วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 26 ธันวาคม 2568 ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษารมว.กลาโหม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Wanwichit Boonprong" ระบุว่าเชิญอ่านทีละบรรทัดนะครับ นี่คือข้อมูลจากคนวงใน “เบลารุส”
ตามที่มีข่าว IO มุ่งเปลี่ยนมิตรของไทยเป็นศัตรู ในช่วงที่ผ่านมา เช่น พบจรวด 122มม. จากรัสเซีย-เบลารุส ในเขมรซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการแก้ข่าวว่าจรวดดังกล่าวไม่ได้มาจากรัสเซียและเบลารุส ข่าวทหารรัสเซีย วาคเนอร์ ซึ่งเป็นทหารรับจ้าง เข้าแนวรบที่เขมร ปล่อยหลังจากการพบโดรนที่ใช้ปฎิบัติการในเขมร จากสงครามรัสเซีย ยูเครน ทำให้เข้าใจว่าเป็นการสนับสนุนการปฎิบัติการจากฝั่งรัสเซียและเบลารุส ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นโดรนผลิตจากโปแลนด์ และปฎิบัติการโดยทหารรับจ้างจากฝั่งยูเครน และล่าสุดพบเครื่องเช่าเหมาลำจาก เบลารุสบินผ่านเคนยา มาเลเซียเข้าเขมร
เครื่องบินรุ่น อิล62 เป็นเครื่องโดยสารให้เช่าดัดแปลงเป็นเครื่องคาร์โก้ บินเคนยา และผ่านมาเลเซีย เข้าเขมร คล้ายกับกรณี เครื่องเช่าจากยูเครนบินไปรับอาวุธที่อิหร่านและโดนจับ ในประเทศไทยปรากฎต่อมาเป็นของวิคเตอร์ บูท การจับดังกล่าวเป็นการให้ข่าวกรองจากสหรัฐอเมริกา กรณีเครื่องเช่าเหมาลำดังกล่าว ขอให้พิจารณาดังนี้
1. ทำไมต้องบินไปเคนย่า และผ่านมาเลยเซีย ในเมื่อระยะทางบินหากมีสินค้าบนเครื่องบินแล้วสามารถบินผ่านน่านฟ้าพันธมิตร ทั้งคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน ที่ใช้เวลาบิน จากมินส์ ไปทาสเค้นท์ หรือแอสตาน่า เพียง4-5ชม.เพื่อเติมน้ำมันและสามารถบินตรงเข้าพนมเปญได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านมาเลเซีย คำถามคือต้องไปรับสินค้าที่เคนยาและรับเงินที่มาเลเซีย และส่งของที่พนมเปญ หรือไม่
2. ใครคือผู้เข่า ใครเป็นผู้จ่ายเงิน ใครเป็นผู้ปล่อยข่าว ใครคือผู้ได้ประโยชน์ จากการข่าว IO ในครั้งนี้??
ข้าพเจ้า เลยขออธิบายเพิ่มเติม ตามหลักรัฐศาสตร์ IR และจากข้อมูลหลักระดับปฐมภูมิ และข้อมูลรองระดับทุติยภูมิ รัสเซีย/เบลารุส ในขณะนี้ เป็นคู่พิพาท กับยูเครน และนาโต้ ในกรณีปฎิบัติการทางทหารรัสเซีย ยูเครน ตั้งแต่ปี2022 จนถึงปัจจุบัน ในทางปฎิบัติ รัสเซียและเบลารุส ต้องเตรียมความพร้อมสูงสุด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายหรือส่งอาวุธ ให้กับกัมพูชาได้ในเวลานี้ เขมรหรือกัมพูชาไม่ใช่มหามิตรของรัสเซียหรือเบลารุส เมื่อเทียบกับเวียดนามหรือลาว แม้กระทั่งไทย โดยล่าสุดรัสเซียได้ประกาศงดการส่งอาวุธให้กับประเทศคู่ค้า สอดคล้องกับสื่อหลักทุกสำนัก
ด้านความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศ ในปัจจุบัน รัสเซียมีความสัมพันธุ์ที่ดีกับไทย และไม่เคยมีนโยบายแทรกแซงกิจการภายในของไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน รัสเซียมีสถานทูตในไทย ไทยมีสถานทูตในมอสโค นอกจากนี้เอกอัครราชทูตรัสเซียดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทูต หรือ ดีน ของทูตและกงสุลในไทย
ส่วนเบลารุส แปลว่ารัสเซียขาว ประเทศสมาชิก CIS ถือว่ามีความสัมพันธุ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากที่สุดตั้งแต่วันแตกสลายของ สหภาพโซเวียต ถือเป็นบ้านพี่เมืองน้องกับรัสเซีย มีความสัมพัธุ์ที่ดีกับไทยเข่นกัน โดยเบลารุสมีสถานกงสุลในไทย และไทยมีสถานกงสุลในมินส์
ไทยมี ผช.ทูตทหาร ประจำมอสโค มีเขตอาณา ดูแลมินส์ มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง มาโดยตลอด เข่นพลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา, พลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร ในฐานะรองประธานวุฒิสภาและประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย เบลารุส ไปเยือนกรุงมินส์ ส่วนทางเบลารุส นำโดยประธานรัฐสภาเบลารุส มาเยือนไทย ในปี 2568 เอกอัครราชทูตเบลารุส ประจำเวียดนาม มีเขตอาณาคลอบคลุมประเทศไทย เขมร ลาว และเมียมา เดินทางมาเยือนไทย 3 ครั้งภายใน 1 ปี จึงถือได้ว่ามีสัมพันธุ์ที่ดีกว่าฝั่งเขมร เมื่อเทียบการเยือนอย่างเป็นทางการ และระดับความสัมพันธุ์ทางการทูต
เบลารุสไม่มีสถานทูตในกัมพูชา
ประกอบกับ ในเดือน ธค. 2568 ในระหว่างการเยือน ลาวและเมียนมา ของประธานธิบดี ลูกาเชงโก้ ของเบลารุส รัฐมนตรีในคณะรัฐบาล เบลารุส 7 ท่าน ถือโอกาสเยือนไทย เพื่อเตรียมการยกระดับความสัมพันธ์ุ ในการค้าและการต่างประเทศ กล่าวคือ เบลารุส จะเปิดเที่ยวบินตรง ในวันที่ 9 มกราคม 2569 เข้าอู่ตะเภา และ 16 มกราคม 2569 เข้าภูเก็ต และ ในอนาคตอันใกล้ขยาย ไฟท์ บิน ตรงเข้ากรุงเทพ และ แสดงความประสงค์จะยกระดับ การเปิดสถานทูต และสถานกงสุลเพิ่มเติม ในภูเก็ต และชลบุรี
ประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายที่คนเบลารุสต้องการมาท่องเที่ยว โดยการเปิดไฟท์บินตรงจากเบลารุสมาไทยโดยสายการบินแห่งชาติ เบลาเวีย ของเบลารุสด้วยเรื่องแอร์บัส 330 ถือเป็นการ ขยายฝูงบินระยะไกล ของเบลารุสเป็นครั้งแรก จากข้อมูลทราบมาว่าตั๋วเครื่องบินถูกจองเต็มทุกไฟท์
เมื่อพิจารณาความแนบแน่นรัสเซีย และเบลารุส กับลาว และเวียดนาม ที่มีการปกครองในระบอบ คอมมิวนิสต์ ของโลกที่ยังคงเหลืออยู่ จีน, เกาหลีเหนือ, ลาว, เวียตนาม และ คิวบา
โดยลาวและเวียดนาม เป็นคูุ่พิพาทตามชายแดนกับเขมรเช่นกัน จึงสามารถพิจารณาได้ว่า
รัสเซียและเบลารุส เลือกที่จะสนับสนุน ลาวและเวียตนาม มากกว่าเขมร เข่น ตย. รถถังหลักของลาว เป็นที72 ปรับปรุงล่าสุด และ และ ของเวียดนามเป็น ที90
สรุปได้ว่ารัสเซียและเบลารุส มองเขมรแบบมีระยะห่าง มากยิ่งขึ้นเมื่อเขมรเลือกเล่นบท เครื่องมือของอเมริกา มาคานอำนาจจีนในเขตอินโดแปซิฟิค ประเทศเขมรเป็นพื้นที่สีเทา เป็นแหล่งสแกมเมอร์, ค้าอาวุธเถือน, และฟอกเงินของเขมร สร้างปัญหาให้กับรัสเซียและเบลารุสเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับมุมมองที่รัสเซียและเบลารุส มองไทย ที่เป็นมิตร จากท่าทีของไทยในการโหวต มติ วาระต่างในเวทีโลก กรณีปฎิบัติการทางทหารรัสเซีย ยูเครน ถือเป็นแนวกลางๆ
เมื่อพิจารณาจากทุกมิติเศรษฐกิจเข่น การค้า การลุงทุน การท่องเที่ยว มิติทางสังคมวัฒนธรรม เข่นการแลกเปลี่ยนนักศึกษาการศึกษาดูงาน การแลกเปลี่ยนศิลปะและการแสดง มิติทางทหาร การซื้อยุทธโธปกรณ์และเเลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางทหาร ทั้งรัสเซียและเบลารุส กับไทย มีตัวเลขที่สูงกว่าเขมร อย่างมาก เนื่องจากเขมรพึ่งพาอาวุธจีนเป็นหลัก และตลาดมืดเป็นรอง และ มิติทางการทูต ความใกล้ชิด การแลกเปลี่ยนการเยือน มีเรื่องเล่าว่า ข้าราชการระดับสูงของเบลารุส ล่าพักร้อนมาพัทยาและภูเก็ตในเดือนมกราคม ไฟท์เต็ม เข่นเดียวกับไฟท์บินจากรัสเซียมาไทย เต็มแทบทุกไฟท์เช่นกัน
ข้อเท็จจริงเหล่านี้ เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า ใครได้ ใครเสีย ในข่าว IO ทีปล่อยทำร้ายความเป็นมิตร ระหว่างไทยกับรัสเซียและ
ไทยกับเบลารุส..
มิตรแท้จะไม่ก้าวกายกิจการภายในซึ่งกันและกัน ให้เกียรติในฐานะรัฐชาติ ต่างกับชาติมหาอำนาจที่พร้อมจะเอาเปรียบ แทรกแซง รังแกชาติเล็กๆ โดยไม่เคารพต่อกฎบัตรสหประชาชาติ หรือสนธิสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น..
เอกอัครราชทูตเบลารุส มีเขตอาณาประเทศไทย เดินทางถึงไทย 6มกราคม ครับ
รัฐมนตรี ต่างประเทศ เบลารุส ถึงไทย 26มกราคม มาพักร้อน ครับ.
ข้อเท็จจริง สามารถสอบถามได้ มีคำพูดของทางผู้ใหญ่เบลารุส กล่าวว่า ข่าวปล่อยสร้างสถานการณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี