วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘ชพน.’เว้นวรรค ไม่ส่งผู้สมัคร สส.ลงเลือกตั้งปี69 เหตุมีหลายปัจจัยที่ไม่เอื้อให้พรรคเล็ก พร้อมเปิดทาง‘อดีตสส.’ย้ายสังกัดตามดุลยพินิจ ‘สุวัจน์’ประเมินภาพการเมือง 3 พรรคใหญ่แข่งดุเดือด เหตุชิงการนำจัดตั้งรัฐบาล ด้าน‘เทวัญ’ยืนยันเดินหน้าลงเลือกตั้งต่อ แต่ขอหารืออดีตสส.ก่อนตัดสินใจย้ายสังกัด ‘วุฒิพงศ์’ปัดข่าวย้ายซบ‘กล้าธรรม’
18 ธันวาคม 2568 ที่บ้านเลขที่ 333 ราชวิถี มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นัดพิเศษ เพื่อหารือถึงทิศทางการทำงานของพรรค หลังจากที่มีการยุบสภา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมเลือกตั้ง 8 ก.พ.69
สำหรับบรรยากาศพบว่ามีแกนนำพรรค อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา , นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครราชสีมา , นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตนายกเทศมนตรีนครราชสีมา , นายทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา , นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค , นายอรัญ พันธุมจินดา อดีตสส.บัญชีรายชื่อ , นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีต สส.ปราจีนบุรี พรรคชาติพัฒนา , นางเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค เข้าร่วมประชุม
ก่อนการประชุม นายสุวัจน์ กล่าวกับที่ประชุมว่าเป็นการนัดประชุมด่วนของกรรมการบริหารพรรค เพื่อหาแนวทางในการทำงานของพรรคว่าจะไปในทิศทางไหน หลังจากยุบสภาแล้ว โดยที่ประชุมใช้เวลาหารือประมาณ 1ชั่วโมง 15 นาที

นายสุวัจน์ แถลงผลประชุมว่าที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความเห็นในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันพรรคควรตัดสินใจอย่างไร ผลดี ผลเสียและโอกาสที่จะกลับมาทำงานสส. เพื่อทำงานให้ประเทศ ซึ่งมีข้อสรุปว่า
1.ขณะนี้สถานการณ์การเมืองเข้มข้น ที่ผ่านมาตนอยู่กับการเมืองมาตั้งแต่ปี2531 ผ่านการเลือกตั้งหลายครั้ง ทุกครั้งเป็นการต่อสู้ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ แต่รอบนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่ต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรค ดังนั้นประเมินว่าการต่อสู้รอบนี้จะดุเดือด เข้มข้น จะเห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองสูงมีการย้ายพรรค สะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงว่า เป็นการเลือกตั้งแบบการเมือง 3 ขั้ว เพื่อนำไปสู่ชัยชนะ ทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบมากยิ่งขึ้นจากเดิมที่เสียเปรียบอยู่แล้ว
2.ในระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบ ไม่ได้ทำให้สส.บัญชีรายชื่อ
3.เป็นการยุบสภาแบบกะทันหัน ทำให้กระบวนการเตรียมความพร้อมไพรมารี่โหวตเป็นไปแบบมีขีดเวลาจำกัด
4. สถานการณ์ปัจจัยภายนอกประเทศ
.jpg)
“การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และการเมืองเข้มแข็งเพียงพอสร้างความเชื่อมั่นที่ดีต่อระบบการเมือง รัฐบาลใหม่ ดังนั้นคำนึงถึงด้วยว่าจากนี้ไปต้องให้การเมืองเข้มแข็ง มีคุณภาพ ระบบพรรคใหญ่เข้มแข็ง จากเหตุผล พรรคชาติพัฒนาจะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง เทอมนี้ขอบายก่อน แต่พรรคยังอยู่ ส่วนอดีตสส.และแกนนำพรรคนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่จะตัดสินใจ” นายสุวัจน์ แถลง
เมื่อถามถึงการตัดสินใจส่วนตัว นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนยังเป็นประธานพรรค และช่วยการเมืองท้องถิ่นที่ จ.นครราชสีมา และจะอยู่กับพรรคตามที่ พล.อ.ชาติชาญ ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาสั่งไว้ และพร้อมจะดูแลน้องๆ
เมื่อถามถึงกระแสของการตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่เป็นมติพรรค แต่ปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่ตัดสินใจ เช่น นายประสาท ตันประเสริฐ อดีต สส.นครสวรรค์ ได้ตัดสินใจไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าในฐานะเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองจะปูทางคุยกับพรรคใดให้หรือไม่ เพราะขณะนี้หลายพรรคโควตาใกล้เต็มแล้ว นายสุวัจน์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนของตนมีคุณภาพ และทำพื้นที่มาตลอด ทั้งใน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ดังนั้นตนมั่นใจในความรู้ความสามารถและได้รับการยอมรับต่อการทำงานในพื้นที่กับประชาชน มั่นใจว่าการตัดสินใจไปอยู่ในจุดที่ได้กลับมาเป็นผู้แทน เป็นสินค้าคุณภาพ เชื่อว่าตัดสินใจได้
เมื่อถามว่าประเมินว่า ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย มองว่าพรรคไหนภาษีดีกว่ากัน นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคใหญ่ 3 พรรค จะหายใจรดต้นคอ ดังนั้นคงสูสีกันหมด ทั้งนี้ตนประเมินว่าทั้ง 3 พรรคอยู่ในระดับร้อย
“เป็นการเมืองที่ต่อสู้รุนแรง 3 ขั้ว ทุกคนต้องแย่งชัยชนะเป็นรัฐบาล วันนี้ต้องงอยู่ในระดับ 100 เสียง และการจัดรัฐบาลเสถียรภาพและหน้าตาจะอยู่ในการบริหารจัดการของ 3 พรรคใหญ่ เป็นคนกุมชะตาตั้งรัฐบาลเพื่อสร้างเสถียรภาพและแก้ปัญหาให้ประชาชน อยู่ในมือ 3 พรรคใหญ่” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าประเมินว่าเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน นายสุวัจน์ กล่าวว่า จะฝ่ายค้านหรือรัฐบาลเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเป็น สส.กลับมาให้ได้ ตนเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของน้องๆที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ตัดสินใจให้เป็นสส. แต่การเป็นรัฐบาลหรือค้านเป็นจังหวะการเมืองที่ควบคุมไม่ได้
ขณะที่ นายเทวัญ กล่าวว่าสำหรับทิศทางของอดีตสส.ของพรรค และสมาชิกพรรคจะไปสังกัดที่ไหนนั้น ขอหารืออีกครั้ง ดังนั้นหากจะไปพรรคไหนต้องไปเป็นกลุ่มก้อน อย่างไรก็ดีในส่วนของตนนั้นแม้ไม่ได้เป็น สส. แต่ยังทำงานในพื้นที่มาหลายปี และทุกคนพร้อมจะลงสมัคร
ส่วนนายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปสังกัดพรรคใด แม้ว่าจะมีข่าวว่าพรรคกล้าธรรมจะติดต่อมา แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะคิดว่าเมื่อยามตนลำบากพรรคชาติพัฒนาให้โอกาสตน ดังนั้นเมื่อพรรคไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง การย้ายไปสังกัดพรรคใดต้องรอหารือและพร้อมไปด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี