วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คุมเข้มส่งออก‘น้ำมัน-ยุทธปัจจัย’
ตัดท่อน้ำเลี้ยงเขมร
‘สมช.’มอบหมาย‘ศรชล.’
ตรวจยิบเรือไทยไปกัมพูชา
กต.เหมาลำบินรับคนไทยกลับ
ที่ประชุม “สมช.” มีมติไฟเขียวให้ “ศรชล.” เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเรือสัญชาติไทย ขนน้ำมัน-ยุทธปัจจัย ผ่านอ่าวไทยเข้ากัมพูชา ส่วนกระทรวงกลาโหมเป็นฝ่ายดำเนินการ กำหนดสินค้ายุทธภัณฑ์ ยุทธปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งไปกัมพูชาพร้อมมอบ กต. พาคนไทยที่ติดค้างในปอยเปตกลับบ้าน คาดใช้วิธีเช่าเหมาลำ พร้อมชง ครม. อนุมัติเยียวยาเพิ่มเติมผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต จากเหตุปะทะชายแดนด้าน ปลัดพลังงานยันไม่มีการส่งน้ำมันจากไทยไปกัมพูชา เผยกำลังหากลไกยืนยันปลายทางน้ำมันที่ส่งไป สปป.ลาวขณะที่ นายกฯโต้เขมรใช้เวทีโลกโจมตีไทยใช้อาวุธรุนแรงไล่ไปดูคลิปใครรุนแรงกว่า ยันไม่มีใครกดดันให้หยุดยิง
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวนำเสนอเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันผ่านทางด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง สปป.ลาว ว่าอาจมีการลักลอบส่งต่อน้ำมันให้ประเทศกัมพูชาหรือไม่นั้น กระทรวงพลังงาน โดย กรมธุรกิจพลังงาน เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยอย่างละเอียด ทั้งข้อมูลปริมาณการส่งออกในอดีตเทียบกับปัจจุบัน เส้นทางในการส่งออก รวมถึงได้กำชับผู้ค้าน้ำมันทุกรายในการปฏิบัติตามมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกด่านตลอดแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่อาจจะสามารถส่งต่อไปยังกัมพูชาได้
ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพรถน้ำมันที่ตกค้างตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นนั้น นายวีรพัฒน์กล่าวว่า เป็นผลมาจากมาตรการคุมเข้มในการส่งออกน้ำมัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบริหารจัดการและประสานกับผู้ค้าน้ำมันเพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง และน้ำมันจะต้องถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดใน สปป.ลาว เท่านั้น
นอกจากมาตรการป้องกันการส่งน้ำมันทางบกแล้ว กรมธุรกิจพลังงานได้ติดตามตรวจสอบไม่ให้มีการส่งออกน้ำมันทางเรืออย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการจำกัดการส่งออกน้ำมันให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะติดตามการกำกับดูแลมาตรการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย
“ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้กำชับผู้ค้าน้ำมันและได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในการกำกับการส่งออกน้ำมันทั้งทางบกและทางเรือไปยังกัมพูชา เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และกรมธุรกิจพลังงาน ได้เพิ่มความเข้มงวดในการติดตามและกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันที่ผ่านด่านตลอดแนวชายแดน ไทย - สปป.ลาว อย่างเคร่งครัด จะต้องไม่มีการส่งออกน้ำมันที่มีปริมาณมากผิดปกติ และพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ค้าน้ำมันให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันของกองทัพ และจะยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเป็นสำคัญ” นายวีรพัฒน์ กล่าว
ทางด้าน พล.ร.อ.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กล่าวก่อนประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อขออนุมัติ ให้หน่วยงานใน ศรชล. ยกระดับมาตรการตามมาตรา 27 วรรคสองและสามในการบูรณาการกลไก การควบคุมและเฝ้าระวังเรือสินค้าพาณิชย์ เรือประมง เรือสนับสนุนทำงานประมง ทั้งเรือไทย และผู้ประกอบการทางทะเล ที่เป็นเจ้าของเรือโดยตรงหรือทางอ้อม ที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารกิจการกองเรือภาคการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศและมีพฤติการลักลอบลำเลียงและส่งออกน้ำมัน หรือสินค้ายุทธปัจจัยไปยังประเทศกัมพูชา พร้อมให้ ศรชล. พิจารณาประกาศพื้นที่โดยรอบทะเลอาณาเขตรอบท่าเรือกัมพูชา เป็นพื้นที่เสี่ยง ว่า วันนี้จะเป็นการเสนอเรื่องในส่วนของ ศรชล.เกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล โดยยอมรับว่าจะโฟกัสเฉพาะเรือสัญชาติไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้ความมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบกับเรือของต่างชาติ เป็นการบริหารจัดการเฉพาะเรือที่ชักธงไทยเท่านั้น หรือเรือสินค้าของไทย
สำหรับเรือของไทยที่ไปรับน้ำมันจากประเทศที่สามมาส่งให้กัมพูชานั้น ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทําธุรกิจโดยทั่วไป ส่วนในของกัมพูชาจะต้องตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เนื่องจาก ศรชล.มีมาตรการอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ปิดน่านน้ำตามที่เป็นข่าวมาก่อนนี้ เพียงแต่ทําให้เกิดความปลอดภัย และการปฏิบัติการมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในภาคเอกชนโดยเฉพาะเรือไทย ส่วนกรณีเรือไทยถูกโจมตีว่าไม่หยุดส่งน้ำมันให้กัมพูชานั้น อยากให้รอผลการประชุม สมช.วันนี้ก่อน ยังไม่ขอชี้แจงประเด็นนี้ ทั้งนี้ ศรชล.มีหน้าที่บริหารจัดการ การทํางานในทะเลอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหากสมช.อนุมัติ การบังคับใช้จะครอบคลุมเวลาเท่าไหร่ พล.ร.อ.ธาดาวุธ กล่าวว่า ต้องดูตามสถานการณ์ ยังไม่สามารถระบุได้
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 16/2568 โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ และเลขาธิการสมช.เข้าร่วม วาระสำคัญมีหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการขอสกัดกั้น ควบคุมยุทธปัจจัยและยุทธภัณฑ์ต่างๆ ทางทะเล ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอมาเป็นเรื่องหลัก นอกจากนี้ คาดว่าจะหารือเรื่องการช่วยเหลือคนไทยที่ต้องการเดินทางออกจากกัมพูชาด้วย
ภายหลังเป็นประธานการประชุมสมช. นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม โดยระบุว่าจะต้องไปเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เดี๋ยวเลขาธิการสมช.จะแถลงผลการประชุม ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกัมพูชาใช้เวทีโลกกดดัน ประเทศไทย นายกฯไม่ตอบคําถามดังกล่าว
เมื่อถามว่า จะไม่ให้มีการส่งน้ำมันไปไปยังประเทศกัมพูชาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่าเดี๋ยวเลขาฯสมช.จะแถลง เมื่อถามอีกว่า มีการตรวจสอบหรือไม่ กรณีรถขนน้ำมันไปจอดรอที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี จะขนน้ำมันไปที่ไหน นายกฯ ตอบว่า “ไปลาว”
เมื่อถามว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ได้เลี้ยวไปยังกัมพูชาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีครับ” เมื่อถามว่า จะต้องสกัดกั้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไปลาวก็สกัดไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า กัมพูชาพยายามใช้เวทีโลกโจมตีว่าไทยใช้อาวุธรุนแรง จะต้องให้กระทรวงการต่างประเทศมีคําชี้แจงอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไปดูอาวุธเปรียบเทียบ เวลาเขายิง BM -27 มา ทําไมผู้สื่อข่าวถามแบบนี้ ไปเปิดคลิปดู เวลาเขายิงมาเป็นยังไง ใครรุนแรงกว่า
เมื่อถามว่า นายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีการให้สัมภาษณ์อ้างอิงจะใช้มาตรการภาษีกดดันให้ไทยกับกัมพูชาหยุดยิงจะตอบประเด็นนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ตอบ”
ถามย้ำว่า มาตรการภาษีไม่สามารถมากดดันอะไรใครได้หรือใช่หรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบ
ถามอีกว่า ที่นานาชาติมากดดันเช่นนี้ ยิ่งจะทําให้การหยุดยิงไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “ไม่มีใครกดดัน ใครจะมากดดัน จะกดดันใคร” ถามย้ำว่า สหรัฐใช้มาตรการภาษีมากดดันอีกแล้ว นายกฯ กล่าวว่า “กดดันใคร ผมไม่ทราบ”
ถามอีกว่า ล่าสุดโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง เพราะเป็นเพื่อนบ้านที่แยกจากกันไม่ได้ นายกฯ ไม่ตอบคำถาม ถามย้ำอีกว่า นายโดนัลด์ทรัมป์ออกมาระบุว่าจะสามารถหยุดสงครามได้ นายกฯ กล่าวว่า “ไปขอให้กัมพูชาหยุดยิงไทยสิ เพราะไทยไม่เคยยิงกัมพูชาก่อน”
เวลา 10.42น.นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสมช. แถลงผลการประชุมสมช.ว่า เรื่องการสกัดกั้นน้ำมันและยุทธปัจจัยทางทะเล ที่ประชุมมีมติมอบให้ ศรชล. เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การแจ้งเตือนเรือไทยที่จะเข้าในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ให้ได้รับทราบ รวมถึงการประสานกรมเจ้าท่า ในการตรวจเรือไทย ซึ่งเน้นเรือไทยเป็นหลักที่มีการขนส่งสินค้าที่จะเอื้อต่อการทำสงครามในกัมพูชา โดยจะมีการตรวจเรือไทยที่มีที่หมายปลายทางสินค้า เพื่อควบคุมให้เกิดความเรียบร้อย
ส่วนสินค้ายุทธภัณฑ์ ยุทธปัจจัยต่างๆ มอบให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการ กำหนดสินค้าที่จะควบคุมในการส่งไปกัมพูชา โดยยึดถือตามพระราชกำหนดควบคุมสินค้าชายแดน พ.ศ.2524
นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือคนไทยที่ตกค้างอยู่ในปอยเปต ประเทศกัมพูชา มีประมาณ 3-4 พันคน จึงมีมติมอบให้กระทรวงต่างประเทศรับไปดำเนินการ ประสานกับคนไทยเหล่านั้นที่จะหาทางส่งคนไทย ไม่ว่าจะทางเครื่องบินพาณิชย์ โดยมีเรื่องของการยืมเงินตามระบบกระทรวงการคลังในการซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือการเช่าเหมาลำพาคนไทยกลับประเทศไทย โดยเฉพาะคนไทยที่ติดค้างด่านปอยเปต จะให้เดินทางไปขึ้นเครื่องที่เสียมเรียบ ซึ่งอาจจะใช้วิธีการเช่าเหมาลำ
ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่ผ่านมามีหลักเกณฑ์ชัดเจนอยู่แล้ว ก็จะมีการรวบรวมผู้บาดเจ็บเสียชีวิตล่าสุด นำเสนอคณะรัฐมนตรี และมีเงินเยียวยาเพิ่มเติมจากที่เคยอนุมัติก่อนหน้านี้
ด้าน นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากตรวจสอบยืนยันว่าเราไม่มีการส่งออกน้ำมันจากไทยไปกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางเรือ โดยได้รับคำยืนยันได้จากผู้ค้าน้ำมัน กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่ช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการส่งน้ำมันจากไทยไป สปป.ลาว โดยปริมาณน้ำมันภาพรวมเป็นปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่การขนส่งแต่ละวันอาจจะแตกต่างกันไป เฉลี่ยต่อวันมีประมาณ 20 คันที่ผ่านช่องเม็ก แต่บางวันอาจมี 5 คัน หรือบางวันมีถึง 50 คัน ทั้งนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ถึง เมษายน 2569 เป็นช่วงที่หมดฝน ทาง สปป.ลาว จะใช้น้ำมันเยอะกว่าปกติ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกปี เพื่อใช้หมุนเวียนในประเทศและประกอบธุรกิจต่างๆ แต่ถ้าเป็นช่วงฝน เขาทำเมืองไม่ได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าผู้ส่งออกน้ำมันส่งไปเพียงแค่ สปป.ลาว ไม่ได้ส่งต่อให้กัมพูชา ซึ่งจะต้องมีการหารือกับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงพลังงาน กรมศุลกากร และทาง สปป.ลาว ว่าจะมีกลไกอะไรที่ทำให้เกิดความมั่นใจกับคนไทย ว่าน้ำมันที่ส่งไป สปป.ลาว ใช้ในประเทศลาวจริงๆ ไม่เกี่ยวกับกัมพูชา ล่าสุดทาง สปป.ลาว ก็แจ้งว่าเริ่มมีปัญหา เพราะน้ำมันที่ซื้อจากไทยใช้พัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศ หากไม่มีตรงนี้ก็จะลำบาก ซึ่งหากมีแนวทางที่ชัดเจนแล้วก็จะเปิดทางช่องเม็กให้ส่งข้ามไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี