นายกฯสั่งผู้ว่าฯ7จังหวัดชายแดน ดูแลผู้อพยพเต็มที่ ห้ามขาดแคลนอาหาร

นายกฯสั่งผู้ว่าฯ7จังหวัดชายแดน ดูแลผู้อพยพเต็มที่ ห้ามขาดแคลนอาหาร

วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายกฯสั่งผู้ว่าฯ7จังหวัดชายแดน

ดูแลผู้อพยพเต็มที่

ห้ามขาดแคลนอาหาร

ศธ.สั่งปิด641โรงเรียน

สระแก้วปิด4รพ.ด่วน

นายกฯสั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-เขมร ดูแลประชาชนเต็มที่ และดูแลในเรื่องของแผนการอพยพ “ปลัดมท.”เผย “กรมบัญชีกลาง”ไฟเขียวขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าฯบุรีรัมย์-สุรินทร์-ศรีสะเกษ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยจากกองกำลังจากนอกประเทศเพิ่มเติม จังหวัดละ 100 ล้านบาท ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนต่างเร่งอพยพเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัย พูดเป็นเสียงเดียวกัน อยากให้รอบนี้จบสักที “รมว.ศธ.”สั่งปิดโรงเรียน 641 แห่งใน 5 จังหวัดชายแดนไทย ย้ำความปลอดภัยเด็ก–ครูต้องมาก่อน สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ประกาศปิดให้บริการ 4 รพ. เปิดเฉพาะแผนกอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ขณะที่ รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ งดให้บริการทุกกรณี

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงเช้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกฯ ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ได้ประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงติดตามการอพยพและการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ฝ่ายประเทศกัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่บริเวณภูผาเหล็ก - พลาญหินแปดก้อน ทำให้ฝ่ายประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินการโต้ตอบ โดยเกิดการยิงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2568 เวลา 14.16 น. โดยนายกฯได้กำชับให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และดูแลในเรื่องของแผนการอพยพ


ห้ามขาดแคลนอาหาร-ยา-สิ่งของจำเป็น

นายกรัฐมนตรีสั่งการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน อพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย กำชับดูแลประชาชนในศูนย์อพยพให้ดีที่สุด กำชับเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการดูแลพี่น้องประชาชนห้ามขาดแคลนอาหาร ยา และสิ่งของจำเป็น

พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยช่วยกันดูแลพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ร่วมกันกับ ชรบ. อส. เพื่อให้แนวหน้าได้ทำงานโดยไม่ต้องห่วงข้างหลัง ทั้งนี้ นายกยังสั่งการให้เตรียมความพร้อมเรื่อง โรงพยาบาลดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ เตรียมเลือดให้พร้อม และให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูพี่น้อง ปชช. ในศูนย์อพยพ

สั่งดูแลพี่น้องประชาชนเต็มที่

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าการจังหวัดชายแดนทั้ง 7 พื้นที่ ใช้เงินทดรองราชการ และงบประมาณกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน ขณะเดียวกันได้กำชับในส่วนของโรงพยาบาลแต่ละแห่งไม่ให้เลือดขาดแคลน เพื่อรองรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะ รวมถึงยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ขณะนี้ได้ขยายวงเงินให้ผู้ว่าฯ ในแต่ละจังหวัดชายแดนเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท หลังจากนี้ หากงบหมดยังสามารถขยายได้อีก และยังมีการสั่งการให้หนุนหน่วยแพทย์ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในการดูแลประชาชน และ ดูแล อส.-ชรบ. ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้อง ทรัพย์สินให้พี่น้องประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งขณะนี้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดได้รายงานว่าประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แล้ว 80 ถึง 90% โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ขยายวงเงินช่วยเหลือ จว.ละร้อยล.

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ได้รับการอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยจากกองกำลังจากนอกประเทศ เพิ่มเติม จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกมิติ

นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากกรมบัญชีกลาง ได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ เพิ่มเติม จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้จังหวัดสามารถช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ และยังไม่ได้ประกาศยุติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2568 ต่อไป

กกล.บูรพาแจ้งอพยพชาวสระแก้ว

เมื่อเวลา 07.30 น. เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่1 แจ้งว่า กกล.บูรพา แจ้ง “อพยพประชาชนชายแดน จ.สระแก้ว” กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงาน กกล. บูรพา แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อพยพ ออกจากพื้นที่ ณ เวลา 0700 น.

ล่าสุด 10.15 น. กองกำลัง(กกล.)บูรพา ได้รายงานสถานการณ์อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว อ.ตาพระยา อพยพแล้ว 60% อ.โคกสูง อพยพแล้ว 70% อ.อรัญประเทศ อพยพแล้ว 50% อ.คลองหาด อพยพแล้ว 60%

ภาพรวมประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอจังหวัดสระแก้วอพยพออกจากพื้นที่สู้รบแล้วประมาณ 56% สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ปัจจุบันกำลังดำเนินการอพยพตามแผน คาดว่าหากมีการรบปะทะ จะมีการอพยพอีกระลอกประมาณ 20 - 30% ในพื้นที่ที่ยังมีประชาชนตกค้าง

ส่วนในพื้นที่ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ไม่มีประชาชนอพยพ ยังคงติดตามสถานการณ์ และเตรียมการอพยพอยู่

ชาวบ้านอยากให้รอบนี้จบสักที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้มีกลุ่มชาวบ้านในหลายอำเภอ ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชาต่างนำข้าวของที่เตรียมมาจากบ้าน อพยพไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวอย่างชุลมุน โดยมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐรวมไปถึงจิตอาสา ต่างเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ โดยช่วยกันนำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้อพยพ ถือว่าเป็นภาพที่อบอุ่นมากเพราะในยามประเทศไทยมีภัย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “สมาคมอัสดินทร์” โดยนาย ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว “นายกสมาคมอัสดินทร์” ได้ผลน้ำดื่มจำนวน 100 แพ็คเข้ามาบริจาคช่วยเหลือ และยังมีร้านอาหารเจ้าดังในสุรินทร์ นำข้าวกล่องเข้ามาบริการให้กับผู้อพยพ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อพยพมาในวันนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้รอบนี้จบสักทีไม่อยากให้เสียเที่ยวเพราะการอพยพแต่ละครั้ง เสียเวลามากไหนจะต้องใช้ทั้งเงินในการนำมาใช้จ่ายที่ศูนย์อพยพกว่าสถาการณ์จะยุติ

ถนนเข้าเมืองบุรีรัมย์รถติดยาวเหยียด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่แนวชายแดน รวมถึงอำเภอใกล้เคียง ต่างพากันขนสัมภาระขึ้นรถ และเร่งเดินทางเข้าสู่เขตปลอดภัย ทำให้เส้นทางจากแนวชายแดน มุ่งหน้าเข้าสู่ตัว จ.บุรีรัมย์ ถนนหลายสายมีปริมาณรถหนาแน่นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเขต อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกลายเป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่พื้นที่ชั้นใน พบว่าการจราจรติดสะสมยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถเคลื่อนตัวได้ช้าเป็นช่วงๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ต้องเร่งลงพื้นที่อำนวยความสะดวก พร้อมเปิดช่องทางพิเศษ และจัดเจ้าหน้าที่โบกรถเพื่อเร่งระบายการจราจรอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อนบนท้องถนน ในขณะเดียวกันยังคงได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะ

สนามช้างฯพร้อมเปิดรับผู้อพยพ

มีรายงานว่า หลังจาก กองทัพภาคที่ 2 ได้แจ้งว่า เวลา 08.30 น. กัมพูชาทำการยิงด้วย BM-21 ลงพื้นที่บ้านเรือนประชาชนฝั่งไทย บ้านสายโท 10 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ล่าสุด เมื่อเวลา 09.34 น. แฟนเพจ ลุงเนวิน ของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความหลังเปิดศูนย์อพยพสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จัดเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราว โดยระบุข้อความว่า สนามช้างยังมีที่ว่างสำหรับทุกคน มาอยู่ด้วยกัน #ฅนบุรีรัมย์ #เรามีเรา ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก วานนี้ (7 ธ.ค.2568) ทางเพจ ลุงเนวิน ได้ระบุข้อความว่า ถึงแล้ว บ้านของเรา บ้านหลังนี้ มีความรัก ความห่วงใย และกำลังใจ ให้กับฅนบุรีรัมย์ ทุกคน พี่น้องเรา กำลังทยอยลงทะเบียนเข้าพักศูนย์อพยพสนามช้างฯ จัดที่นอนเสร็จสรรพ เก็บข้าวของเข้าที่ แล้วกินอาหารมื้อค่ำก่อนเข้านอน วันนี้ พี่น้องเราจะมาอยู่ด้วยกัน ประมาณ 5,000 คน

ศธ.สั่งปิด641รร.ใน5จว.ชายแดน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ให้ประสานไปยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในสังกัดทั้ง 5 จังหวัด เพื่อให้ทำการปิดการเรียนการสอนชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยขณะนี้ สถานศึกษาที่จำเป็นต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราวรวมทั้งสิ้น 641 แห่ง เพื่อความปลอดภัยของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา

“กระทรวง ศธ.ได้ติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมแผนรองรับหากต้องยืดระยะเวลาปิดเรียน หรือปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ในบางพื้นที่ แต่ต้องเน้นย้ำว่า ความปลอดภัยของผู้เรียนและบุคลากรสถานศึกษาคือ สิ่งสำคัญที่สุด โดยขอให้ทุกสถานศึกษาดำเนินมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ยึดความปลอดภัยของเด็ก ครู และประชาชนเป็นหลัก หากสถานการณ์คลี่คลายแล้วจะเร่งคืนสู่ระบบการเรียนการสอนโดยเร็ว” นางนฤมล กล่าว

สั่งปิดด่วน4รพ.ชายแดนสระแก้ว

แฟนเพจ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว โพสต์ข้อความว่า ประกาศปิดให้บริการ 4 โรงพยาบาลชายแดน จ.สระแก้ว (เป็นการชั่วคราว) รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต เนื่องด้วยสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ขอแจ้ง ปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) และแผนกผู้ป่วยใน (IPD) ณ รพ.ชายแดน 4 แห่ง ดังนี้ รพ.ตาพระยา รพ.โคกสูง รพ.อรัญประเทศ รพ.คลองหาด ตั้งแต่วันนี้ (8 ธ.ค. 2568) เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ยังคงเปิดให้บริการเฉพาะแผนกอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน สำหรับผู้ป่วยหนัก (วิกฤต) เท่านั้น ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ รพ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ ได้โพสต์ประกาศผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ประกาศงดให้บริการทุกกรณี เนื่องด้วยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไปรับบริการโรงพยาบาลใกล้เคียง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขออภัยในความไม่สะดวก”

ปิดตายถนน“บ้าน3หลัง”ยึดคืนอธิปไตย

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ระบุ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ในตอนนี้ทางทหารได้แจ้งไปยังนายพิริยะ ฉันทดิลก ผวจ.ตราด ให้เตรียมความพร้อมในเรื่องการอพยพไว้แล้ว หากพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพเรือเปิดปฏิบัติทางทหารเมื่อไรจะแจ้งฝ่ายปกครองให้อพยพประชาชนทันที

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพื้นที่บ้าน 3 หลัง พบว่าถนนเข้าสู่บ้าน 3 หลังทหารได้นำลวดหนามหีบเพลงมาติดตั้งไว้หน้าทางเข้า เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาดเนื่องจากพื้นที่ด้านในเป็นพื้นที่ปฏิบัติการทางทหารเตรียมยึดคืนบ้าน 3หลัง ที่ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทยมานานกว่า 40 ปี อีกทั้งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม กองทัพเรือได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่บ้านชำรากแล้วตั้งแต่เมื่อวาน หลังทหารไทยถูกทหารกัมพูชายิงบาดเจ็บในพื้นที่กองทัพภาค 2 หลังจากปฎิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

ธ.ก.ส.ปิด12สาขาพื้นที่4จว.ชายแดน

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ประกาศปิดให้บริการสาขาชั่วคราว ในวันที่ 8 ธ.ค. 2568 ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รวม 12 สาขา จังหวัดบุรีรัมย์ (1 สาขา) 1.สาขาบ้านกรวด จังหวัดสุรินทร์ (4 สาขา) 1.สาขาบัวเชด 2.สาขากาบเชิง 3.สาขาพนมดงรัก 4.สาขาหนองยาว จังหวัดอุบลราชธานี (3 สาขา) 1.สาขาน้ำยืน 2.สาขาน้ำขุ่น 3.สาขานาจะหลวย จังหวัดศรีสะเกษ (4 สาขา) 1.สาขากันทรลักษ์ 2.สาขาถนนพระวิหาร 3.สาขาขุนหาญ 4.สาขาภูสิงห์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top