วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ถอดบทเรียน‘น้ำท่วมใต้’
‘บวรศักดิ์’ทุบโต๊ะ
ต้องนำไปปฏิบัติจริง
ใครละเลยโทษไล่ออก
ผู้ว่าฯสงขลาการันตี
ขยะ2แสนตันจบ14ธ.ค.
“บวรศักดิ์”ลั่น! ถอดบทเรียน“น้ำท่วมใต้”ต้องนำไปทำจริง ใครนิ่ง ต้องรับผิดชอบ-ไล่ออกโดยไม่ต้องสอบ พร้อมถก ผู้ว่าฯสตง.ผ่อนคลายกติกาเยียวยาน้ำท่วม ด้านผู้ว่าฯสงขลา ย้ำขยะกว่า 2 แสนตัน จบแน่ 14 ธันวาคม
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถอดบทเรียนน้ำท่วม ว่า ที่ผ่านมาได้มีการถอดบทเรียนทั้งนั้น ถอดกันทุกปี แต่ถอดแล้วก็ตั้งเอาไว้ตรงนั้น ต่างประเทศก็มีการถอด แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำในวันนี้คือ ถอดบทเรียนแล้วต้องนำมาปฏิบัติ จัดทำคู่มือของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และประชาชนว่าเมื่อถึงช่วงน้ำท่วม เดือน ส.ค. ก.ย. หรือช่วงน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ ประมาณเดือน พ.ย.จะต้องหาทางป้องกัน และทำการฝึกซ้อม โดยผลจากการถอดบทเรียนจะบันทึกไว้ในรูปแบบของเอกสาร อินโฟกราฟฟิก และวีดีทัศน์ โดยจะส่งให้กับหน่วยงานให้มากที่สุด รวมถึงประชาชนด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าประชาชนจุดไหนจะอพยพไปยังจุดไหนได้อย่างปลอดภัย ถ้าถอดบทเรียนแล้วสุดท้ายยังไม่ทำก็ต้องพูดให้ชัดว่า เกิดความเสียหายร้ายแรงขึ้น ข้าราชการผู้นั้นจะผิดวินัยร้ายแรง ไม่ต้องสอบกันมากมาย เพราะเห็นผลอยู่แล้ว ดังนั้น ก็รับผลไปแล้วกัน ต้องถูกไล่ออกตามขั้นตอน แต่เราก็ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น
ดังนั้น ถอดบทเรียนคราวนี้จะไม่ถอดแล้วตั้งอยู่บนโต๊ะ ถอดแล้วต้องลงมือทำ แต่อาจจะได้เฉพาะน้ำท่วม สึนามิก็ต้องเป็นอีกอย่าง แผ่นดินไหวก็อีกทาง ไฟไหม้ก็ไปอีกทาง ภัยเกิดจากสงคราม ตามแนวชายแดนก็ไปอีกทางหนึ่ง กระทรวงมหาดไทยมีข้อมูลอยู่แล้วบ้าง
นายบวรศักดิ์ ยังได้ร่วมกับผู้ว่าฯ สตง.รวมถึงเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 15 ทุกจังหวัด กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ผ่านระบบซูม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผื่อช่วยในเรื่องการเยียวยาผู้ประสบภัยให้เร็วกว่าเดิม
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจะโอนเงินให้เร็วที่สุด โดยเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาทนั้นจำเป็นต้องมีการรับรองจากแพทย์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่ท้องถิ่นก็ออกใบมรณะบัตร และเตรียมเลขพร้อมเพย์ให้พร้อม
ด้าน นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า ในการตรวจสอบการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้นั้น ยืนยันว่า สตง.ไม่ได้ยึดเอกสารหลักฐานที่เป็นกระดาษ เช่น ปัจจุบันเรามีมติ ครม. 2 ต.ค.61 ว่าเอกสารที่ทางราชการออกให้กับประชาชน และมีอยู่ในฐานระบบอยู่แล้ว หน่วยราชการจึงไม่จำเป็นต้องขอสำเนาเอกสารรับรองจากประชาชนอีก
และหลังจากนั้น ปภ.ก็ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนอีกครั้งในปี 63 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งและท้องถิ่นทุกแห่ง ว่าเอกสารที่ทางราชการออกให้กับประชาชน ราชการไม่จำเป็นต้องใช้สำเนาหรือขอสำเนาจากประชาชน เพราะเอกสารทั้งหมดอยู่ในระบบของทางราชการอยู่แล้ว ทาง สตง.ก็เห็นชอบว่าจะมีการตรวจทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ส่วนถ้าไม่มีบ้านเลขที่ต่างๆ นั้น สามารถใช้เป็นเอกสารอื่นๆ ที่สามารถแสดงตัวตนได้ เช่น ใบชำระค่าน้ำ ค่าไฟ การชำระภาษี เป็นต้น โดยเน้นย้ำให้ สตง.ทุกจังหวัดถือแนวปฏิบัติเดียวกัน แค่มีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เราก็ตรวจได้ และย้ำกับทุกคนว่ากฎหมาย สตง.ฉบับใหม่ มาตรา 95 ระบุว่า กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐบกพร่องไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแต่ไม่มีการทุจริต สตง.ก็ให้คำแนะนำเท่านั้น ไม่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย ไม่ดำเนินการทางละเมิดหากจ่ายจริง ดังนั้น ไม่ต้องกลัว ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันนี้กฎระเบียบอาจจะไม่ทันกับสถานการณ์ แต่หากไม่ทุจริตก็ไม่ต้องกังวลใจ สตง.จะแค่ตักเตือนว่าต่อไปควรทำอย่างไร ขณะเดียวกัน นายบวรศักดิ์จะไปดำเนินการต่อในเรื่องของกฎหมาย โดยเสนอ ครม.เพื่อแก้ไขในส่วนนั้น
นายมณเฑียร กล่าวว่า ส่วนกรณีมีรายงานข่าวที่ จ.สงขลา มีการจัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาต้นทุนจริงที่อยู่ราว 30 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้ตนรับไปตรวจสอบในวันนี้ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงโควิด บางพื้นที่เมื่อเกิดภัยฉุกเฉินการซื้อของต่างๆ ราคาอาจจะไปเทียบกับตลาดออนไลน์คงไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะของบางสิ่งบางอย่างขณะนั้นมีความขาดแคลน แต่ถ้ามีการจัดซื้อแพงจนผิดปกติ จริงๆ ก็ต้องตรวจสอบว่ามีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งตนจะสั่งการให้ไปตรวจสอบภายในวันนี้
ขณะเดียวกัน ปภ.ได้รายงานสถานการน้ำท่วม ในขณะนีว่ามีประปราย 4 จังหวัดคือสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสงขลา รวม 16 อำเภอ 86 ตำบล 484 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 75,936 ครัวเรือน 214,532 คน
นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่เดินเท้าสำรวจถนนสายหลักนิพัทธ์ 1, 2, 3 และบริเวณตลาดกิมหยง เพื่อติดตามสถานการณ์หลังน้ำลดและสำรวจความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิด การสำรวจครั้งนี้มุ่งเน้นที่การฟื้นฟูพื้นที่และปัญหาเร่งด่วนที่สุดคือการจัดการซากขยะและสิ่งปฏิกูลที่หลงเหลือจากน้ำท่วม
ผู้ว่าฯสงขลา เปิดเผยปริมาณขยะ กว่า 2 แสนตันจะพยายามกวาดเก็บให้แล้วเสร็จในวันที่ 14 ธันวาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี