หลิว จงอี้ หารือ กองทัพบก ชี้ รัฐบาลกัมพูชา โยงผลประโยชน์ร่วม สแกมเมอร์ในหลายมิติ

หลิว จงอี้ หารือ กองทัพบก ชี้ รัฐบาลกัมพูชา โยงผลประโยชน์ร่วม สแกมเมอร์ในหลายมิติ

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.03 น.

"หลิว จงอี้" ผู้แทนจีน หารือ กองทัพบก ชี้ รัฐบาลกัมพูชา โยงผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ ขอ 2 ประเทศแก้ปัญหาร่วมกัน ย้ำ ใช้เวลาสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค 

วันที่ 18 ธันวาคม 2568 วานนี้ (17 ธันวาคม 2568) พลเอก ดิเรก บงการ หัวหน้าศูนย์ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security - MPS) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีอาญา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กองสอบสวนอาชญากรรมโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ณ ห้อง จปร. อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ


ซึ่งในระหว่างการหารือ พลเอก ดิเรก บงการ กล่าวว่า ปัจจุบันมีข้อมูลว่ากลุ่มสแกมเมอร์ที่ถูกปราบปรามอาจหลบหนีไปยังพื้นที่อื่น และอาจใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม โดยใช้การแฝงตัวเข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวหรือนักลงทุน ส่งผลให้การคัดกรองของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยาก รวมถึงการดำเนินการของกองทัพบกที่รับผิดชอบดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการคัดกรองและระบุตัวผู้ต้องสงสัยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสของขบวนการสแกมเมอร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็จะสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า และทำให้การสกัดจับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ พลเอก ดิเรก ยังกล่าวถึงขั้นตอนการส่งมอบผู้ลักลอบเข้าเมืองให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนการผลักดันออกนอกประเทศ ที่ทางกองทัพบกมีความเห็นว่า หากสามารถกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ก็จะสามารถลดเวลาในขั้นตอนเหล่านี้ได้ 

ทางด้านนายหลิว จงอี้ ได้แสดงความชื่นชมต่อความร่วมมือระหว่างไทย เมียนมา และจีน ในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมในพื้นที่เมียวดี ซึ่งสามารถจับกุมและส่งกลับผู้ต้องหาชาวจีนกว่า 6,600 คน พร้อมกล่าวว่าปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในการแก้ไขปัญหา และมีการลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตรวจอาคารใน KK Park กว่า 400 แห่งแล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนได้ขอความร่วมมือให้ไทยเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้กระทำผิด ที่พยายามใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ทั้งทางธรรมชาติและด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งกล่าวว่าอุปกรณ์ที่ขบวนการสแกมเมอร์ใช้ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง คือหลักฐานสำคัญที่จะใช้ในการดำเนินคดีและขยายผลเครือข่ายอาชญากรรม จึงต้องมีการดำเนินการเก็บวัตถุพยานอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ทางการจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ทางจีนได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ ดังนั้นจึงขอให้ทั้งสองประเทศได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาและมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ในการดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในภูมิภาค

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top