โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง

โรม มอง อนุทิน ทำไทยเสียเปรียบปมชายแดน โต้คนวิจารณ์ ปชน. สนใจแต่แก้ รธน.-เลือกตั้ง

วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.03 น.

"โรม" บอก "อนุทิน"  ทำไทยเสียเปรียบเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา  ขอให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนตรงๆ  กระทรวงต่างประเทศเร่งสื่อสารเชิงรุก   

วันที่ 13 ธันวาคม 2568 นายรังสิมันต์ โรม อดีต สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา  ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯโพสต์ผ่านโซเชียล ช่วงหนึ่งว่าการเหยียบทุ่นระเบิดของทหารไทย เป็นอุบัติเหตุ   ว่า ตนขอใช้โอกาสนี้แสดงความเสียใจ ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น  และความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอพยพ   ในฐานะที่เป็นอดีตนักการเมือง และประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ มองสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง    และเห็นว่าการปะทะกันนั้นมีการยกระดับ ทั้งการใช้โดรน  หากพูดกันตรงไปตรงมา   ฝ่ายความมั่นคงได้ประเมินกันอยู่แล้วว่าจะมีการยกระดับในทิศทางแบบใด   ซึ่งต้องยอมรับว่า ป้องกันได้ยากมากขึ้น    แต่ถ้าหากมีการเตรียมตัวดีๆ เราก็สามารถเตรียมพร้อมและรับมือได้   ซึ่งฝ่ายทหารก็รับรู้และรับทราบเรื่องนี้    แต่ตนไม่รู้ว่าการสนับสนุนเครื่องมือในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้มีการปะทะกันอย่างเข้มข้น มีการเตรียมพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือมากน้อยเพียงใด    


รวมทั้งมองว่าต้องกำหนดให้ชัด ว่าเหตุปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา เราเน้นในการปกป้องประชาชน และบูรณภาพทางดินแดน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ  จึงมีหลายแนวรบ   ไม่ใช่เฉพาะขาทหาร แต่ยังมีขาเรื่องปัญหาอาชญากรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ  ซึ่งมีจุดมุ่งหมายทำลายเสถียรภาพของประเทศเรา นอกจากนี้ยังมีขาในเรื่องของการต่างประเทศ 

ทั้งนี้ยังมีเรื่องหนึ่งที่ตนเป็นห่วง  คือบทสนทนา ที่นายอนุทินได้บอกต่อประชาชน ว่าสหรัฐเชื่อข้อเท็จจริงบางอย่าง   ซึ่งไม่เป็นคุณต่อเรา ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นห่วงมาโดยตลอด เพราะปัญหาชายแดนไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยและประเทศอื่นๆ    แต่เป็นปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาที่จะต้องหาข้อยุติให้ได้ หากเรามีความขัดแย้งเพิ่มไปอีก   จะทำให้ประเทศไทย    บริหารสถานการณ์ที่วิกฤตได้ยากขึ้น  ดังนั้นจึงต้องทำยุทธศาสตร์ ให้โลกล้อมกัมพูชา   ไม่ใช่โลกล้อมไทย และรัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้   แก้ปัญหาแนวรบเรื่องนี้ให้ได้    ทหารเป็นผู้ปฏิบัติ ทำหน้าที่ปกป้องตามแนวชายแดน แต่ในเรื่องการต่างประเทศ ปราบสแกมเมอร์ เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้ดีกว่านี้

นายรังสิมันต์    กล่าวต่อว่า สิ่งที่นายอนุทินกำลังปฏิบัติอยู่ไม่ดี   ไม่ดีจริงๆ ทำให้ประเทศไทยไม่ได้ใช้ความได้เปรียบอย่างที่ควรจะเป็น    ทำให้เกิดบรรยากาศโลกล้อมกัมพูชา    และสุดท้ายในปลายทางของความขัดแย้ง   ตนเป็นห่วงว่า รัฐบาลยังบริหารจัดการแบบนี้ไม่ได้    ประเทศไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดอย่างที่เราควรจะได้

ส่วนภาพรวมไม่รู้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จ เพราะไม่ได้อยู่ในห้องที่มีการสนทนากัน แล้ววันนี้ที่มีคำพูดออกมาว่าจะมีการหยุดยิง เวลา 22.00 น.    ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการสื่อสารจาก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่ตนคิดว่า ท่ามกลางความสับสนในเรื่องนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงกับประชาชน ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร   และรัฐบาลต้องทำให้ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ดีที่สุด   มีเพื่อนมากที่สุด และโดดเดี่ยวกัมพูชาให้ได้    นั่นคือภารกิจของรัฐบาลที่ต้องทำ

ส่วนจะฝากการบ้านอย่างไรไปให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน    นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบหลายเรื่อง กัมพูชาไม่มีจุดได้เปรียบ    แต่กลายเป็นว่างานข้อมูลข่าวสารกับต่างประเทศ กลับมีแนวโน้มฝั่งกัมพูชามากกว่าไทย    ซึ่งเป็นสิ่งที่รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องทำ   คือต้องทำให้เข้าใจว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น    ฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลงคือกัมพูชา    ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน หรือทำลายสันติภาพ   แต่เป็นฝ่ายกัมพูชาที่เป็นผู้ริเริ่ม   หากไม่สามารถทำให้เรื่องนี้เกิดความชัดเจนได้   ไทยจะไม่ใช่ประเทศที่ได้เปรียบ

นอกจากนี้ต้องทำให้ทั่วโลกเข้าใจให้ได้ ว่ากัมพูชาต้องการนำปัญหาความขัดแย้ง เบี่ยงประเด็นการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า    ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใหญ่กว่ากัมพูชา งานของกระทรวงการต่างประเทศแรกๆเหมือนจะดี แต่ตอนนี้กลายเป็นอ่อน    จึงต้องเพิ่มการสื่อสารทำความเข้าใจ และรุกให้มากกว่านี้ เพิ่มช่องทางการสื่อสาร

ส่วนตั้งข้อสังเกตอย่างไรกับการที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และผู้นำกัมพูชา ออกมาระบุว่าเวลา 22.00 น คืนนี้จะหยุดยิง นายรังสิมันต์  กล่าวว่า วันนี้เราต้องตั้งคำถามว่าเป้าหมายของนายอนุทินคืออะไร การปกป้องประชาชนและการบูรณภาพทางดินแดน    ตนเข้าใจว่ามันต้องเดิน แต่ที่สุดไม่ได้มีแค่สนามตรงนั้นในการสู้   แต่หากเราใช้ความคิด   ข้อเท็จจริงข้อมูล ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึก   ต้องเข้าใจว่าสนามรบไม่ได้มีแค่จุดนั้น    แต่หากแพ้ในสนามอื่น    สุดท้ายอาจจะเป็นโดมิโน่ได้ เพราะฉะนั้นจุดสำคัญคือนายอนุทิน ต้องมียุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน    ทั้งแนวรบด้านการฑูต   แนวรบด้านการปราบปรามอาชญากรรม   ด้านการพูดและแนวโน้มด้านการปราบปรามอาชญากรรม   หากสิ่งเหล่านี้อ่อนลงจะเป็นการเสริมจุดแข็งให้กับกัมพูชา    

ตนก็ไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร แต่ต้องเอาข้อมูลความจริง พูดกับประชาชนตรงๆ ว่าสถานการณ์ถูกยกระดับไปถึงจุดใด ยอมรับว่าแนวหน้ามีความรุนแรงมาก โดรนราคาถูก มีการเตรียมไว้ 3,000 ลำ   ซึ่งเป็นข้อมูลที่กองทัพรู้มาอยู่แล้ว    จึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะสนับสนุน ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถ ปกป้องบูรณภาพดินแดนและประชาชนได้อย่างเต็มที่ พร้อมยอมรับว่าการสู้รบย่อมมีการสูญเสีย ต้นไม่อยากให้ลูกหลานที่อยู่ในแนวหน้า ได้รับความสูญเสีย จึงอยากให้มีเครื่องไม้เครื่องมือในการปกป้องชีวิตของพวกเขาอย่างสูงสุด

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาชนสนใจแต่การแก้รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งแต่ไม่ แต่ไม่สนใจประชาชน   นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องการจัดเตรียมต่างๆ เป็นเรื่องที่ทุกพรรคต้องทำ ไม่ได้หมายความว่า   พรรคให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญ   แล้วจะผ่อนในเรื่องสแกมเมอร์ หรือปัญหาด้านความมั่นคง   ซึ่งตนก็เป็นคนหนึ่งที่ทำเรื่องสแกมเมอร์และความมั่นคงมากที่สุดคนหนึ่ง    และเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้เวทีต่างประเทศ    เพื่อให้มั่นใจว่าผลประโยชน์ของประชาชน จะได้รับความคุ้มครองสูงสุด    แต่ขณะเดียวกันก็มี สส.คนอื่น ขับเคลื่อนในส่วนอื่นไป   ไม่ใช่ว่าจะเลือกอีกอย่างหนึ่งแล้วทิ้งอีกอย่างหนึ่ง แต่หากจะถามเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง ต้องไปดูพรรคการเมืองต่างๆ เขาไปดูดสส. หรือคนนั้นคนนี้เข้าพรรคเต็มไปหมด พรรคการเมืองเหล่านี้ ให้ความสำคัญกับเรื่องการเลือกตั้งมากเหมือนกัน 

"การจะมาโจมตีว่าพรรคประชาชนไม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชน   หรืองานด้านความมั่นคง ผมมองว่าเป็นการโจมตีข่าวเท็จ ไม่ได้มีมูลความจริง    ขอยืนยันกับประชาชนว่า งานด้านความมั่นคง   เป็นเรื่องสูงสุดและสำคัญ การปราบปรามกลุ่มสีเทา   เราจะต้องใช้โอกาสนี้ทำอย่างไรให้นักการเมืองที่เป็นมือเป็นไม้พายเรือให้โจรนั่ง พวกเทาๆดำๆ ไม่เข้าไปสู่ในสภา   ไม่มีอำนาจรัฐ และไม่ใช้อำนาจนั้นในการปกป้องทุนเทายึดประเทศไทย" นายรังสิมันต์  กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top