วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 6 ธันวาคม 2568 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee” ระบุว่า ประเทศไทยกำลังติดเชื้อ “ไวรัสโกงกินทั้งระบบ” อย่างรุนแรง
ถ้าไม่รักษาแบบถอนรากถอนโคนตั้งแต่วันนี้ เราอาจไม่มี “รัฐที่เป็นของประชาชน” เหลืออีกต่อไป
ประเทศไทยในปี 2025 ไม่ได้สะดุดเพราะคนไม่เก่ง แต่เพราะทั้งประเทศกำลังถูกไวรัสชนิดหนึ่งกัดกินจากข้างในไวรัสโกงกินทั้งระบบ (Scam Virus) ที่ลามผ่านนักการเมือง ราชการ ท้องถิ่น ตำรวจ ที่ดิน จนถึงนโยบายระดับชาติ
นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว คือสิ่งที่ทำให้ประเทศไทย “เหมือนป่วยเรื้อรัง”
– เศรษฐกิจโตช้า
– สังคมขัดแย้ง
– กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์
– คุณธรรมจริยธรรมเสื่อมทราม คนดีถอย คนโกงโต
และทั้งหมดเริ่มต้นจาก “โครงสร้างรัฐเสื่อม”
~ ไวรัสโกงกินมี 3 สายพันธุ์ที่ลามทั้งประเทศ
1) รัฐซ้อนรัฐ–รัฐลับลวง (Deep Scam State)
เป็นเหมือน “เครือข่ายอีกชั้น” ที่คุมรัฐจริง ทำงานหลังฉาก กำหนดการแต่งตั้ง การโยกย้าย การจัดซื้อ การอนุญาต ประชาชนไม่เห็น แต่ทุกคนรู้ว่า “มันมีอยู่จริง”
ตัวอย่างที่คนไทยเห็นชัด:
• การซื้อขายตำแหน่งในตำรวจ
• ส่วยบนถนน ส่วยรถบรรทุก
• บ่อน–ยา–แรงงานต่างด้าวที่อยู่ภายใต้ “เจ้าของพื้นที่จริง”
นี่คือ “รัฐเงา” ที่ทรงพลังยิ่งกว่ารัฐจริงเสียอีก
2) การเมืองเทา–ทุนเทา–ข้าราชการเทา
ไม่ใช่โกงแบบโต้ง ๆ แต่เป็นการ “บิดระบบ” ไปเรื่อย ๆ จนผิดธรรมชาติ เช่น
• ใช้งบลับ งบแฝง
• เปิดช่องกฎหมายให้พวกพ้อง
• นายทุนผู้สนับสนุนได้ผลประโยชน์คืน
• ระบบราชการบางส่วนทำงานตอบแทนเส้นสายมากกว่าประชาชน
นี่คือการทำให้ “กติกา” ถูกออกแบบเพื่อคนบางกลุ่ม ที่ประชาชนไม่ได้อยู่ในสมการเลย
3) การยึดรัฐ (State Capture) — ขั้นสุดของการเสื่อม
เมื่อกฎหมาย นโยบาย งบประมาณ การแต่งตั้ง ถูกควบคุม/สั่งการโดยคนกลุ่มเล็ก ๆ รัฐไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไป แต่เป็นของ “เครือข่ายผลประโยชน์”
นี่คือโรคที่หนักที่สุด และคือเหตุผลว่าทำไมประเทศไทยเหมือนเดินวนกลับที่เดิมไม่หยุด
~ เชื้อโกงกินทำลาย “รากของประเทศ” สามจุดพร้อมกัน
1) ทำลายฐานรากคุณธรรมของบ้านเมือง (Moral Foundation)
คนดีทำงานยากขึ้น คนโกงโตเร็วขึ้น คนรุ่นใหม่เห็นภาพแล้วท้อ นี่คือการทำลายรากของประเทศแบบลึกที่สุด
2) ทำลายศักยภาพรัฐ (State Capacity)
รัฐทำงานช้าลง–อ่อนแรงลง เห็นชัดในหลายเรื่อง:
• น้ำท่วมซ้ำซาก
• อุบัติเหตุบนถนนแก้ไม่ได้
• ตำรวจไม่เป็นที่พึ่ง
• ปฎิรูปไม่เขยื้อน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไม่ขยับ
เพราะระบบถูก “ล็อก” ด้วยอำนาจแฝง
3) ทำลายระบบบริหารประเทศ (System Governance)
ทำให้กฎหมายกลายเป็นเครื่องมือ อยากเอาผิดใครก็เอา อยากนิ่งก็เงียบ จนคนหมดศรัทธาในรัฐ
นี่คือภัยเงียบที่ทำลายประเทศจากข้างใน ไม่ใช่จากภายนอก
~ ทำไมการเมืองแบบเดิมยิ่งทำให้เชื้อร้ายโตเร็วขึ้น
เพราะการเมืองไทยยังเป็น “การเมืองแย่งอำนาจ” (Power Politics) ไม่ใช่ “การเมืองแก้โครงสร้างประเทศ” (Statecraft Politics)
พรรคแข่งกันว่าใครดังใครด่าใครแจก แต่ไม่มีใครกล้าชน “รากของปัญหา” เพราะไปแตะแล้วกระทบเจ้าของผลประโยชน์
ผลคือ ไวรัสโกงกินยิ่งแข็งแรง
~ประเทศไทยต้องเปลี่ยน “โมเดลรัฐ” ไม่ใช่เปลี่ยนนักการเมือง
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมประเทศไทยต้องเดินสู่ “การเมืองที่ออกแบบอนาคตประเทศ” (Statecraft Politics)
ไม่ใช่ “การเมืองแย่งเก้าอี้”
Statecraft Politics ต้องทำ 3 อย่างให้ได้:
1) รื้อกติกาที่เปิดช่องโกง—โปร่งใสทั้งงบประมาณ การจัดซื้อ การแต่งตั้ง
2) ทำให้ข้าราชการซื่อสัตย์และเก่งขึ้น—โยกย้ายตามผลงาน ไม่ใช่เงินใต้โต๊ะ
3) ทำให้รัฐเป็นของประชาชนจริง ๆ—เปิดข้อมูล เปิดสถิติ เปิดการตัดสินใจแบบเรียลไทม์
นี่คือ “ยาแรง” ที่รักษาโรคนี้ได้ ไม่ใช่การเมืองแบบเดิม
~ แนวทางถอนรากถอนโคน—แบบที่ทำได้จริง ไม่ใช่แค่สโลแกน
ประเทศไทยต้องทำ 6 เรื่องนี้พร้อมกัน:
1) เปิดข้อมูลรัฐทุกบาททุกสตางค์ (Open Government Full Version)
เหมือนเกาหลี–เอสโตเนีย หยุดการซ่อนงบ
2) ห้ามใช้เงินทุนเทาในพรรคการเมือง
เปิดรายชื่อผู้บริจาคแบบวันต่อวัน
3) ปฏิรูประบบแต่งตั้งโยกย้ายในตำรวจ ท้องถิ่น ที่ดิน
สามจุดนี้คือ “หัวใจวงจรผลประโยชน์เทา”
4) ตั้งทีมปราบโกงอิสระแบบอังกฤษ (Delivery + Anti-corruption Taskforce)
ทำงานเร็ว ตรง ไม่ติดระบบราชการแบบเดิม
5) แยกอำนาจกรม–กระทรวงที่ทับซ้อนจนเกิดช่องผลประโยชน์
โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับบ่อน–แรงงานต่างด้าว–ขนส่ง–ที่ดิน
6) ตั้งองค์กรยุทธศาสตร์ชาติถาวร (Strategic Council)
ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใด คอยกันไม่ให้ประเทศ “ถูกยึดอีก”
~ ประชาชนต้องถามคำถามใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นี่คือหัวใจของบทความทั้งหมด
ประชาชนต้องเปลี่ยนคำถามจาก “พรรคไหนให้เยอะที่สุด?” ไปเป็น “พรรคไหนล้างระบบโกงได้จริง?”
ถามแบบนี้:
1. พรรคไหนกล้าชนทุนเทา?
2. พรรคไหนกล้าปฏิรูปตำรวจจริง?
3. พรรคไหนเปิดข้อมูลแบบโปร่งใสจริง?
4. พรรคไหนเปลี่ยนการเมืองแย่งอำนาจเป็นการเมืองสร้างประเทศ?
5. พรรคไหนปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์พวก?
นี่คือคำถามที่กำหนดอนาคตประเทศทั้งชาติ
~ บทสรุป: ประเทศไทยต้องรักษาโรคที่ต้นเหตุ ไม่ใช่แก้ไขตามอาการ
ไวรัสโกงกินไม่ใช่แค่ปัญหาเศรษฐกิจ แต่เป็นโรคที่กำลังกัดกิน “หัวใจของรัฐไทย”
ถ้าเราไม่เริ่มรักษาตอนนี้ รัฐไทยอาจถูกยึดโดยระบบสีเทาแบบสมบูรณ์ จนคนรุ่นหลังไม่มี “รัฐของประชาชน” เหลือให้สู้
• นี่คือการต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่การเมืองฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง
• นี่คือการเลือกตั้งที่ต้องป้องกันอนาคต ไม่ใช่แก้ปัญหาปัจจุบัน
• นี่คือเวลาที่ประชาชนต้องลุกขึ้นถามคำถามที่ถูกต้อง
การเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง จะไม่ใช่ ”การแข่งขัน“ ระหว่างสีพรรคอีกต่อไป แต่จะเป็น“สงครามครั้งใหญ่” ระหว่าง “พรรคเทา”กับ “พรรคไม่เทา” เป็นสงครามที่มีความเป็นความตายของประเทศเป็นเดิมพัน
ประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมือง แต่ขึ้นอยู่กับว่า ประชาชนจะเลือก “รัฐที่เป็นของประชาชน” หรือ “รัฐที่ถูกยึดโดยผลประโยชน์สีเทา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี