วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สีหศักดิ์ ถามกลางยูเอ็น ถ้าวางทุ่นระเบิดแล้วไม่ต้องรับผิด อะไรจะเกิดขึ้น

สีหศักดิ์ ถามกลางยูเอ็น ถ้าวางทุ่นระเบิดแล้วไม่ต้องรับผิด อะไรจะเกิดขึ้น

วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.08 น.

'สีหศักดิ์' แถลงโต้กัมพูชาบิดเบือน ย้ำจุดยืนไทยปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ชี้ถ้ารัฐภาคีวางทุ่นระเบิดแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ จะเกิดอะไรขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยแถลงในวาระการพิจารณาคำขอตามข้อ 8 ของอนุสัญญาออตตาวา ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 ณ นครเจนีวา


นายสีหศักดิ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงและจุดยืนของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยย้ำว่าไทยมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ มาตลอด และได้ใช้กลไกทวิภาคีทุกช่องทางด้วยความจริงใจเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ไทยไม่ประสงค์ที่จะทำให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง แต่การที่ทหารของไทยได้รับความสูญเสียและต้องทุพลภาพอย่างถาวรจากการใช้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดข้อ 1 ของอนุสัญญาฯ อย่างชัดแจ้งนั้น จึงจำเป็นต้องกล่าวถ้อยแถลงนี้ในนามของประชาชนผู้ที่ต้องเผชิญกับการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น

นายสีหศักดิ์ ระบุว่าไทยไม่มีทางเลือกและต้องสงวนสิทธิในการดำเนินการตามกลไกข้อ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาฯ เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชา แต่คำชี้แจงของกัมพูชากลับขัดแย้งกับหลักฐานที่ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว อีกทั้งยังมีการบิดเบือนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

"หากรัฐภาคีสามารถวางทุ่นระเบิดใหม่แล้วเพียงปฏิเสธได้โดยไม่ต้องรับผลการกระทำใด ๆ จะเกิดอะไรขึ้น หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งถัดไป การดำเนินการต่อไปที่เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสที่สุด คือ การร้องขอให้เลขาธิการสหประชาชาติอำนวยความสะดวก (good offices) ในการจัดตั้งคณะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-finding mission) ที่เป็นอิสระ อย่างทันท่วงที"

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของไทยคือ เพื่อไม่ให้ประเด็นนี้ถูกนำมาทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง โดยการพึ่งพากลไกของอนุสัญญาฯ ซึ่งจะเป็นการปกป้องความน่าเชื่อถือของอนุสัญญาฯ และแสดงให้เห็นว่า กลไกดังกล่าวสามารถนำมาใช้ได้จริงในยามที่จำเป็นที่สุดด้วย

นอกจากนี้ นางสาวอุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้ใช้สิทธิตอบโต้ (Right of Reply) แย้งคำกล่าวหาที่ปราศจากการพิสูจน์ข้อมูลของกัมพูชาว่า ไทยได้ดำเนินการฝ่ายเดียว ขาดความน่าเชื่อถือ และทำให้ความสูญเสียของทหารทั้ง 7 นายเป็นประเด็นทางการเมือง โดยได้แสดงหลักฐานเชิงประจักษ์ของการละเมิดพันธกรณีอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา ต่อที่ประชุมรัฐภาคีฯ รวมถึงคลิปวิดีทัศน์ที่ทหารกัมพูชากำลังฝึกวางทุ่นระเบิด PMN-2 ซึ่งฝ่ายไทยได้นำส่งหลักฐานเหล่านี้ให้กับเลขาธิการสหประชาชาติทั้งหมดด้วยแล้ว พร้อมทั้งชี้ว่า การจัดตั้งคณะผู้ตรวจสอบความจริงตามที่ไทยได้เสนอนั้น จะช่วยยืนยันข้อเท็จจริงและเสริมสร้างความโปร่งใสของการดำเนินการของทุกฝ่าย ซึ่งหากกัมพูชามีความสุจริตใจที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างแท้จริง ก็ควรที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดห้วงการประชุมรัฐภาคีฯ คณะผู้แทนไทยจากกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพและแสดงท่าทีเป็นเสียงเดียวกัน โดยผู้แทนของแต่ละหน่วยงานได้กล่าวถ้อยแถลงและใช้สิทธิตอบโต้ในระเบียบวาระที่ไทยถูกพาดพิง เพื่อยืนยันท่าทีและปกป้องผลประโยชน์ของไทยในการประชุมรัฐภาคีฯ ครั้งนี้อย่างถึงที่สุด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top