สอท.หวั่นยุบสภา ทำเศรษฐกิจสะดุด จี้แก้ไข3โจทย์ใหญ่ ช่วงรบ.รักษาการ

สอท.หวั่นยุบสภา ทำเศรษฐกิจสะดุด จี้แก้ไข3โจทย์ใหญ่ ช่วงรบ.รักษาการ

วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สอท.หวั่นยุบสภา

ทำเศรษฐกิจสะดุด

จี้แก้ไข3โจทย์ใหญ่

ช่วงรบ.รักษาการ

 

ส.อ.ท.หวั่นยุบสภา ทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสะดุด ชี้ช่วงรักษาการ เร่งแก้ 3 ปัญหาใหญ่ ยังคาราคาซัง ทั้งเยียวยาน้ำท่วมใต้-ปะทะชายแดนไทย-เขมร และเจรจาภาษีสหรัฐฯ ด้านหอการค้าฯ เรียกร้องให้เลือกตั้งใหม่ตามกรอบ ก.ม.เพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่ ฟื้นความเชื่อมั่นเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ย้ำพร้อมร่วมมือทุกฝ่าย


เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร ว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องน่าตกใจหรือแปลกใจ เนื่องจากนายกฯ เคยส่งสัญญาณและพูดถึงเงื่อนไขไว้แล้ว หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ถึงช่วงเวลาการยุบสภาไว้ถึง 3 ระยะ และช่วงเวลานี้ถือเป็นระยะที่ 1 ที่ใกล้ที่สุด ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเท่ากับว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่โครงสร้างมีความเปราะบางนี้ ได้อยู่บริหารประเทศเต็มที่ประมาณ 2 เดือนกว่า และยุบสภาเร็วกว่ากำหนดประมาณเดือนกว่า

นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า สิ่งที่ทำให้แปลกใจเล็กน้อย คือการที่พรรคประชาชน เป็นฝ่ายยื่นเรื่องซักฟอก แทนที่จะเป็นพรรคเพื่อไทย ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ การยุบสภาครั้งนี้มาจากการที่พรรคประชาชน ไม่พอใจการผิดข้อตกลง MOA ส่วนตัวกังวลว่าการยุบสภา เข้าสู่ช่วงรัฐบาลรักษาการ เป็นเวลาประมาณ 60 วัน อาจส่งผลกระทบต่อความเข้มข้นในการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ ที่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการพยุงเศรษฐกิจ หรือ GDP ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ทั้งนี้ มาตรการ “Quick Big Win” ที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ออกมา เพื่อหวังไม่ให้เศรษฐกิจไทยเหมือนรถติดหล่ม มีความจำเป็นมาก เนื่องจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 1.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ถึง 0.5% แม้ว่ามาตรการเหล่านี้ถือว่าทำได้ดีและได้ผลตอบรับที่ดีในช่วงต้น แต่จำเป็นต้องคอยติดตามว่าการเป็นรัฐบาลรักษาการ จะส่งผลอย่างไรและจะลดความเข้มข้นของมาตรการเหล่านี้หรือไม่

นายเกรียงไกรกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีปัญหาใหญ่หลายเรื่องที่ยังคาราคาซัง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ จำเป็นต้องขับเคลื่อนจากรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม แต่กลับอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ได้แก่ 1.สถานการณ์ภาคใต้ ที่อยู่ในระหว่างฟื้นฟูหลังจากประสบอุทกภัยอย่างหนัก ทั้ง 9 จังหวัด อาจล่าช้าหรือสะดุดไป 2.การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา รอบ 2 ยังทวีความรุนแรงและกินบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อการค้า การท่องเที่ยว และภาคการเกษตรจังหวัดชายแดนหลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพ และนิคมอุตสาหกรรมบางแห่งต้องหยุดดำเนินการ และ 3.การเจรจาระหว่างประเทศ ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ถือเป็นการบ้านใหญ่ ที่ยังค้างและชะลออยู่ หากมีการเจรจาในช่วงนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีข้อจำกัด หรือเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจหรือไม่

“ส.อ.ท.จึงฝากให้ปลัดกระทรวงต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยดำเนินงาน มีการบ้านที่ค้างอยู่เหล่านี้ ดังนั้นช่วงนี้จะต้องจับตาว่านโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่ประกาศและอนุมัติไปแล้ว จะมีการขับเคลื่อนได้เต็มที่หรือไม่ อย่างไร เพราะ Quick Big Win ที่ออกมาถือว่าเป็นนโยบายที่จะหนุนเศรษฐกิจในช่วงท้ายของปีที่ดี และยิ่งขณะนี้ประเทศต้องสะดุดในหลายเรื่อง จะกระทบ GDP ที่โตช้าไปอีกหรือไม่ อย่างไร” นายเกรียงไกร กล่าว

ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีการยุบสภา ว่าเข้าใจถึงความจำเป็นทางการเมือง ในการตัดสินใจของนายกฯ แต่ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในและระหว่างประเทศ ที่มีความผันผวนสูง รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดน และปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลก ล้วนส่งผลต่อเสถียรภาพและการบริหารประเทศ จึงเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของกรอบประชาธิปไตยและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ หอการค้าไทย ขอเรียกร้องให้มีการเร่งดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว เนื่องจากในปัจจุบันยังมีกฎหมายสำคัญและกรอบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่รอการพิจารณาและผ่านสภาฯ และต้องมีขับเคลื่อนอีกหลายประเด็น อาทิ การเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐอเมริกา การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้า เช่น FTA Thai-EU ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงรัฐบาลรักษาการหอการค้าไทย เห็นว่ายังคงมีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่มติ ครม.อนุมัติไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ ที่ประสบปัญหา รวมถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งควรดำเนินการต่อเนื่องไม่ให้สะดุด โดยให้ระวังเรื่องข้อจำกัดของรัฐบาลรักษาการตามระเบียบ เชื่อมั่นว่าทั้งรัฐบาลรักษาการ ข้าราชการ และภาคเอกชน จะร่วมกันทำงานต่อเนื่องเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศจนกว่าจะมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่แม้จะมีข้อจำกัด

นายพจน์กล่าวอีกว่า หอการค้าไทย ไม่ต้องการให้การยุบสภาครั้งนี้ ส่งผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก และขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง และมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top