วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต

ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต

วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 21.37 น.

 

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก "ปราชญ์ สามสี"  ระบุว่า 


ผมอยากเริ่มต้นด้วยคำธรรมดาที่สุด
แต่เป็นคำที่ออกมาจากใจจริงที่สุดคำหนึ่ง
ขอบคุณครับ…จ่าเริง
ขอบคุณที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า
คำว่า ความกล้าหาญ ยังมีอยู่จริง
ไม่ใช่ในภาพยนตร์ ไม่ใช่ในคำปราศรัย
แต่เป็นความกล้าหาญที่แลกมาด้วยลมหายใจสุดท้ายของมนุษย์คนหนึ่ง
วันนี้ เราไม่ได้เพียงสูญเสียทหารสองนาย
แต่เราได้เห็นชัดเจนว่า
อธิปไตยของประเทศนี้ ไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นหมึกในแผนที่
แต่วางอยู่บนชีวิตของคนที่ยืนอยู่แนวหน้า
คนที่ยอมรับความตายไว้กับตัว
เพื่อให้คนอื่นยังได้กลับบ้าน
ภารกิจของ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน
เกิดขึ้นบนเนิน 350
พื้นที่ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเนินเขา
แต่เป็นที่มั่นที่ฝ่ายตรงข้ามเตรียมการมาอย่างแน่นหนา
มีบังเกอร์ มีแนวป้องกัน
และเป็นจุดที่รู้กันดีว่า “เข้าไม่ง่าย และออกไม่ง่าย”
อาวุธที่เขาใช้
เป็นอาวุธหนัก
ต้องใช้คนยิง ต้องใช้คนคุ้มกัน
แต่ในวินาทีที่สถานการณ์บีบคั้น
เขาเลือกจะยืนอยู่ตรงจุดที่อันตรายที่สุด
เพื่อให้เพื่อนที่เหลือมีโอกาสรอด
เขาไม่ถอย
เขาไม่ทิ้งที่มั่น
และเขาไม่ยอมให้ความกลัวพาเขาหนีจากหน้าที่
ความกล้าหาญแบบนี้
ไม่ใช่เรื่องของความฮึกเหิม
แต่คือการตัดสินใจที่หนักหนาที่สุดในชีวิต
ระหว่าง “ฉันจะรอด” กับ “เพื่อนฉันต้องรอด”
และเขาเลือกอย่างที่มนุษย์ผู้มีศักดิ์ศรีเลือก
เลือกยืนอยู่จนวินาทีสุดท้าย
หลังการปะทะ
ร่างของเขาและเพื่อนทหารอีกนาย
ยังค้างอยู่บนเนินนั้นหลายวัน
ไม่มีใครไม่รู้ว่าการนำร่างลงมา
เต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตราย
แต่นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมเคารพกองทัพไทยอย่างสุดหัวใจ
เราไม่ทิ้งคนของเราไว้ข้างหลัง
ไม่ว่าศพจะอยู่ตรงไหน
ประเทศนี้จะพาเขากลับบ้าน
และตรงจุดนี้เอง
ที่คำว่า จริยธรรมบนสนามรบ ปรากฏชัดขึ้นมาอย่างเจ็บลึก
เพราะในขณะที่ฝ่ายหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิต
เพื่อนำร่างเพื่อนกลับมา
อีกฝ่ายกลับมีเรื่องเล่าจากแนวหน้า
ว่าผู้บาดเจ็บสาหัสถูกทอดทิ้ง
หรือถูกกำจัดเพื่อ “ประหยัดภาระ”
นั่นอาจเป็นตรรกะของสงคราม
แต่มันไม่ใช่ตรรกะของมนุษย์
กองทัพที่ไม่เห็นค่าชีวิตของคนตัวเอง
ย่อมไม่เข้าใจคำว่าศักดิ์ศรี
แต่สำหรับเรา
ถ้าทหารล้ม
เราจะอาบน้ำศพ
เราจะทำพิธี
และเราจะบอกลูกหลานของเขาว่า
การจากไปครั้งนี้…ไม่สูญเปล่า
เรื่องของจ่าเริง
ไม่ใช่แค่เรื่องของชัยชนะหรือความพ่ายแพ้
แต่เป็นเรื่องที่ต้องเล่าให้ลูกหลานฟัง
ว่าเนิน 350 เอายากเพียงใด
และแผ่นดินที่เราเหยียบอยู่นี้
ได้มาอย่างไร
มันได้มาจากคนธรรมดา
ที่ยอมเป็นคนสุดท้ายในสนามรบ
เพื่อให้คนอื่นได้มีวันพรุ่งนี้
ขอบคุณจ่าเริง
ขอบคุณความกล้าหาญ
ขอบคุณความเป็นมนุษย์
และขอบคุณที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ
ยังกล้าพูดได้เต็มปากว่า
ประเทศนี้ ยังมีคนที่ยอมตายเพื่อรักษามันอยู่จริง ๆ
#ทำความเคารพ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top