วันศุกร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อนุสรณ์ จี้ อนุทิน ไม่ควรเอาเรื่องแก้รธน. มาเป็นตัวประกัน อย่ายุบสภาหนีการตรวจสอบ
5 ธ.ค. 68 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุได้คาดเข็มขัดนิรภัย พร้อมเผชิญอุบัติเหตุทางการเมืองทุกสถานการณ์ ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะนายอนุทิน ส่งสัญญาณพร้อมยุบสภา หนีการตรวจสอบ ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องระวังคือ เข็มขัดสั้น คาดไม่ถึง ความเชื่อมั่นจมหาย ไปกับเหตุการณ์น้ำท่วม จนคนในรัฐบาลยอมรับเองว่าเป็นรัฐล้มเหลว แม้จะรัดเข็ดขัดแต่อาจไม่สามารถรอดพ้นจากแรงกระแทกอันรุนแรงจากพายุความผิดพลาด มือไม่ถึง ที่ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่คาดคิด รัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่มา 2 เดือนยังสั่นคลอนถึงเพียงนี้
หากต้องบริหารราชการแผ่นดินยาวนานถึง 4 ปี ประเทศชาติจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนเพียงใด ความหวาดกลัวต่อการตรวจสอบ ของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยิ่งทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลถดถอยลงไปทุกขณะ รัฐบาลเสียงข้างน้อย และตัวนายอนุทินในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องแยกแยะ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นภารกิจที่คนไทยจับตามอง ในการฟื้นฟูหลักประชาธิปไตยให้กลับมาอยู่ในครรลองที่ถูกต้อง ยึดโยงกับประชาชน กับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐตามกลไกของระบบรัฐสภา ไม่ควรนำ 2 เรื่องนี้มาผูกโยงเป็นตัวประกัน หรือใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างเงื่อนไขในการยุบสภาหนีการตรวจสอบ เมื่อพรรคเพื่อไทยได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว สภาก็ยังสามารถเดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปได้ควบคู่กัน ไม่มีความจำเป็นต้องตีตนไปก่อนไข้ หรือสร้างภาพว่าฝ่ายค้านกำลัง ตัดตอน คว่ำไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ข้ออ้างที่ว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต่อให้ตอบคำถามได้ดีเพียงใด ก็จะถูกคว่ำกลางสภา เพราะเสียงสนับสนุนไม่พอนั้น ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้ ยังมีพรรคฝ่ายค้ำ ที่ประกาศตน แสดงตัวอย่างชัดเจนตาม MOA พร้อมให้การค้ำ และเคยสนับสนุนนายอนุทินขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแบบยกพรรคมาแล้ว
ดังนั้นข้อกังวลเรื่องถูกคว่ำในสภา จึงเป็นเพียงการสร้างวาทกรรมทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ยุบสภาหนีการตรวจสอบ เท่านั้น สำหรับประเด็นเนื้อหาที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น นอกจากคดี สแกมเมอร์ ทุนเทา เขากระโดง ฮั๊วสว. ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน เกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก และเพียงพอที่จะตั้งคำถามต่อความสามารถและความโปร่งใสของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณจัด Moto GP 4,000 ล้านบาท ข้อตกลง MOU แร่แรร์เอิร์ธระหว่าง สหรัฐฯ–ไทย ท่ามกลางศึกชิงทรัพยากรระดับมหาอำนาจ วิกฤตน้ำท่วมที่คนในรัฐบาลเสียงข้างน้อยเองยังยอมรับว่าเป็นบทพิสูจน์ความล้มเหลวของรัฐ ตลอดจนกรณีภาพถ่ายและภาพหลุดต่างๆ ที่สั่นคลอนความน่าเชื่อถือของผู้นำรัฐบาลอย่างรุนแรง จนแม้แต่นักการเมืองในรัฐบาลยังไม่รู้จะชี้แจงประชาชนอย่างไร
“รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายอนุทินไม่ควรยุบสภา หนีการตรวจสอบ และไม่ควรนำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาใช้เป็นตัวประกันทางการเมือง” นายอนุสรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี