ไม่ควรถูกมองเป็น‘งานแถม’ ‘จาตุรนต์’จี้‘กกต.’สื่อสาร ปชช.ออกเสียงประชามติ 8 ก.พ.

ไม่ควรถูกมองเป็น‘งานแถม’ ‘จาตุรนต์’จี้‘กกต.’สื่อสาร ปชช.ออกเสียงประชามติ 8 ก.พ.

วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.08 น.

ไม่ควรถูกมองเป็นเพียงงานแถม! "จาตุรนต์"จี้"กกต."สื่อสารประชาชนออกเสียงประชามติ 8 ก.พ. ชี้ กกต.ไม่กระตือรือร้น คนส่วนใหญ่ไม่รู้ พท.ยก 5 ข้อ เร่งรณรงค์ทุกภาคส่วนขอให้มาออกเสียงมากที่สุด

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการรณรงค์ประชามติฯ แถลงในนามคณะกรรมการรณรงค์ประชามติและรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ของพรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทยได้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 มีข้อจำกัดหลายประการ เราได้พยายามดำเนินการมาในหลายขั้นตอน จนช่วงสุดท้ายก่อนการยุบสภา ได้ร่วมผลักดันให้รัฐสภาลงมติ เสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้มีมติจัดทำประชามติตั้งคำถามต่อประชาชนว่าสมควรให้มีการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การจัดทำประชามติจะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันเลือกตั้ง เป็นเรื่องน่าตกใจและน่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่ ยังไม่ทราบว่าจะมีการทำประชามติในวันนั้น ซึ่งการทำประชามติครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมา ความพยายามในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เช่น ข้อเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เชื่อมโยงกับประชาชน ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีการร้องคัดค้าน และมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในที่สุดว่า หากจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องถามความเห็นประชาชนก่อน คือ ต้องจัดทำประชามติ ดังนั้น หากประชามติครั้งนี้ผ่านความเห็นชอบของประชาชน จะทำให้การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และผู้ที่เสนอญัตติหรือดำเนินการต่อไปจะไม่ถูกตั้งคำถามอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังจะเป็นต้นทุนทางสังคมและทางการเมืองที่สำคัญ ให้รัฐสภาสามารถเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ

แต่ในทางกลับกัน หากประชามติครั้งนี้ไม่ผ่าน อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่เกิดขึ้นได้อีกเลย ซึ่งจะเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนในระยะยาว

พรรคเพื่อไทยเข้าใจเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งรับรองและส่งเสริมให้ประชาชน พรรคการเมือง องค์กรเอกชน และกลุ่มต่างๆ ในสังคม ใช้สิทธิและเสรีภาพในการรณรงค์ประชามติได้อย่างเสรีและเท่าเทียม ข้อห้ามเรื่อง "การชี้นำ" ตามกฎหมายประชามติ เป็นข้อห้ามที่ใช้กับคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น ไม่ได้ห้ามพรรคการเมืองหรือภาคประชาชน ดังนั้น พรรคการเมือง องค์กร และประชาชน สามารถรณรงค์ได้ทั้งฝ่ายเห็นชอบและไม่เห็นชอบอย่างเสรี

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมและได้กำหนดกรอบแนวทาง 5 ข้อ คือ 1.เร่งจัดทำคำอธิบายชุดความคิด แสดงให้เห็นถึงปัญหาและข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และเหตุผลความจำเป็นในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน 2.เร่งสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือกับพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง องค์กรเอกชน และเครือข่ายต่างๆ 3.จัดทำแผนกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้มีสิทธิออกเสียงอย่างทั่วถึง 4.จัดทำสื่อรณรงค์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางและแต่ละกลุ่มเป้าหมาย 5.ทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องให้เร่งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรณรงค์ประชามติอย่างเสรี เท่าเทียม และให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งฝ่ายเห็นชอบและไม่เห็นชอบ รวมถึงกำกับดูแลให้การออกเสียงเป็นไปโดยสุจริต ปราศจากการครอบงำ ข่มขู่ หรือคุกคาม

"พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยพรรคหรือองค์กรใดเพียงลำพัง จึงพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในทุกเวที การรณรงค์ประชามติครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญต่ออนาคตประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดินหน้าต่อไป ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันทำให้ประชามติครั้งนี้เป็นวาระร่วมของประเทศ ช่วยกันอธิบาย รณรงค์ และออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ประเทศไทยจะได้เริ่มต้นเส้นทางสู่รัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง" นายจาตุรนต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ประชามติไม่สามารถออกเสียงล่วงหน้าได้จะทำให้ประชาชนออกเสียงน้อยนั้น นายจาตุรนต์ ตอบว่า ประชามติไม่สามารถออกเสียงล่วงหน้าได้เหมือนการเลือกตั้งทั่วไป อาจทำให้โอกาสที่ประชามติจะผ่านลดลง เราจึงต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ ผู้ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้วต้องมาออกเสียงประชามติในวันเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่ง กกต.ระบุว่าจะหาทางเปิดให้สามารถออกเสียงนอกพื้นที่ได้ ประชาชนจะไปลงคะแนนในพื้นที่ที่สะดวกได้ นี่เป็นอีกประเด็นที่ กกต.ควรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ความไม่กระตือรือร้นของ กกต.ซึ่งมีหน้าที่หลักในการชี้แจงและสร้างความเข้าใจ ส่งผลให้ประชาชนรับรู้น้อยและออกมาใช้สิทธิน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งในวันที่ 8 ซึ่งมีข้อมูล กติกา ผู้สมัคร และการสื่อสารอย่างครบถ้วน ขณะที่ประชามติซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งกลับมีการชี้แจงต่อประชาชนน้อยมาก

พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะประชามติไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่ออนาคตประเทศและใช้งบประมาณจำนวนมาก ไม่ควรถูกมองเป็นเพียงงานแถม

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะเตรียมชุดข้อมูล คู่มือ ช่วยผลิตสื่อและเครื่องมือสนับสนุน และสื่อสารให้ผู้สมัคร บุคลากรพรรค และอาสาสมัคร นำไปอธิบายกับประชาชนว่าการตอบ "เห็นชอบ" ในประชามติจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างไร

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top