วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “ยกเครืองประเทศไทย เพือไทยทําได้” ย้ำนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้อง โดยมีมาตรการปลดหนี้ให้คนไทย และสานต่อนโยบายหวยเกษียณภายใน 3 เดือน
นายจุลพันธ์ เริ่มต้นกล่าวว่า จากวันที่ 31 ตุลาคม 2568 คือวันที่ตนได้รับเกียรติอย่างสูงให้ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในวันนั้น ตนไม่ได้รับเพียงตำแหน่ง แต่ได้รับความคาดหวังว่าพรรคเพื่อไทยต้องกลับมาแข็งแรง ต้องกลับมาเป็นความหวังของประชาชนอีกครั้ง และตลอดเวลาเพียงเดือนเศษที่ผ่านมา เราไม่ได้เพียงพูดถึงการเปลี่ยนแปลง แต่เราทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทย สื่อสารกับประชาชนเชิงรุกทันเหตุการณ์ มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ที่รวมคนทุกวัย ทุกภูมิภาค การทำงานในสภาเข้มข้น ตรวจสอบจริง ไม่เกรงใจอำนาจมีทีมนโยบายที่รับฟังทั้งนักวิชาการ และเสียงประชาชนตัวจริง ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นได้ เพราะความร่วมมือของพวกเราทุกคน เพราะพวกเราเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน เพราะพวกเรามีหัวใจดวงเดียวกัน หัวใจดวงนั้นคือประชาชน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งประชาชน ในวันนี้ตนยืนอยู่ตรงนี้เพื่อบอกทุกท่านว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว พร้อมจากการยกเครื่องพรรคสู่ภารกิจที่ใหญ่กว่าคือยกเครื่องประเทศไทย ในฐานะทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตนเข้าสู่การเมืองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพื้นที่ชายขอบ จ.เชียงใหม่ อำเภอที่ไปชายแดนประเทศเมียนมา ใกล้กว่าเข้าตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ผมเป็นคนมีโอกาสมากกว่าคนส่วนใหญ่เพราะได้เรียนปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีโอกาสเรียนต่อระดับปริญญาโท ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และทำงานในภาคเอกชนบริษัทด้านเทคโนโลยีอวกาศและความมั่นคงระดับโลก ผมเคยอยู่ในประเทศที่เจริญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แล้วกลับมาใช้ชีวิตกับชาวบ้านในชนบทของเชียงใหม่
“ผมเห็นความมั่งคั่งสุดขั้ว และความลำบากสุดในชีวิตจริง สองภาพนี้ทำให้ผมมีความฝันชัดเจนตั้งแต่วันนั้นคือ การใช้ความรู้ทางเศรษฐกิจ ปลดโซ่ตรวนชีวิตของคนไทย”
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตนทำงานต่อเนื่องจากตำแหน่ง สส.เป็นกรรมาธิการด้านการเงิน การคลัง ด้านเศรษฐกิจ และด้านการเกษตรจนถึงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตลอด 2 ปี ในตำแหน่งรัฐมนตรีผมมีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริงหลายอย่าง แน่นอนว่า มีทั้งอุปสรรค และแรงเสียดทานแต่เราไม่เคยหยุดและเราจะเดินหน้าต่อไป
“ตนเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาเพียงเพื่อความฝันตัวเอง แต่ขอความไว้วางใจจากประชาชน เพื่อทำภารกิจยิ่งใหญ่ให้คนไทยไร้จน หลุดพ้นจากความยากจนอย่างถาวร พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างพรุ่งนี้ที่ดีกว่า โดยสร้างหลักประกันเงินออม การปลดหนี้ และการสร้างรายได้ใหม่ เพราะนิยามของคำว่าประชาชนในสังคมประชาธิปไตยคือ ความมั่นคง อิสรภาพ และโอกาสในชีวิตสะท้อนอยู่ในแนวคิด ‘มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี’ ของพรรคเพื่อไทย” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาพที่เห็นคือ ประชาชนจำนวนมากที่เจอความลำบากจนชินชา ความปรารถนาของผม คือ คนไทยไร้จน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่วันนี้ พี่น้องประชาชน ยังเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ลดลง ของกินของใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง เพิ่มไม่หยุด ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ต้นทุนปุ๋ย น้ำมัน ค่าแรงเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการรายย่อยแบกรับดอกเบี้ยสูง ยอดขายลดลง ค่าเช่าและต้นทุนพุ่งไม่หยุด ประชาชนคนไทยมีหนี้่สินล้นพ้นตัว ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้การศึกษา หนี้ ธกส.และหนี้นอกระบบ เราพูดว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย คนไทยแก่ก่อนรวย ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่มีเงินออม ไม่มีรายได้หลังเกษียณ ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐ หลายครอบครัวต้องเลือกระหว่าง “จ่ายหนี้” หรือ “ดูแลคุณภาพชีวิต”
ท่านเห็นหรือไม่ว่าตนไม่ได้เอาตัวเลขทางเศรษฐกิจมาพูดกับทุกท่านเลย เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่อาจสะท้อนหยาดน้ำตา ความเครียด ความสิ้นหวังและความไม่มั่นคงในชีวิตของประชาชนคนไทยได้ คำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆ คือ “พรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้หรือไม่”
โจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน นโยบายเร่งด่วนนโยบายแรก คือ “หวยเกษียณ” ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สานต่อ แต่เราจะทำให้ได้ใน 3 เดือนแรก ของการเป็นรัฐบาล คนไทยกว่า 34 ล้านคน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลวันที่ 1 และ 16 ยังคงเป็นความหวังของคนทุกวัย แต่ทุกบาทที่ซื้อจะไม่หายไป หวยเกษียณคือการสร้างเงินออมโดยไม่ต้องไปปรับพฤติกรรมการเสี่ยงโชคของคนไทย แต่เราต้องการให้ผู้สูงอายุมีเงินก้อนยามแก่เฒ่า เสริมไปกับเบี้ยยังชีพและสวัสดิการอื่นๆ
ถ้าเลือกได้คงไม่มีพ่อแม่ปู่ย่าที่ไหนอยากเป็นภาระของลูกหลาน เมื่อหวยเกษียณสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ผู้สูงอายุ สิ่งที่ตามมาคือ ลูกหลานมีอิสรภาพทางการเงินที่มากขึ้น หวยเกษียณจึงเปลี่ยนการเสี่ยงโชคสู่หลักประกัน “เปลี่ยนความหวังระยะสั้น ให้กลายเป็นความมั่นคงระยะยาว”
อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วน คือ “การล้างหนี้ให้คนไทย” ปัญหาหนี้ของคนไทยไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่นี่คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งทั้งชีวิตประชาชนและอนาคตของเศรษฐกิจไทย ตลอด 2 ปีของรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การบริหารของนายกฯ เศรษฐา และนายกฯ แพทองธาร ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้เกษตรกร แก้หนี้นอกระบบ เติมสภาพคล่องให้รายย่อย ไปจนถึงการค้ำประกันสินเชื่อ และการสร้างงานสร้างอาชีพ สามารถช่วยเหลือประชาชนได้กว่า 6 ล้านราย และบรรเทาภาระหนี้รวมกว่า 4 แสนล้านบาท เราไม่เคยปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญปัญหาหนี้สินเพียงลำพัง
พี่น้องประชาชนครับ หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะสานต่อนโยบายล้างหนี้ ดังนี้
1. แก้หนี้นอกระบบ : ด้วยการให้สินเชื่อรายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่ต้องมีหลักประกันไปปิดหนี้นอกระบบ เพราะหนี้นอกระบบไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่คือความรุนแรง การข่มขู่ การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นี่คือการคืนอิสรภาพจากความหวาดกลัว
2. หนี้ NPL ทำให้รายได้กลายเป็นดอกเบี้ย : เพราะประชาชนขาดโอกาส ประเทศติดหล่ม จะดีหรือไม่ หากคนที่เป็นหนี้เสียไม่เกิน 200,000 บาท จ่ายเพียง 10% หรือ 20,000 บาท ปิดหนี้ได้ทันที นี่ไม่ใช่แค่การปลดหนี้ประชาชน แต่เป็นการปลดล็อกประเทศในทางเศรษฐกิจ
3. หนี้เกษตรกร : พี่น้องเกษตรกร ที่เผชิญกับภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจและภัยธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย จะพักเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อต่ออายุ ต่อลมหายใจให้พี่น้องเกษตรกร
4. ล้างหนี้วัยเกษียณ : เราอยากให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดการพึ่งพาลูกหลานด้านการเงิน เราจะปลดหนี้เสียของผู้สูงวัย ไม่เกิน 100,000 บาท ภายใน 3 เดือน
5. ลูกหนี้ชั้นดี ผ่อนดี 1 ปี ฟรี 1 งวด สำหรับกลุ่มลูกหนี้ชั้นดีที่จ่ายตรง จ่ายครบทุกงวด พวกเขาควรได้รางวัล โดยถ้าผ่อนดี 1 ปี ฟรี 1 งวด สำหรับยอดหนี้ 100,000 บาท
การแก้หนี้ประชาชน ไม่ใช่การแจกเงิน ไม่ใช่ประชานิยม แต่คือการซ่อมฐานรากของระบบเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
พี่น้องประชาชนที่เคารพ ตัวเลขทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ไม่อาจสะท้อนความทุกข์ยาก ความเหลื่อมล้ำ ความสิ้นหวังของประชาชนได้ พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างพรุ่งนี้ที่ดีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเห็นประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่านี่คือองค์ประกอบของคำว่าประชาชนในสังคมประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะยกเครื่องประเทศไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้ นี่คือคำมั่นสัญญาของผม จุลพันธ์ อมรวิวัตน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี