‘สวนดุสิตโพล’เปิดความต้องการประชาชน อยากได้คนแบบไหนเป็น สส.-นายกรัฐมนตรี

‘สวนดุสิตโพล’เปิดความต้องการประชาชน อยากได้คนแบบไหนเป็น สส.-นายกรัฐมนตรี

วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 08.18 น.

‘สวนดุสิตโพล’เปิดความต้องการประชาชน อยากได้คนแบบไหนเป็น สส.-นายกรัฐมนตรี

7 ธันวาคม 2568 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ประชาชนอยากได้คนแบบไหนเป็น สส.และนายกรัฐมนตรี” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,186 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้


1.ประชาชนคิดว่าคุณสมบัติของผู้สมัคร สส. ต่อไปนี้ มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด (คะแนนเต็ม 10)

1.พูดจริงทำจริง 9.46

2.ขยัน อดทน 9.44

3.ซื่อสัตย์ 9.42

4.บริหารจัดการในสถานการณ์วิกฤตได้ 9.41

5.มีจิตอาสา 9.04

6.ความเป็นผู้นำสูง 8.93

7.มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 8.77

8.การศึกษาดี 8.37

9.มีประสบการณ์ทางการเมือง 7.90

10.มีฐานะที่มั่นคง 7.50

11.พูดเก่ง 7.40

12.มีชื่อเสียง 7.22

13.อาชีพ 6.94

14.อายุ 5.91

15.เพศ 4.32

2.คุณลักษณะสำคัญของคนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี

อันดับ 1 มีอุดมการณ์ก้าวหน้า มีวิสัยทัศน์ กล้าทำอะไรใหม่ ๆ 40.71%

อันดับ 2 ไม่เล่นเกมการเมือง ทำเพื่อประชาชนจริง 30.09%

อันดับ 3 ไม่โกง ไม่เทา ซื่อสัตย์ สุจริต 29.20%

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ประชาชนอยากได้คนแบบไหนเป็น สส.และนายกรัฐมนตรี” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,186 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างเห็นว่าคุณสมบัติผู้สมัคร สส. ที่สำคัญ คือ การพูดจริงทำจริง คะแนนเฉลี่ย 9.46 คะแนน รองลงมาคือ ความขยัน อดทน 9.44 คะแนน และความซื่อสัตย์ 9.42 คะแนน ด้านคุณสมบัติของผู้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี คือ มีอุดมการณ์ก้าวหน้า มีวิสัยทัศน์ กล้าทำอะไรใหม่ ๆ ร้อยละ 40.71 รองลงมาคือ ไม่เล่นเกมการเมือง ทำเพื่อประชาชนจริง ร้อยละ 30.09 และไม่โกง ไม่เทา ซื่อสัตย์ สุจริต ร้อยละ 29.20

ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนบริบทที่คนไทยกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และความผันผวนทางการเมือง จึงทำให้ “ความสามารถในการบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤต” กลายเป็นอีกคุณสมบัติสำคัญที่ประชาชนมองหาในตัวผู้แทน ด้านคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี เห็นชัดว่ามีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ หรือ “4 ก.” ได้แก่ อุดมการณ์ ก้าวหน้า ไม่เล่นเกม และไม่โกง ซึ่งบ่งบอกถึงความคาดหวังต่อผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการการเมืองแบบเดิมที่เป็นภาระต่อการพัฒนา            

ด้าน ผศ.ดร.อานุภาพ รักษ์สุวรรณ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายมหาชนและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า ข้อมูลจากผลโพลแสดงให้เห็นว่า พลวัตที่น่าสนใจในบริบทการเมืองไทยคือ ประชาชนให้ความสำคัญกับ “คุณค่าเชิงสมรรถนะและจริยธรรม” (Competency and Integrity Values) ของผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มากกว่าปัจจัยทางกายภาพหรือสถานะทางสังคม โดยคะแนนสูงสุดจะกระจุกตัวอยู่ที่ “การพูดจริง  ทำจริง” “ขยัน อดทน” และ “ความซื่อสัตย์” มากกว่าปัจจัยด้านอื่น ๆ

ทั้งนี้ สะท้อนว่าผู้มีสิทธิออกเสียงต้องการผู้แทนที่เน้นผลสัมฤทธิ์ (Result-Oriented) และมีธรรมาภิบาล มากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก และในส่วนของประมุขฝ่ายบริหาร ผลสำรวจบ่งชี้ชัดเจนถึงความต้องการ “ภาวะผู้นำเชิงวิสัยทัศน์และการเปลี่ยนแปลง” (Visionary and Change Leadership) โดยสังคมคาดหวังผู้นำที่มีอุดมการณ์ก้าวหน้า กล้าตัดสินใจทำสิ่งใหม่ เพื่อนำพาประเทศออกจากกับดักทางการเมืองแบบดั้งเดิม ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนตื่นรู้และต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ โปร่งใส และจับต้องได้จริง มากกว่าวาทกรรมทางการเมือง

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top