รับขึ้นป้าย”แยกแผ่นดิน” โกตี๋ชนบิ๊กตู่ อัดยับเข้าข้างฝ่ายกปปส. เมินป้องนายกฯ-เอาผิดแดง

รับขึ้นป้าย”แยกแผ่นดิน” โกตี๋ชนบิ๊กตู่ อัดยับเข้าข้างฝ่ายกปปส. เมินป้องนายกฯ-เอาผิดแดง

วันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
Tag :

รับขึ้นป้าย”แยกแผ่นดิน”

โกตี๋ชนบิ๊กตู่

อัดยับเข้าข้างฝ่ายกปปส.

เมินป้องนายกฯ-เอาผิดแดง

ชิงโผล่มอบตัวตร.รับข้อหา

อ้างไม่ผิดแค่แสดงสัญลักษณ์

ผบ.ทอ.สั่งเล่นงานเอาผิดซ้ำ

ปชป.ยื่นปปช.เชือด”กบฎ”

นปช.นัดรวมพลเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พล.อ.อ.ประจินจั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายวุฒิพงศ์กรธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี นำป้ายแบ่งแยกประเทศไปติดย่านดอนเมือง ว่า กองทัพอากาศได้ประชุมผู้แทนหน่วยกรมการข่าว สำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง สำนักงานพระธรรมนูญและกรมกิจการพลเรือนกองทัพอากาศ เพื่อรวบรวมหลักฐานและวิเคราะห์ข้อมูลที่ปรากฏนำไปเรียนส่วนที่เกี่ยวข้องคือตำรวจว่ามีส่วนใดเข้าข่ายผิดกฎหมายและต้องดำเนินการในฐานะที่เราดูแลความมั่นคง

ผบ.ทอ.จ่อเอาผิดป้ายโกตี๋แยกปท.


ต่อข้อถามว่า กองทัพอากาศจะแจ้งดำเนินคดี นายโกตี๋ เป็นคนละส่วนกับที่กองทัพบกแจ้งความใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ถ้าเข้าข่ายและเป็นสิ่งที่เราเผชิญเหตุก็เป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินการเช่นเดียวกับกองทัพบก ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบข้อกฎหมาย จากนั้นจะประสานตำรวจว่า จะเป็นผู้ดำเนินการเอง หรือให้กองทัพอากาศไปแจ้งความ

ทบ.เผยแจ้งความไปแล้วหลายคดี

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โกตี๋ ว่า กองทัพบกให้นายทหารพระธรรมนูญไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วหลายคดี ทั้งเรื่องขึ้นป้ายผ้าแบ่งแยกประเทศและเรื่องหมิ่นสถาบันผ่านการพูดบนเวทีและวิทยุ ยืนยันว่า การปฏิบัติของกองทัพบกเป็นไปตามหน้าที่ ซึ่งการแสดงออกหรือเคลื่อนไหวใดๆ ควรระมัดระวังให้อยู่ในกรอบที่สมควรและไม่ละเมิดกฎหมาย

วิ่งโร่พบผบช.น.รับทราบข้อหา

ด้าน นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ผู้สั่งทำป้ายข้อความแบ่งแยกดินแดนนำไปติดบนสะพานลอยใกล้สนามบินดอนเมือง ข้อความว่า“อยู่กันด้วยความสามัคคีไม่ได้...ก็แบ่งแยกกันอยู่..”และข้อความ “มึงกับกู..แยกแผ่นดินกันเลย..”พร้อมด้วย นายอาคม รัตนพจนารถ ทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)และคณะทำงานสอบสวนนครบาล เพื่อสู้คดีติดป้ายดังกล่าว โดย นายโกตี๋ สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงลายพรางทหาร มีข้อความที่หน้าอกว่า “เทดทูนในหลวง...รักพระบรม”พร้อมถือป้ายผ้าสีแดง 2ป้ายมีข้อความที่นำไปติดในย่านดอนเมืองดังกล่าว

เหิมอ่านแถลงการณ์อัดบิ๊กตู่ยับ

จากนั้น นายวุฒิพงศ์ ได้ยืนอ่านแถลงการณ์หน้าอาคาร บช.น.ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองในทำนองตัดพ้อผู้นำเหล่าทัพว่า “เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เลือกข้างที่จะอยู่กับนายสุเทือก เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.) ที่ไม่ปกป้องผู้บังคับบัญชาตัวเอง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พวกสุเทพ ด่าหยาบคาย ดูถูกคุกคามข่มขู่บุกรุกบ้านนายกฯ คุกคามกระทั่งลูกชาย กลับปิดปากเงียบไม่ออกมาโวยวายหรือห้ามปรามและส่งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าไปจับกุม ส่วนป้ายที่ทำเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจเท่านั้น

ยืนยันทำจริง-อัดอั้นไม่ยุติธรรม

หลังอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น โกตี๋ ได้เข้าห้องประชุมรับทราบข้อกล่าวหาโดย นายโกตี๋ ยืนยันว่า เป็นคนสั่งให้นำป้ายแบ่งแยกประเทศไปติดที่สะพานลอยดอนเมืองจริง เพราะเห็นว่าคนเสื้อแดงไม่ได้รับความเป็นธรรมหลายเรื่อง โดยเฉพาะท่าที ผบ.ทบ.ประกาศดำเนินการกับมวลชนคนเสื้อแดงที่มีความเห็นต่าง ขณะที่ฝ่าย กปปส.ซึ่งชุมนุมมายาวนานและทำผิดกฎหมายถูกตั้งข้อหากบฏ กลับไม่ดำเนินการใดๆ เรื่องทั้งหมดนี้ถือว่า ไม่มีความยุติธรรมต่อคนเสื้อแดงที่เป็นคนไทยเหมือนกัน ส่วนการขึ้นป้ายการแบ่งแยกประเทศนั้น เป็นเพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สื่อถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ไม่ควรมาใส่ใจอะไรกับป้ายธรรมดาๆ ซึ่งการมาวันนี้จะมาฟังจากปากตำรวจว่า มีความผิดอะไรและหากเป็นความผิดตามกฎหมายก็พร้อมจะสู้คดี ไม่หนีไปไหน

ลั่นขึงป้ายไม่ผิด-ไม่ใช่แบ่งปท.

เมื่อถามว่า การทำป้ายแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่ผิดกฎหมาย ตนถามว่า คำว่าแยกกันอยู่ ผัวเมียทะเลาะแยกกันอยู่ คุณผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ คุณกับผมไม่ถูกกันแยกกันอยู่ แยกแผ่นดินกันอยู่ ก็มีการพูดกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว ไม่ได้บอกว่าแยกประเทศกันอยู่ แผ่นดินใต้ เหนือ อีสาน แผ่นดินอุดรฯ แผ่นดินปทุมฯ แผ่นดินหนองคายก็แยกกันอยู่ได้

ตร.เงื้อค้างยังไม่แจ้งข้อหากบฎ

ขณะที่ พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.อก.บช.น.เปิดเผยว่า นายวุฒิพงศ์ เดินทางมาในฐานะผู้ให้ถ้อยคำ หลังทราบว่ากองทัพบกส่งหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษมายัง บช.น.ให้ดำเนินการกับผู้ติดป้ายแบ่งแยกดินแดง หลังจากนี้ บช.น.จะเชิญตัวแทนกองทัพบก ในฐานะผู้กล่าวหามาให้การและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากผู้ร้องระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลายพื้นที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งหากสืบสวนแล้วปรากฏความผิดชัดเจนจะเชิญน ายวุฒิพงศ์ มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ปชป.ยื่นเอาผิดปูหนุนแยกปท.

วันเดียวกัน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า เวลา 11.30น.วันที่ 7มีนาคม ฝ่ายกฎหมายพรรคได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้ดำเนินคดี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)นายอนุวัติ ชินราช แกนนำ นปช.โคราช พร้อมพวกรวม 13คน รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมีหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา เนื่องจาก นายจารุพงศ์ ในฐานะ รมว.มหาดไทย มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชาข้าราชการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร

จ่อชงศาลรธน.ล้มล้างปกครอง

นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯมีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารทุกแห่งและมีอำนาจสั่งยับยั้ง สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการได้และในฐานะ รมว.กลาโหม มีอำนาจบังคับบัญชาดูแลความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่กลับปล่อยให้แกนนำพรรคเพื่อไทยและนปช.ไปกล่าวยุยงบนเวที อาทิ ต้องเตรียมกำลังสำคัญ ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญ50 ประกาศปลดตุลาการศาลแพ่ง รวมถึงประกาศแบ่งแยกประเทศ ซึ่ง นายจารุพงศ์ ได้ยืนยันบนเวทีว่า พร้อมรับข้อเสนอทุกข้อไปดำเนินการและยังกล่าวร้ายองค์กรอิสระ องค์กรตุลาการ รวมถึง ปปช.อีกทั้งยังมีการสวนสนาม ขึ้นป้ายแบ่งแยกประเทศ ถือเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา157 จึงจะไปยื่นตามมาตรา275 ของคดีอาญาต่อ ปปช.และเตรียมยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า เข้าข่ายผิดตามมาตรา68 ฐานล้มล้างการปกครองอีกด้วย
นปช.นัดรวมพลเชียงใหม่8มี.ค.

ด้าน นายนิสิต สินธุไพร ผู้อำนวยการโรงเรียน นปช. (แดงทั้งแผ่นดิน) เปิดเผยว่า วันที่ 8มีนาคม นี้ นปช.นัดรวมพลทั่วภาคเหนือครั้งใหญ่ 18จังหวัด ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ เพื่อลั่นกลองรบ โต้ข้อกล่าวหาเป็นกบฏ สปป.ล้านนา หลังถูก กปปส.โจมตีอย่างหนักเรื่องแบ่งแยกดินแดน โดยจะมีแกนนำอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนางธิดา ถาวรเศรษฐ ขึ้นเวทีปราศรัย ตั้งแต่เวลา 18.00น.การนัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ มีคนนับแสนพร้อมเปิดเวทีปราศรัยแจงความหมายเดินหน้าลั่นกลองรบและแจงข้อกล่าวหาฝ่ายตรงข้าม คือ กปปส.ที่ออกมาโจมตีเรื่องแบ่งแยกดินแดน (สปป.ล้านนา) ว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด

แดงพะเยาเผาโลงศพ‘สุเทพ’

ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงในนามกลุ่มพะเยาล้านนารักษ์ประชาธิปไตย (พลป.) นำโดย นายจิรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล เคลื่อนขบวนรถยนต์ติดตั้งเครื่องเสียงกว่า 10คัน ไปตามชุมชนเมืองพะเยา พร้อมปราศรัยให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะเดียวกันก็ต่อต้านการชุมนุมของ กปปส.ซึ่งในขบวนมีป้ายข้อความ“ร่วมตายในระบบประชาธิปไตยกับยิ่งลักษณ์”นายจิรโรจน์ กล่าวว่า การทำกิจกรรมครั้งนี้เป็นเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการยึดอำนาจภาคประชาชน โดยเฉพาะการนำของ นายสุเทพ ที่นำ กปปส.ชุมนุมยืดเยื้อทำให้ประเทศชาติเสียหาย จึงจัดบวนต่อต้าน นายสุเทพและการชุมนุมของ กปปส.พร้อมนำดอกไม้จันทน์และโลงศพจำลองของ นายสุเทพ มาเผาบริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ริมกว๊านพะเยา

พิจิตร-อุบลป้ายต้านแยกปท.พรึ่บ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พิจิตร ว่า พบป้ายคัดค้านและต่อต้านการแบ่งแยกประเทศกว่า 15 ป้าย ถูกติดตั้งตลอดแนว 2ฝั่งถนนสระหลวง เขตเทศบาลเมืองพิจิตร ดยมีกลุ่มคนได้ทำการติดตั้ง เพื่อคัดค้านและร่วมต่อต้านแนวคิดของกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกประเทศ โดยส่วนใหญ่ เป็นข้อความแสดงถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีแผ่นดินไทย พร้อมทั้งข้อความสาปแช่งกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็นแบ่งแยกประเทศ ด้านกลุ่ม กปปส.อุบลราชธานี ได้ขึ้นป้ายขนาดใหญ่มีข้อความ”เราไม่ยอมแบ่งแยกประเทศไทย”และนำไปติดบนสะพานลอย เช่น ที่ถนนแจ้งสนิท ถนนชยางกูร เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เป็นต้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top