‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่?

‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่?

วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.14 น.

‘ม.112’นิทานหลอกลวงประชาชนของ‘อนุทิน’หรือ‘พรรคส้ม’กันแน่?

26 ธันวาคม 2568 อัษฎางค์ ยมนาค หรือ “เอ็ดดี้” นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” ระบุว่า...


ม.112 นิทานหลอกลวงประชาชนของอนุทินหรือพรรคส้มกันแน่?

#อัษฎางค์ยมนาค | #อ่านเกมอำนาจ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้ท่าทีทางการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า

“ผมยืนยันอีกครั้ง ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่อง 112 ตามที่คุณอนุทินอ้างทั้งสิ้น พอได้แล้วกับนิทานหลอกลวงประชาชนเพื่อกักขังประเทศให้อยู่กับอดีต เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤตที่เผชิญอยู่รอบด้าน”

คำถามคือ

_______________________________________________

1. ณัฐพงษ์ยืนยันอีกครั้ง ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่อง 112 ตามที่คุณอนุทินอ้างทั้งสิ้น

คุณอนุทินอ้างอะไร?

ในช่วงวันที่ 24–25 ธันวาคม 2568 (ก่อนโพสต์ของนายณัฐพงษ์ไม่นาน) นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อถึง “แนวทางการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต” โดยระบุใจความสำคัญว่า “พรรคภูมิใจไทย จะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ต้องการแก้ไขหรือแตะต้องมาตรา 112”

_______________________________________________

2. ณัฐพงษ์กล่าวว่า “พอได้แล้วกับเรื่อง 112 นิทานหลอกลวงประชาชนเพื่อกักขังประเทศให้อยู่กับอดีต”

ก็พรรคประชาชน มุ่งแต่จะแก้รัฐธรรมนูญ และจะยกเลิกหรือแก้ไข ม.112 ให้ได้ จริงๆ มิใช่หรือ

นายอนุทิน คือผู้ที่ยึดถือ "กติกาและคำวินิจฉัยของศาล" เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

ส่วนนายณัฐพงษ์ คือผู้ที่พยายาม "บิดเบือนเจตนารมณ์กฎหมาย" และซ่อนเร้นความต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันหลัก โดยอ้างคำว่าประชาธิปไตยบังหน้า

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 เป็นจุดที่แข็งแรงของหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด เพราะศาลได้วางบรรทัดฐานแล้วว่า การกระทำของพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันแปลงร่างเป็นพรรคประชาชน) ในการเสนอแก้ไข ม.112 นั้น เข้าข่าย "บ่อนเซาะทำลาย" และนำไปสู่การ "ล้มล้างการปกครอง"

คำวินิจฉัยศาล เป็นสิ่งที่ใช้หักล้างคำว่า "นิทานหลอกลวงประชาชน" ในมุมของนายณัฐพงษ์ที่ว่า "นิทาน" ว่าเป็นข้ออ้างของฝ่ายรัฐบาล แท้จริงแล้วคือ "บรรทัดฐานของประเทศ" ที่ผ่านการวินิจฉัยโดยอำนาจตุลาการแล้ว

การที่พรรคประชาชนบอกว่าไม่เกี่ยว คือการ "ปฏิเสธอำนาจศาล" หรือพยายามเลี่ยงบาลี

มันไม่ใช่ “นิทานหลอกลวง" อย่างที่นายณัฐพงษ์ พยายามปกปิดความจริงในใจของตนเองและพรรคประชาชน

พฤติกรรมย้อนแย้งที่นายณัฐพงษ์บอกว่า "ไม่เกี่ยว" ทั้งที่พฤติกรรมในอดีตและการหาเสียงมุ่งเน้นเรื่องนี้มาตลอด

_______________________________________________

3. ณัฐพงษ์กล่าวว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤตที่เผชิญอยู่รอบด้าน”

ม.112 เป็นวิกฤตอะไรของประเทศไทย ทำไมพรรคประชาชนต้องการแก้หรือยกเลิกให้ได้ พอแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ก็กดดันให้พรรคภูมิใจไทยยุบสภา ในสภาวะที่ประเทศชาติอยู่ในภาวะสงครามและความขัดแย้งในปัญหาชายแดนไทย-เขมร 

ม.112 ไม่ใช่ “ยอดภูเขาน้ำแข็ง" ของโครงสร้างอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และการแก้ ม.112 ไม่เกี่ยวกับการ "ท้าทายหัวใจของระบบอุปถัมภ์" เพื่อเปิดทางให้เกิดการตรวจสอบอำนาจรัฐได้อย่างแท้จริง

ม.112 อยู่ในฐานะความมั่นคงของรัฐ สะท้อนหลักการที่ว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์คือความมั่นคงของชาติ" เป็นหลักสากลที่นานาประเทศล้วนมีกฎหมายคุ้มครองประมุข

สถาบันฯ อยู่เหนือการเมืองและระบบอุปถัมภ์ สถาบันฯ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ดังนั้น การที่พรรคประชาชนพยายามโยง ม.112 เข้ากับ "ระบบอุปถัมภ์" หรือ "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" จึงเป็นการ "จับแพะชนแกะ" เพื่อสร้างความชอบธรรมในการโจมตีสถาบันฯ มากกว่าจะต้องการแก้ปัญหาการเมืองจริงๆ

คำว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะพาประเทศไทยพ้นจากวิกฤตที่เผชิญอยู่รอบด้าน”

ความจริงคือ “พรรคประชาชนให้ความสำคัญและหมกมุ่นกับเรื่อง ม.122 มากเกิน จนละเลยปัญหาปากท้องหรือวิกฤตอื่นๆ และพยายามสร้างวาทกรรมว่าต้องแก้ 112 เท่านั้นประเทศถึงจะเดินหน้าได้ ซึ่งในสายตาคนจำนวนมาก นี่คือการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งขึ้นมาเอง ต่างหาก”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top