วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
"เพื่อไทย"ปราศรัยร้อยเอ็ด "เต้น"ปลุกอำนาจ ปชช. สู้ระบบน้ำเงินกินรวบ ชี้ พท.ยื่นซักฟอกแน่ เตือน"นายกฯหนู"อย่าชิงยุบสภาเป็น"นายกฯหนี" ด้าน"จิราพร-ชญาภา"ลั่นอยู่ พท.เคียงข้าง ปชช.ไม่ขายอุดมการณ์
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.พนมไพร อ.อาจสามารถ และ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมปราศรัยพูดคุยกับพี่น้องประชาชนนับหมื่นคนที่มาร่วมรับฟังการปราศรัย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนกับ นายนิสิต สินธุไพร อดีต สส.ร้อยเอ็ด บิดาของ น.ส.จิราพร และ น.ส.ชญาภา ได้ยืดอกและภูมิใจในการเข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย ที่ได้ดำเนินนโยบายเพื่อยกระดับชีวิตพี่น้องประชาชน ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคการเมืองนี้ก่อตั้งโดยนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยทำนโยบายเพื่อให้คนไทยหายจน วันนี้ผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองนี้ก็ถูกเขาเอาไปขังในเรือนจำ การเมืองวันนี้ประชาธิปไตยกำลังถอยหลัง จึงไม่สามารถปล่อยไปแบบนี้ได้ ดังนั้น เพื่อไทยจึงจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน และถ้ารัฐบาลยุบสภาหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนายกฯชื่อหนู จะเปลี่ยนสระอูเป็นสระอี กลายเป็นนายกฯ หนี ถ้ามาลงเลือกตั้งขอเป็นนายกฯ อีกสมัย แล้วชาวบ้านถามว่าเพิ่งยุบสภาหนีมาจะกลับเข้าไปอีกทำไม ก็ไม่รู้จะตอบได้อย่างไร บางพรรคบอกว่าอย่ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดี๋ยวการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะล่ม ไม่อยากจะพูดเลยว่าพรรคการเมืองไหนที่ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า หากปล่อยบ้านเมืองเป็นไปแบบนี้ต่อไป จะเป็นพิษภัยกับประชาธิปไตย โดยเฉพาะขณะนี้กำลังเกิดระบบกินรวบ โดยรัฐบาลสีน้ำเงิน ซึ่ง สว.ก็เป็นสีน้ำเงิน แล้ว สว.ก็มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระอีก หากอำนาจทั้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และองค์กรอิสระเป็นพวกเดียวกัน แล้วอำนาจประชาชนอยู่ หากเราปล่อยไปแบบนี้ สิ่งที่ต่อสู้กันมา 20 ปีจะเหลวเปล่า การที่เขารัฐประหารมาทั้ง 2 ครั้ง สร้างความอยุติธรรมสองมาตรฐาน ฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิดแต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ไม่ผิด และอีกหลายๆ อย่างที่ผ่านมา เพราะเขาต้องการให้พรรคการเมืองที่พวกเขาอุ้มชูมานั้นชนะการเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าชัยชนะในการเลือกตั้งยังอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย
"มีหลายคนมาถามว่าพรรคเพื่อไทยชั่วโมงนี้ยังไหวไหม ก็ยืนยันว่าไหวครับ เพราะหลังพิงเดียวที่พรรคเพื่อไทยมีคือประชาชน พ่อใหญ่ทักษิณ วันนี้เขาก็วิเคราะห์กันว่ามีความพยายามที่จะให้พ่อใหญ่ทักษิณอยู่ข้างใน ไม่ให้ออกมาในสนามเลือกตั้ง แต่คนร้อยเอ็ดบอกว่าจะเลือกพรรคการเมืองที่สืบทอดเจตนารมณ์ของนายกฯ ทักษิณ" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ด้าน น.ส.จิราพร กล่าวว่า หลังเลือกตั้ง 2566 พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ก็มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีและร่วมผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อพี่น้องประชาชนหลายด้าน แต่หลายนโยบายหากไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล อาจจะไม่ได้สานต่อ เหมือนที่เขาเคยทำการรัฐประหารที่ผ่านมาแล้วยกเลิกหลายนโยบายดีๆ ที่พรรคเพื่อไทยทำเอาไว้ ยืนยันว่าครอบครัวสินธุไพร จะไม่มีทางทรยศต่ออุดมการณ์และพี่น้องประชาชนที่เมตตามาตลอด แม้นายนิสิต ซึ่งเป็นบิดาจะต้องอยู่ในเรือนจำ และถูกบีบคั้นทางการเมืองมากเท่าไร ครอบครัวสินธุไพรก็จะขออยู่สู้เคียงข้างพี่น้องประชาชนและพรรคเพื่อไทย ไม่มีทางทรยศต่ออุดมการณ์เด็ดขาด
ขณะที่ น.ส.ชญาภา กล่าวว่า มีคนไปปล่อยข่าวว่าจิราพร และชญาภา ย้ายพรรคไปอยู่สีน้ำเงินแล้ว วันนี้ขอยืนยันเลยว่าเราไม่มีทางขายอุดมการณ์ และขออยู่กับพี่น้องประชาชน อยู่กับพรรคเพื่อไทย เพื่อทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไรเราก็ยังทำตามเจตนารมณ์ที่เคยพูดไว้กับพี่น้องประชาชน คือผลักดันนโยบายยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชน แม้จะเป็นฝ่ายค้านเราก็ทำตามหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่ ไม่ละเว้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ขอเป็นฝ่ายค้ำที่คอยไปยกมือให้รัฐบาลเหมือนบางพรรคการเมือง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี