้วในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.68 ซึ่งตอนนั้นเหตุการณ์จริงยังไม่มีการซ้อมแบบนี้ ตอนนี้เราก็ใช้เหตุการณ์นั้นมาเป็นรูปแบบถอดบทเรียนออกมา และทำเป็นขั้นตอนและกระบวนการ หากเกิดเหตุตรงไหนเราก็สนับสนุนซึ่งกันและกัน
เมื่อถามว่า ในส่วนของรัฐบาลช่วง 31 ม.ค.68 จะต้องยุบสภา หากช่วงนั้นเกิดเหตุอะไรขึ้นมาก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ไม่เกี่ยว ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้ยุบไปกับเขาด้วย เพราะผู้ว่าฯ เป็นฝ่ายที่รับผิดชอบควบคุมสถานการณ์ หากมีสถานการณ์ไม่ดีจริง ผู้ว่าฯ ก็ประกาศให้เป็นพื้นที่ฉุกเฉิน ซึ่งเขามีอำนาจที่จะอำนวยการสถานการณ์ในจังหวัดของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุน
"สมมติว่าเกิดมีอะไรในช่วงที่หลังยุบสภาแล้วยังไม่เลือกตั้ง ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ รัฐบาลก็ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รัฐบาลก็มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการเข้าสนับสนุนหรือระงับเหตุการณ์นั้น ซึ่งมีอะไรที่ต้องกังวล ประเทศไม่มีวันที่จะขาดรัฐบาล ซึ่งมีเหตุการณ์ที่ต้องการการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ฉุกเฉินก็จะมีรัฐบาลในการบริหารประเทศตลอดเวลา" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า แนวทางการเจรจาที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ไปประชุมล่าสุดที่ออตตาวา เหมือนพยายามประท้วงแต่ไม่เป็นผล ในเรื่องของการเจรจา นายอนุทิน ถามกลับว่า รู้ได้ไงว่าไม่เป็นผล นายสีหศักดิ์บอกตนว่ามีขั้นตอนในการดำเนินการเจรจาอย่างชัดเจน
ถามย้ำว่า เห็นว่าตั้งอนุกรรมการไม่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า จะตั้งได้ไม่ได้เราก็มีอธิปไตยของเรา เราก็มีสิทธิ์ที่จะทำรายงานไป เราลงนามในสนธิสัญญาออตตาวา คือเรื่องของการเก็บกู้วัตถุระเบิด และเราใช้คำว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ด้วยหลักมนุษยธรรม หมายความว่า ถ้าฝ่ายเก็บกู้วัตถุระเบิด เห็นทุ่นระเบิดที่ไหนจะไม่ถามว่าเป็นของใคร เพราะเจอตรงไหนเก็บตรงนั้น และถ้าเกิดว่าถูกต่อต้าน หรือว่าถูกหยุดหรือระงับไม่ให้ทำ เขาก็มีแผนเผชิญเหตุ
เมื่อถามว่า หมายความว่าเราก็ต้องเก็บกู้ตามที่เข้าในภาคีของสัญญาออตตาวาอยู่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องปฏิบัติตามกติกา เพื่อที่จะได้ให้คนเห็นอย่างชัดเจนว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายกระทำ เราเป็นประเทศที่มีประชากรมาก และเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่า เพราะฉะนั้นต้องแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้ใช้ความได้เปรียบเหล่านี้ในการไปรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้นเรามีหลักเกณฑ์ที่ต้องยึดถืออยู่ แต่ถ้าวันนี้เกิดมีการทำร้ายคนของเราหรือรุกล้ำเข้า รวมถึงการยิงลูกกระสุนหรือแม้แต่จรวจเข้ามาในประเทศเรา เราก็พร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบ ตนไม่สามารถพูดอะไรที่เป็นการยั่วยุได้ แต่ว่าตนได้รับการยืนยันจากกองทัพ และได้หารือพูดคุยกับผู้นำเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ ทุกท่านมีความพร้อมที่จะปฏิบัติการรักษาอธิปไตยไทยอย่างเต็มที่มีแผนทุกอย่างไว้
เมื่อถามว่า กองทัพรายงานเรื่องของการตัดถนนล่าสุดของกัมพูชาในหลายพื้นที่ในแทบอีสานใต้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในรายละเอียดเขามีหลักในการดำเนินการ และเรายังพูดคุยในลักษณะทวิภาคีอยู่และมีการประชุม คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ตรงไหนที่มันไม่ถูกต้อง เราก็ยกขึ้นมา ซึ่งยืนยันว่า ตอนนี้เท่าที่ทราบทุกอย่างก็ยังเป็นไปในทิศทางที่ยังเจรจากันได้อยู่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี