ภูมิใจไทย ย้ำเดินครบตาม MOA ไม่บิดเงื่อนไข ยุบสภา แสดงความรับผิดชอบ ป้องสุญญากาศการเมือง

ภูมิใจไทย ย้ำเดินครบตาม MOA ไม่บิดเงื่อนไข ยุบสภา แสดงความรับผิดชอบ ป้องสุญญากาศการเมือง

วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.03 น.

‘ภูมิใจไทย’ ย้ำเดินครบตาม MOA ไม่บิดเงื่อนไข ‘ยุบสภา’ แสดงความรับผิดชอบ ป้องสุญญากาศการเมือง ยันเดินหน้าประชามติรัฐธรรมนูญพร้อมวันเลือกตั้ง

วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวชี้แจงข้อกล่าวหาเรื่องพรรคภูมิใจไทย ผิดคำข้อตกลง MOA จัดตั้งรัฐบาลว่า  เมื่อพิจารณาตามเช็กลิสต์ของ MOA จะพบว่า มีการกำหนดเงื่อนไขสำคัญไว้ชัดเจน ได้แก่ การยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังการแถลงนโยบาย การจัดทำประชามติรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในกรอบวันเลือกตั้ง รวมถึงเงื่อนไขเรื่องการไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้มีการฝ่าฝืนหรือบิดพลิ้วแต่อย่างใดในส่วนบทบาทของพรรคประชาชน เป็นที่เข้าใจกันตั้งแต่ต้นว่า พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการตามข้อตกลงครบถ้วน และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเดินหน้าร่วมกันจนกว่าจะเกิดเหตุปัจจัยที่อยู่นอก MOA ซึ่งก็คือประเด็นเรื่องอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ


นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า หากพิจารณารายละเอียดตามข้อเท็จจริง จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้บิดเบือนหรือฝ่าฝืนเงื่อนไขใดใน MOA และกระบวนการจะถือว่าสมบูรณ์เมื่อมีการจัดทำประชามติ ซึ่งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดประเด็นทางกฎหมายไว้แล้วว่า สามารถออกแบบกระบวนการให้การทำประชามติรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นพร้อมวันเลือกตั้งได้ และแม้จะยุบสภา แต่การเปิดช่องให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อ ในชั้นของการถามความเห็นประชาชน ถือเป็นทางเลือกที่สร้างโอกาส ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินต่อได้  หากตอนนั้น เลือกแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย แล้วเข้าไปเพื่อยุบสภาเลย กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะหยุดลงทันที แต่วันนี้ ยังมีความคืบหน้า 

เมื่อถามถึงกรณีการยุบสภา นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เป็นไปตามข้อเรียกร้องของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ต้องการทั้งการยุบสภาและการทำประชามติ ซึ่งรัฐบาลตอบสนองทั้งสองประเด็น โดยให้เกียรติพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายที่ร่วมก่อตั้งรัฐบาล แต่เมื่อเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกัน ย่อมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในระบอบประชาธิปไตย และไม่ใช่เรื่องของถูกหรือผิด

นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า การยุบสภาถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง หากไม่ยุบสภา จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเงื่อนไขทางการเมืองการฟอร์มรัฐบาลใหม่ หรือการเกิดสุญญากาศทางอำนาจในช่วงที่ประเทศยังเผชิญปัญหาความมั่นคงชายแดน

“การยุบสภาทำให้ประเทศยังมีรัฐบาลรักษาการ สามารถบริหารจัดการปัญหาชายแดนและความมั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การห้ามผูกพันงบประมาณไปยังรัฐบาลหน้า การห้ามใช้ทรัพย์สินของรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเลือกตั้ง และการโยกย้ายบุคลากรหรือใช้งบประมาณบางส่วนต้องขออนุญาต กกต. แต่ทั้งหมดนี้ยังดีกว่าการปล่อยให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสุญญากาศทางการเมือง” นายสิริพงศ์ กล่าว 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top