วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 28 ธ.ค. 2568 เวลา 06.30 น. ที่เซ็นทาราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นาย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำทีมผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อกว่า 30 คน เดินทางด้วยรถเมล์ไฟฟ้าจากพรรคเพื่อไทย ถึงสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ
นายยศชนันได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องตัวเลขที่จะจับเบอร์ในวันนี้ ว่า วันนี้ได้เลขอะไรก็พร้อมทำงานให้พี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้มีแค่ใจอย่างเดียวกับทีมงาน และเมื่อวานได้รับกำลังใจจากท่านว่าที่ ส.ส. เขต รวมถึงทุกคน ก็ทำให้มีขวัญกำลังใจพร้อม วันนี้ทีมปาร์ตี้ลิสต์พร้อม
.jpg)
หลังจับเบอร์แล้วจะไปพบปะพี่น้องประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดของวันนี้ อยากให้เป็นวันเริ่มต้นแห่งความหวังอีกครั้ง ประเทศไทยในปีข้างหน้าเป็นปีที่เราจำเป็นต้องสามัคคีกัน นโยบายของเราจะดูแลพี่น้องประชาชนรากหญ้า ซึ่งจำเป็นต้องทำ และอีกแนวทางสำคัญคือการสร้างเศรษฐกิจใหม่ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยพร้อมเต็มที่ เราเคยทำมาแล้ว เหลืออีกนิดเดียวก็จะสำเร็จ ขอโอกาสพี่น้องประชาชนให้พวกเราได้ทำงาน และมองปัญหาในสายตาของประชาชน
“ผมมองประชาชนตั้งแต่เยาวชน คนวัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เราต้องสร้างโอกาส ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ดูแลคนเกษียณ และให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม โดยเฉพาะการศึกษาและสาธารณสุข ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำมาต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงการ 30 บาท วันนี้เรานำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้เต็มรูปแบบ เพื่อรับมือทั้งภัยคุกคามด้านเศรษฐกิจ ดิจิทัล และสุขภาพ“
ส่วนแผนลงพื้นที่หาเสียง ขณะนี้แคนดิเดตทั้ง 3 ท่าน รวมถึง ส.ส. เขต และปาร์ตี้ลิสต์ เราแบ่งงานตามความเชี่ยวชาญ สามารถทำงานแทนกันได้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีซึ่งการวางแผนครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ทีมสส. บัญชีรายชื่อ มาประมาณ 30 กว่าคน เรื่องนโยบายเรามีนโยบายใหม่ที่จะเปิดอีก 2 รอบ ให้รอติดตาม เป็นนโยบายเด็ดที่จะเป็นตัวตัดสินและเป็นความหวังให้พี่น้องประชาชน ว่าประเทศไทยจะเดินหน้าได้อย่างแข็งแรงภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย
.jpg)
ผู้สื่อข่าวถามจะเป็นนโยบายอีกประชานิยมหรือไม่ และ จะมีปัญหาเหมือนรอบดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ?
นายจุลพันธ์ตอบว่า ถ้าไม่เป็นที่นิยม ก็คงไม่เกิดประโยชน์ นโยบายของเราคือสิ่งที่ประชาชนจับต้องได้และได้ประโยชน์จริง สุดท้ายประชาชนต้องนิยมแน่นอน เราผ่านประสบการณ์มาแล้ว เห็นปัญหารัฐราชการที่แข็งแรงเกินไป วันนี้เราต้องเปลี่ยนรัฐอุปสรรคให้เป็นรัฐสนับสนุน ไม่ใช่แค่สนับสนุนรัฐบาล แต่ต้องบริการประชาชนให้ดีขึ้น พร้อมกับการปรับปรุงและปฏิรูปโครงสร้างรัฐไปพร้อมกัน
.jpg)
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อจะได้เท่าเดิม มากขึ้น หรือน้อยลง ?
นายสุริยะ กล่าวว่า เชื่อว่าอย่างน้อยได้เท่าเดิมแน่นอน เพราะนโยบายของพรรคจะทยอยเปิดออกมา และเป็นนโยบายเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ หลังจากเปิดตัวอาจารย์เชนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 กระแสตอบรับดีมาก ผู้สมัคร ส.ส. หลายพื้นที่อยากให้อาจารย์เชนลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ซึ่งท่านก็ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะหลังเป็นนายกฯ จะต้องทำงานหนักยิ่งกว่านี้
.jpg)
ผู้สื่อข่าวถาม มองว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ และพร้อมจับมือได้กับทุกพรรคหรือไม่ ?
นายจุลพันธ์ ตอบว่าไม่อยากให้โฟกัสว่าใครจะจับกับใคร ให้ประชาชนตัดสินจากนโยบาย บุคลากร และพรรคที่เชื่อมั่น พรรคเพื่อไทยไม่มีข้อจำกัดว่าจะจับหรือไม่จับกับใคร แต่เชื่อมั่นว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคที่จะมาร่วมต้องเข้าใจและสนับสนุนนโยบายของเรา ครั้งก่อนเราได้บทเรียนจากความไม่สอดประสานของพรรคร่วม ดังนั้นอยากให้ทุกพรรคศึกษานโยบายเพื่อไทยไว้ล่วงหน้าด้วย
”เราให้เกียรติการตัดสินใจของประชาชน พรรคอันดับ 1 มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อนตามหลักประชาธิปไตย แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกพรรคต้องสนับสนุนทั้งหมด สุดท้ายต้องดูว่านโยบายไปด้วยกันได้หรือไม่“
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี