4จว.ใต้ยังท่วม  ประชาชนเดือดร้อน2.2แสนคน  ปภ.โอนเยียวยาอีก286ล้าน  มท.ขันนอตฟื้นฟูหาดใหญ่

4จว.ใต้ยังท่วม ประชาชนเดือดร้อน2.2แสนคน ปภ.โอนเยียวยาอีก286ล้าน มท.ขันนอตฟื้นฟูหาดใหญ่

วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปภ.รายงานอุทกภัยใต้ยังมี 4 จว.ท่วม กระทบ 7.9 หมื่นครัวเรือน เร่งช่วยเหลือเยียวยาปชช.ต่อเนื่อง 2.2 แสนคนเดือดร้อน บ่ายวันเดียวกัน ปภ.โอนเงินเยียวยา 9 พันช่วยน้ำท่วม 8 จังหวัดทั่วประเทศรอบที่ 7 อีก 286 ล้านบาท 31,858 ครัวเรือน ขณะที่ภาคใต้ รวม6วันจ่ายแล้ว 5,873 ล้านบาท 652,645 ครัวเรือน มท.3นั่งหัวโต๊ะถกเร่งฟื้นฟู-กำจัดขยะหาดใหญ่2.5แสนตันภายใน14วัน ย้ำ7วัน ต้องได้กลับเข้าบ้าน

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายธีรพัฒน์   คัชมาตย์  อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรังและสงขลา รวม 17 อำเภอ 92 ตำบล 499 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 79,662 ครัวเรือน 222,204คน ดังนี้


4จว.ใต้ยังท่วมกระทบ7.9หมื่นครัว

จ.สุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ เคียนซา พระแสง บ้านนาสาร พุนพิน และบ้านนาเดิม 13 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 786 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลงจ.นครศรีธรรมราช มีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ชะอวด เมืองฯ เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม และเชียรใหญ่ 22 ตำบล 72 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,586 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลงจ.ตรัง มีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ กันตัง และเมืองฯ 19 ตำบล 132 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,274 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง จ.สงขลา มีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ระโนด กระแสสินธุ์สทิงพระ และสิงหนคร38 ตำบล 251 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 69,016 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายลงแล้วในหลายพื้นที่ แต่ความช่วยเหลือยังถูกส่งต่อถึงประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการกับทีมมหาดไทยและหน่วยงานเครือข่าย ระดมสรรพกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งแจกสิ่งของจำเป็น ถุงยังชีพและถุงยังชีพพระราชทาน ประกอบอาหารกล่องและผลิตน้ำดื่มสะอาด ติดตั้งรถบรรทุกเครื่องสูบน้ำระยะไกลเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ ระบบไฮดรอลิค และรถสูบน้ำกู้ภัยเคลื่อนที่สมรรถนะสูง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง ทำความสะอาด กำจัดขยะ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และเร่งจ่ายเงินเยียวยาประชาชนตามระเบียบและกฎหมาย

จ่ายเยียวยาครั้งที่7เพิ่ม3.1หมื่นครัว2.8แสนบ.

วันเดียวกัน กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้งอัปเดตความคืบหน้าการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบดังนี้ 1.ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินเสียหาย 2.ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกิน 7 วันขึ้นไป 3.ที่อยู่อาศัยประจำที่ถูกน้ำล้อมรอบจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป และ4.ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัย แต่ส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป

สำหรับวันนี้ (7ธันวาคม) เป็นครั้งที่ 7 ของการโอนเงินเยียวยา โดย ปภ. และธนาคารออมสิน โอนเงินให้ผู้ประสบภัยที่ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วรวม 31,858 ครัวเรือน รวมเป็นเงิน 286,722,000 บาท ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ รวม 8 จังหวัด ได้แก่ สงขลา (หาดใหญ่) 16,582 ครัวเรือน พัทลุง 5,582 ครัวเรือน อ่างทอง 1,069 ครัวเรือน ปทุมธานี 3,086 ครัวเรือน อุทัยธานี 3,478 ครัวเรือน นครนายก 250 ครัวเรือนชัยนาท 1,060 ครัวเรือน และพิษณุโลก 751 ครัวเรือน โดยโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนซึ่งเงินจะโอนเข้าบัญชีผู้ประสบภัยในวันนี้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมถึงปัจจุบัน ปภ.และธนาคารออมสินได้โอนเงินเยียวยาผู้ประสบภัยใน 9 จังหวัดภาคใต้ ไปแล้วกว่า 652,645 ครัวเรือน รวมเป็นเงิน 5,873,805,000 บาท

ปัจจุบัน (7 ธ.ค. )ปภ.และธนาคารออมสินได้โอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้ว 6 ครั้ง (1-6ธันวาคม) ใน 8 จังหวัดภาคใต้ประกอบด้วย จ.สงขลา ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสุราษฎร์ธานี รวม 652,645 ครัวเรือน โดยที่จ.สงขลา 245,076 ครัวเรือน (เฉพาะ อ.หาดใหญ่ 82,905 ครัวเรือน) จ.ตรัง 287 ครัวเรือนจ.นครศรีธรรมราช 215,055 ครัวเรือน จ.นราธิวาส 7,224 ครัวเรือน จ.ปัตตานี 72,105 ครัวเรือน จ.ยะลา 2,423 ครัวเรือน จ.สตูล 25,625 ครัวเรือน และจ.สุราษฎร์ธานี 1,945 รวม 5,873,805,000 บาท โอนเงินไม่สำเร็จ 9,538 ครัวเรือน เนื่องจากบัญชีไม่ปกติและอยู่ระหว่างรอปรับปรุงข้อมูลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด

มท.3ย้ำเยียวยาเหยื่อท่วมใต้-7วันคนต้องกลับบ้าน

ที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.สงขลา พล.ต. กรกฏ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภาคภาค 4 ส่วนหน้า ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูอ.หาดใหญ่ หลังเกิดอุทกภัย มีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมผ่านระบบวิดิทัศน์ทางไกล

นายศักดิ์ดากล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำเรื่องการเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะต้องเป็นไปตามเป้าหมายที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำหนดไว้คือ การเก็บขยะและการฟื้นฟูต้องแล้วเสร็จภายใน 14 วัน และประชาชนต้องกลับเข้าบ้านได้ภายใน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าประเด็นตามข้อสั่งการของผู้บัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ด้านการซ่อมแซมสาธารณูปโภค การดูแลสาธารณสุขและป้องกันโรคระบาด การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ที่อยู่อาศัย  และเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนเพื่อช่วยเหลือ เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต การเบิกจ่ายเยียวยา การเปิดเส้นทางคมนาคมให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว การใช้งบประมาณให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักกลางเดือนธันวาคม

เร่งฟื้นฟู-กำจัดขยะหาดใหญ่2.5แสนตัน

นายศักดิ์ดากล่าวว่า การจัดการขยะ โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองประเมินว่าพื้นที่ อ.หาดใหญ่มีขยะสะสมประมาณ 250,000 ตัน จาก 70,000 ครัวเรือน เคลื่อนย้ายออกแล้วกว่า 40,000 ตัน พร้อมเร่งกำจัดกองขยะสำคัญ เช่น จุดพักขยะบริเวณสี่แยกสะพานดำ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนด เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน ด้านการขนย้ายขยะหนัก กองกำลังสามารถเพิ่มการขนส่งจากเดิมวันละ 1,000 กว่าตัน เป็นมากกว่า 5,000 – 6,000 ตันต่อวัน เสริมรถบรรทุกปฏิบัติงานตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเที่ยงคืน และรถสิบแปดล้อเสริมกำลังช่วงกลางคืน ทำให้กองขยะบริเวณสี่แยกสะพานดำเหลือปริมาณที่สามารถจัดการได้ภายในระยะเวลาอันใกล้ พร้อมขยายการจัดการขยะในซอย และพื้นที่แคบโดยใช้เครื่องจักรเฉพาะเพื่อให้การฟื้นฟูพื้นที่อำเภอหาดใหญ่กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ด้านสาธารณสุข มีการรายงานว่าผู้ป่วยโรคที่เฝ้าระวัง 4 โรค ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ฉี่หนู และไข้เลือดออก มีจำนวนลดลง และยังไม่พบผู้เสียชีวิต มีการลงพื้นที่เชิงรุกใน 89 ชุมชน จาก 103 ชุมชน เพื่อสอบสวนโรค และแจกยาป้องกันโรคฉี่หนูให้กลุ่มเสี่ยงกว่า 7,000 ราย ด้านสุขภาพจิตได้ติดตามดูแลประชาชนกว่า 33,000 ราย พบผู้มีภาวะเครียดสูง โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่โรงพยาบาลทั้งระดับจังหวัด ชุมชน และรพ.สต. สามารถเปิดให้บริการครบ 100 เปอร์เซ็นต์

ผบ.ทบ.ห่วง5ทหารถูกไฟดูดที่ปัตตานี

จากกรณีวันที่ 4 ธันวาคม เวลา 16.00 น. ขณะที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบที่ 2 เข้าฟื้นฟูพื้นที่หลังอุทกภัย ในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะดาวา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ประสบอุบัติเหตุถูกกระแสไฟฟ้าช็อต เนื่องจากระหว่างการเคลื่อนย้ายธง เกิดล้มทับเสาไฟฟ้าแรงสูง ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บรวม 5 นายดังนี้ 1. ร.ต. เอนก เสียงสมใจ มีอาการชาตามตัว และมีแผลไหม้ที่เท้า 2. ส.อ. สมเกียรติ ชาตรี มีอาการชาตามตัว แผลไหม้ที่มือและเท้าและแผลที่ศีรษะ 3.พลทหาร เจะอิสมาแอ สะดิ มีอาการชาตามตัว และแผลไหม้ที่เท้า 4.พลทหาร วีระชัย บากอซง มีอาการชาตามตัว แผลไหม้ที่เท้า และมีค่ากล้ามเนื้อในเลือดเพิ่มขึ้น ต้องเฝ้าระวังการเกิดภาวะไตวาย 5.พลทหาร สานนท์ แซ่โง้ว มีอาการชาตามตัว และแผลไหม้ที่เท้า ปัจจุบันกำลังพลทุกนายปลอดภัย รักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 4 และหน่วยขึ้นตรงในจ.ปัตตานี เข้าเยี่ยมติดตามอาการ รวมทั้งดูแลสิทธิและสวัสดิการของกำลังพลให้ครอบคลุม ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ญาติและครอบครัวในการเข้าเยี่ยม เพื่อดูแลขวัญและกำลังใจ และคลายความกังวลระหว่างการรักษา โดยยืนยันว่ากองทัพบกจะดูแลกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยกำชับกำลังพลเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะภารกิจช่วยเหลือประชาชนหลังสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้าที่เสียหายหรือลัดวงจรในพื้นที่ ขอให้กำลังพลปฏิบัติภารกิจด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม และยึดถือมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งฟื้นฟูให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

จุลพันธ์นำทีมพท.ลุยหาดใหญ่

ที่ชุมชนโคกสมาน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคเพื่อไทย นำทีมโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และ สส.เชียงใหม่ พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค, สส.และสมาชิกพรรค อาทิ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ นายทะเบียนพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ, นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กรรมการบริหารพรรค และ สส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.เพชรบูรณ์ เขต 3 และตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการPheuThaiYoungProfessionalsProgram (YPP) จับมือผนึก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

ช่วงหนึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและคณะ เดินเยี่ยมประชาชนในชุมชนโคกสมาน พบว่าบ้านเรือนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ชาวบ้านต่างเล่าเหตุการณ์นาทีชีวิตในการเผชิญเหตุอุทกภัย ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ให้กำลังใจ พร้อมยืนยันจะทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

โดยจุลพันธ์ กล่าวว่าภารกิจของวันนี้เป็นการทำงานร่วมกันกับพรรคประชาชาติ โดยที่ผ่านมาทั้งสองพรรคได้เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงแรกๆที่เกิดเหตุ จะเห็นจากการระดมสิ่งของเครื่องใช้หรืออาหารในการยังชีพมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เข้าสู่ช่วงเร่งฟื้นฟูเพื่อให้ชาวบ้านได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ที่ผ่านมาทั้งสองพรรคได้ร่วมกันส่งอาสาสมัครเข้ามาในพื้นที่แล้วจำนวนหลายร้อยคน โดยมีอาสาสมัครบางส่วนมาจากสามจังหวัดชายแดนใต้

ซัดรบ.ล้มหลวในการสื่อสารรับมือ

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อการบริหารจัดการของรัฐบาลว่าช่วงวิกฤตที่ผ่านถือว่าการสื่อสารในการรับมือของรัฐบาลเป็นไปด้วยความล้มเหลว ไม่ควรให้เกิดสภาวะที่ประชาชนเกิดความสงสัย ควรมีความชัดเจนในการพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต เพื่อให้ญาติพี่น้องได้นำไปทำพิธีตามหลักศาสนาขณะเดียวกันสภาพบ้านเรือนในพื้นที่เสียหายอย่างหนัก นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งสั่งการเยียวยาให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งหาดใหญ่ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ เนื่องจากได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและต่างประเทศ รัฐบาลควรเร่งออกแพ็กเก็จในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวอย่างเร็วที่สุด

«เราเห็นกองขยะสูงเท่าตึกสามชั้น ตรงจุดนี้กำลังของประชาชนและอาสาสมัครคงไม่เพียงพอ จำเป็นต้องมีหน่วยงานรัฐระดมกำลังเข้ามาบูรณาการช่วยเหลืออย่างจริงจัง หากปล่อยแบบนี้คาดว่าอีก 2 เดือนกลับมา ก็ยังจะเห็นภูเขาขยะเท่าตึกสองสามชั้นเหมือนเดิม» หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

ปชช.แฉเจอปัญหาบริหารจัดกาภาครัฐ

ด้าน นายทวี กล่าวเสริมว่าทั้งสองพรรคได้ร่วมกันทำงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้เรายึดถือภารกิจว่าจะทำให้แต่ละซอยกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว จากการรับฟังเสียงชาวบ้านพบว่าเจอปัญหาการบริหารจัดการของภาครัฐ ทำให้เกิดผลกระทบทั้งการสัญจรและสุขอนามัย ในส่วนการระดมอาสาสมัคร จะมีเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ เข้ามาฟื้นฟูในพื้นที่อีกร่วม 500 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสะท้อนให้เห็นความมีน้ำใจและความสามัคคีกัน ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ประชาชนหาดใหญ่ก็จะระดมกำลังกันไปช่วยเหลือมาโดยตลอดหลังเสร็จสิ้นภารกิจในจุดที่ 1 พรรคเพื่อไทยจะเดินทางลงพื้นที่ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจประธานและคณะกรรมการอิสลาม จากนั้นจะเดินทางไปพบปะและให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ที่โรงแรมสิงห์โกลเด้นเพลส

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top