วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘กัณวีร์’ลาออกจากสมาชิก‘พรรคเป็นธรรม’ เตรียมนั่ง‘หัวหน้าพรรคพลวัต’ พร้อมนั่งแคนดิเดตนายกฯ ลั่นพร้อมเป็นรัฐบาลเท่านั้น ไม่ว่าใครเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล หลังพิสูจน์แล้วนั่งฝ่ายค้านไม่เวิร์ค แง้มสนใจนั่ง‘รมว.ต่างประเทศ’
12 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกพรรคเป็นธรรม เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม ต่อกกต. หลังจากนั้นให้สัมภาษณ์ ว่า ตนมาลาออกในวันนี้เพราะเลือกที่จะไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ และจะไปยื่นเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ชื่อว่าพรรคพลวัต ซึ่งหลายคนอาจแปลกใจว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ เพราะคำว่าพลวัตเป็นคำที่แปลกใหม่จริงๆ เป็นการทำให้สังคมของเราเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เพราะจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า สังคมและการเมืองไทยหยุดนิ่ง มีการแบ่งฝักฝ่ายมีการแบ่งฝักฝ่าย ใช้การเมืองแบบเก่าๆ ไม่สามารถทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่านำผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง เป็นตัวตั้งและเดินหน้าได้ และเกิดการยุบสภาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ซึ่งการรวมตัวของกลุ่มตนในฐานะพรรคพลวัต เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เป็นนักปฏิบัติ โดยตนจะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเองและมีเพื่อนเพื่อนมาร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ได้มีการจดทะเบียนพรรคการเมืองเรียบร้อยแล้วที่จังหวัดสุพรรณบุรีพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงแนวทางการทำงานของพรรคพลวัตเป็นอย่างไร นายกัณวีร์ กล่าวว่า เราอยู่ในสภามา 2 ปีกว่าเห็นว่านโยบายและอุดมการณ์ต่างๆไม่สามารถปฏิบัติได้จริงจริง ในอุดมการณ์ที่ตนมีอย่างเรื่องประชาธิปไตย การกระจายอำนาจ หรือนโยบายทางด้านการเมืองต่างๆ ซึ่งมีลักษณะเหมือนนโยบายของพรรคการเมืองอื่น แต่สิ่งที่พรรคพลวัตจะทำคือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้จริงๆ เรามีนักปฏิบัติงานจริง เคยทำงานมาแล้ว ซึ่งเราเอานักปฏิบัติเหล่านี้มาสร้างนโยบายเศรษฐกิจก็ไม่เคยทิ้ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจที่ทำให้พี่น้องประชาชนเดินหน้าไปได้ อย่างเอสเอ็มอี แต่เราต้องยอมรับว่าขณะนี้เราไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่เฉพาะในประเทศไทย หรือหมกมุ่นเฉพาะการเมืองในประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่สำคัญแต่เราจำเป็นต้องมองภายนอกประเทศด้วย ตอนนี้โลกในศตวรรษที่ 21 ไปถึงไหนแล้ว แต่เรายังหยุดนิ่งอยู่กับที่ และถอยลง
ทั้งนี้ ตนจึงเห็นว่าพอแล้วสำหรับการเมืองเก่าๆ การเมืองที่ทำให้เราไม่สามารถไปไหนได้ การเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผิดคำสัตย์ คำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้ และทำให้เราไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในระบบการเมืองของประเทศไทย ดังนั้น พรรคพลวัตจึงเป็นพรรคที่สามารถตอบโจทย์ ไม่ใช่พรรคทางเลือก แต่เราจะเป็นพรรคทางรอดของประเทศ นำพาประเทศไทยไปสู่จุดมุ่งหมาย ที่คนไทยทั่วประเทศได้ให้ความสำคัญเอาไว้
เมื่อถามว่าพรรคพลวัตเป็นพรรคตั้งใหม่มันใจแค่ไหนในการสู้กับพรรคใหญ่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า มั่นใจจากการที่ตนทำงานมา เป็นส.ส.หนึ่งเดียว และพรรคเล็กพรรคเดียวที่สามารถจะแสดงวิสัยทัศน์ อุดม การณ์และแนวทางการทำงานอย่างแท้จริง ซึ่งจริงๆ การเสนอของตนไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้ เพราะตนเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้นตนมั่นใจว่า ถ้าตนสามารถนำอุดมการณ์ ความคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ประเทศไทยประสบมา สู่การนำไปแก้ไขจริงก็สามารถทำได้ ดังนั้น พรรคพลวัตของเราชัดเจนว่าจะเดินหน้าไปสู่การเป็นฝ่ายบริหาร ธงของเราคือการต้องร่วมกับฝ่ายบริหาร เพราะพี่น้องประชาชนรออยู่ การเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียวไม่เพียงพอจริงๆ หรือฝ่ายบริหารที่ไม่มีวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง ปัจจุบันเราก็เห็นได้จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ซึ่งตนสงบปากสงบคำ ไม่พูดถึงการเอาส.ส.ร.มาเป็นผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะตนเห็นว่าสุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่เราคาดการณ์ไว้ สุดท้ายก็เป็นพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดไม่ใช่พรรคการเมืองที่มีแต่จะกอบ โกยผลแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
นายกัณวีร์ ระบุว่า ฉะนั้น นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ตนตัดสินใจลาออกจากพรรคเป็นธรรม แล้วมาตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยไม่ร่วมกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น เพราะ2 ปีเศษที่ผ่านมาไม่เห็นว่าพรรคการ เมืองใดตอบโจทย์ของตนได้ อุดมการณ์ที่ตนมีหรือผู้ปฏิบัติงานในเวทีระหว่างประเทศ ก็ไม่เห็นว่าพรรคการเมืองไหนจะสามารถทำตรงนี้ได้ จึงมาตั้งพรรคการเมืองเล็กๆ พรรคหนึ่งและมั่นใจว่าจะสู้ได้ และมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนจะมองเห็น โดยจะมีอดีตสส. ชุดที่ 26 มาร่วมด้วย ซึ่งเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทำงานและเป็นนักปฏิบัติจริงๆ เราจะไม่เอาสส. ที่แตกต่าง หรือไม่เคยปฏิบัติงานมาร่วมกับพรรค
“หลายคนสงสัยว่าทำไมผมไม่ไปร่วมกับพรรคส้มหรือพรรคประชาชน ซึ่งผมมองว่า ผมไม่อยากเป็นพรรคอุดมการณ์อย่างเดียว แต่อยากเป็นพรรคที่นำไปปฏิบัติจริงๆ และผมจะไม่มีการเมืองแบบเก่า ผมจะไม่เล่นเล่ห์กลทางการเมืองแบบสมัยก่อน และผมจะนั่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย จึงมั่นใจในเรื่องการส่งส.ส. ซึ่งเรากำหนดไว้อย่างน้อย 300 เขต” นายกัณวีร์ กล่าว
เมื่อถามว่าจากประสบการณ์เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังการเลือกตั้งไม่ว่าใครชนะการเลือกตั้งยังสามารถร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆได้หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า สามารถ การทำงานการทำงานร่วมกับการเมือง เราจำเป็นต้องเข้าไป ตนมองว่า รัฐบาลปัจจุบันพอไม่มีคนที่ปฏิบัติจริงเข้าไปเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ก็ใช้เรื่องเกี่ยวกับการเมืองต่างๆ แต่พรรคการเมืองของตนถ้าสามารถเข้าไปเป็นหนึ่งในรัฐบาลได้ ก็สามารถเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่สามารถจับต้องได้ ที่สามารถทำให้ประเทศเราก้าวพ้นข้ามผ่าน ดังนั้นย้ำว่าความคาดหวังของเราคือการร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้จุดที่จะใช้ในการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลก็คงต้องดูผลของการเลือกตั้งด้วย อุดมการณ์หลายๆ คนก็คงมองเห็น ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของเราค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย มีการพูดคุยกัน ในรายละเอียดการเข้าร่วมก่อน ถ้าหากมีบางข้อที่ไม่สามารถปรับให้เข้ากันได้ก็ต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง เพราะต้องย้ำว่าเป้าหมายของเราคือเนื่องจากเราเป็นนักปฏิบัติถ้าเราไม่เข้า ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ แต่การร่วมก็ต้องมีเงื่อนไข
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าถึงเราจะเป็นพรรคเล็ก แต่เราก็มั่นใจ เดี๋ยววันที่เปิดตัวพรรคและเปิดตัวผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรค จะเห็นว่าเค้าทำงานอะไรได้บ้างและประสบความสำเร็จอะไรมาบ้าง โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยตนจะเข้าไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรค ที่ทำการจังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากนั้นจะมีการเปิดตัวที่กรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง เราจำเป็นต้องเร่งเปิดตัว
นายกัณวีร์ ยังเปิดเผยว่าหากได้เป็นพักร่วมรัฐบาลก็สนใจที่จะนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบันมีอะไรที่จำเป็นจะต้องเชื่อมโยงกับต่างประเทศเยอะ และเป็นกระทรวงที่ไม่มีใครสนใจ
นายกัณวีร์ ยังได้อธิบายถึงสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองซึ่งมีรูปร่างเหมือนตัว W แต่จริงๆ แล้วคือตัว พ.พาน มีสามขีด คือคลื่นสามคลื่น ที่จะพาประเทศไทยไม่หยุดนิ่ง ส่วนสีเขียวที่ใช้เพื่อแสดงความสดความใหม่ ความหวังของประเทศไทยและของโลก โดยประเทศไทยจะสามารถกลายเป็นผู้นำในเวทีโลกได้ ทำให้ประเทศไทยเห็นว่าเรายังมีความหวัง การเมืองเก่าๆ จำเป็นจะต้องพิจารณาตัวเอง ถ้ายังอยากอยู่ในการเมืองของไทย ถ้าอยากเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนก็จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง พลวัตหรือมูฟปาร์ตี้คือสิ่งที่จะเดินหน้า ต่อไปว่าประเทศเราสามารถทำได้จำเป็นต้องใช้คนใหม่ใหม่และหลักปฏิบัติจริงๆ ที่ทำงานในหลายส่วนมาเข้าร่วมกันซึ่งจะทำให้เห็นว่านักปฏิบัติของเราคือใครสามารถทำอะไรได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่สำนักงาน กกต.ตลอดทั้งวันมีสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ทยอยเดินทางมายื่นหนังสือลาออกจากพรรคต้นสังกัดเพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เช่น นายโกศล ปัทมะ ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยจะไปสมัครเป็นสมาชิกที่พรรคภูมิใจไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี