วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันอังคาร ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ประเทศไทย เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่

ดูทั้งหมด

  •  

ก็ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนคณะรัฐบาลชุดเดิมที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566  อันเป็นผลให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้ง ภายใน 45 วันและก็ทำให้เกิดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้

จนถึงวันนี้ ผลของการเลือกตั้งว่ามีใครบ้างที่ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรที่ต่างก็เป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นพรรคที่ได้ที่นั่งของผู้แทนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล  ซึ่งทั้งนี้หากได้รับเลือกตั้งโดยมีจำนวนของผู้ที่ได้รับเลือกเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีคือเกินกว่า 375 ที่นั่ง ก็สามารถจะจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองพรรคเดียวในการบริหารประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ และก็แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีก็จะมาจากผู้ที่มีรายชื่อซึ่งพรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดนั้นได้เสนอชื่อไว้ก่อนการเลือกตั้งแล้ว


แต่ในกรณีที่พรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งมากที่สุด ไม่ได้ผู้แทนราษฎรเกินกว่าจำนวนตามที่กล่าวแล้วก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมกับพรรคการเมืองอื่น เพื่อให้ได้จำนวนที่นั่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อการจัดตั้งรัฐบาล ที่อาจจะต้องรวมกับเสียงของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีสิทธิ์ออกเสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ให้ได้เกินกว่า 375 เสียงเช่นเดียวกัน

ไม่มีข้อกฎหมายหรือข้อกำหนดใดๆ ที่กล่าวไว้ว่า พรรคที่มีคะแนนเสียงสูงสุด จะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้ในอดีตที่ผ่านมาของประเทศไทยนั้นมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างน้อย แต่สามารถจะรวบรวมเสียงจากพรรคการเมืองอื่นๆ ได้มากกว่าพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุด และทำให้สามารถ จัดตั้งรัฐบาลได้เช่นเดียวกัน

ก็เชื่อว่าขณะนี้กระบวนการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ในการที่จะรวบรวมให้เป็นกลุ่มที่มีเสียงข้างมากเพื่อขอจัดตั้งรัฐบาลได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งโดยความเป็นจริงก็เชื่อได้ว่ามีการทาบทามหรือการติดต่อกันภายในไว้ก่อนหน้าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้แล้ว  ถึงแม้ว่าจะมีบางพรรคออกมาประกาศ จุดยืนที่ชัดเจน ให้ประชาชนได้ทราบว่าจะไม่ร่วมหรือร่วมกับพรรคใดพรรคหนึ่ง  เพราะมีนโยบายที่แตกต่างกัน หรือมีจุดยืนในเรื่องของความเชื่อที่แตกต่างกันก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้วจะไม่สามารถร่วมกันได้  ซึ่งแน่ว่าคงต้องอยู่บนพื้นฐานของความสมประโยชน์ในการเข้าร่วมรัฐบาลนั่นเอง

แนวนโยบายหรือเจตนารมณ์ที่พรรคต่างๆได้ประกาศในการหาเสียง เพื่อหวังว่าจะได้คะแนนนิยมจากประชาชนในทุกภาคส่วน ทุกสาขาอาชีพ และทุกช่วงอายุ ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแจกเงินก็ดี การสะสางหนี้สินของคนจน การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยหรือเกษตรกร การเพิ่มเงินเดือนค่าจ้างขั้นต่ำของผู้ใช้แรงงาน การเพิ่มเงินเดือนให้กับบัณฑิตที่จบปริญญาตรีการจัดการปัญหาเรื่องกัญชา ไม่ว่าจะการยกเลิกกัญชาเสรี  หรือเพื่อให้กัญชาเกิดประโยชน์ต่อทางการแพทย์และการรักษาเท่านั้น การเลิกเกณฑ์ทหาร การจัดลดขนาดของกองทัพ การเลิกเงินบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้ามาเป็นรัฐบาลจริงนั้น จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงหรือไม่อย่างไร คงเป็นเรื่องที่จะต้องมีการเฝ้าติดตามโดยประชาชน ที่ถือว่าเป็นเจ้าของประเทศนี้ ตามสิทธิหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย ปี 2560

หลายเรื่องที่พรรคการเมืองต่างๆ ได้กล่าวหาเสียงไว้นั้น ได้มีการออกความเห็น ไว้จากหลายฝ่ายแล้วว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้ เช่น เรื่องของการแจกเงิน จะเกิดผลกระทบและสร้างปัญหาต่อระบบการเงินการคลังของประเทศหรือไม่ เรื่องของการเกณฑ์ทหาร จะทำให้มีผลกระทบต่อจำนวนอัตรากำลังพลและความเข้มแข็งของกองทัพในการป้องกันประเทศหรือไม่ เรื่องของการยกเลิกเงินบำนาญของข้าราชการเกษียณ จะทำให้ข้าราชการเหล่านั้นดำรงชีวิตอยู่หลังจากเกษียณราชการได้อย่างไร ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหลายลักษณะ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งหัวข้อการวิจารณ์เหล่านั้น ก่อให้เกิดความแตกแยก สามัคคีของคนในชาติในหลายภาคส่วนเป็นอย่างมาก

แต่สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด และน่าจะเป็นการหาเสียงที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดและแตกสามัคคีอย่างที่สุดของคนในชาติ โดยเฉพาะระหว่างประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ กับกลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เรียกกันว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือเรื่องของการที่พรรคการเมืองบางพรรค มีจุดยืนค่อนข้างชัดเจนว่า จะให้มีการยกเลิกมาตรา 112 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพุทธศักราช 2560 นี้ซึ่งเป็นมาตราที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งถึงแม้ในภายหลังจะมีการออกมาแก้ตัวและแก้ข่าวว่าจะเป็นเพียงแค่การปรับแก้ข้อความบางส่วนในมาตรา 112 เท่านั้นก็ตาม ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนเลยว่าจะแก้ไขอย่างไรและจะมีผลกระทบทางลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากน้อยเพียงใด

ประเทศไทยของเรานี้ ดำรงคงอยู่มาได้เป็นระยะเวลา ร่วม 800 ปี โดยประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นถูกบันทึกไว้ว่าเริ่มต้นจากอาณาจักรสุโขทัย เมื่อปีพุทธศักราช 1781 โดยพระมหากษัตริย์พระองค์แรกมีพระนามว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์  ซึ่งหลังจากนั้นก็ทำให้เผ่าไทยซึ่งเชื่อกันว่าเคลื่อนย้ายลงมาจากทางตอนใต้ของจีนนั้นรวมกันเป็นปึกแผ่น เป็นประเทศ ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ ซึ่งแน่นอนในแต่ละสมัยหรือบางช่วงบางตอนก็ย่อมมีสงครามกับประเทศที่อยู่ใกล้เคียงได้ แต่ในทุกครั้งที่เกิดสงคราม พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ จะทรงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะจอมทัพ เพื่อปกป้องประเทศและประชาชนของพระองค์ท่านอย่างเข้มแข็ง และถึงแม้ประเทศไทยจะต้องเสียอิสระเสรีภาพไป 2 ครั้งในสมัยอยุธยา แต่ทั้ง 2 ครั้งนั้นพระมหากษัตริย์ผู้กล้าหาญก็สามารถกระทำการรบและกู้ชาติกลับคืนมาได้ และมีอีกครั้งหนึ่งในสมัยรัตนโกสินทร์ ที่ประเทศไทยเกือบจะเสียอิสรภาพในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แต่ด้วยพระปรีชาสามารถ ก็ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสได้

จะขอนำพระนามของพระมหากษัตริย์ไทยที่มีบทบาทสำคัญยิ่ง จนทำให้ได้รับการพระราชทานสมญานาม
ว่า มหาราช มานำเสนอไว้ดังนี้

๑. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

๒. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

๓. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

๔. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

๕. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

๖. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช

๗. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระปิยมหาราช

๘. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯสมเด็จพระภัทรมหาราช

มหาราชทั้ง 8 พระองค์นี้ ทรงปกครองประเทศให้ประชาชนทุกคนได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้าในทุกรัชสมัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้  และทำให้ประเทศไทยคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้จึงเป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีกฎหมาย ที่คุ้มครองพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์

ประชาชนชาวไทยคงต้องรอไปอีกสักระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเกิน 3 เดือนในการที่จะได้รัฐบาลคณะใหม่มาบริหารประเทศ ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่า จะเป็นพรรคการเมืองพรรคใด หรือเป็นการรวมตัวของพรรคการเมืองพรรคไหนบ้าง สิ่งที่ประชาชนทุกคนอยากเห็น คือการที่รัฐบาลสามารถจะบริหารจัดการให้ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ และประชาชน มีความเป็นสุข มีความสมัครสมานสามัคคีของคนในประเทศสิ่งไหนที่จะทำให้เกิดการกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะรังแต่จะทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคี และสิ่งไหนหรือเรื่องไหนที่จะนำไปสู่การเปิดโอกาสหรือชักนำให้ประเทศอื่นเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในและการบริหารประเทศของเราเองนั้น ก็ต้องไม่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

คนไทยทุกคน จะต้องมีความรักชาติ ศาสนา และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันสูงสุดของประเทศ และร่วมมือกันในการปกป้องประเทศของเรา ให้มีอิสรเสรีภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1 ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”และมาตรา 2 ว่า “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

ประเทศไทย จะมีเอกราชที่ไม่ให้ใครข่มขี่โดยตลอดไป

 

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:24 น. สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่
13:23 น. เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
13:23 น. อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
13:19 น. (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
13:19 น. 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
แกว่งเท้าหาเสี้ยน! ปรากฏการณ์แฉโพย‘สายส้ม’เข้มข้น-ล่อนจ้อน
'ออสเตรเลีย'ออกคำเตือนพลเมืองมา'ไทย'หลังพบวัตถุต้องสงสัยหลายเมืองท่องเที่ยวภาคใต้
ดูทั้งหมด
ต้นสนยักษ์ร่วมสมัยกับฟาโรห์
‘คลิปเขมร’เหตุอัปยศ‘แพทองธาร’
รู้ทันคอร์รัปชันด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่ศีลธรรม
วาทกรรมเจ็บจี๊ด
อุ๊งอิ๊งค์ 2 ปรับ ครม. ฟอร์มาลีน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก

'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง

(คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ตำรวจพะเยาไล่ล่าแก๊งค้ายา ยิงสกัดยึดยาบ้า 1.5 แสนเม็ด คนร้ายเผ่นหนีเข้าป่า

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย ขอสละสัญชาติไทย จำนวน 195 ราย

มีประโยชน์ยามเกิดภัยพิบัติ! ‘บก.ลายจุด’แนะแจก‘พาวเวอร์แบงก์’เป็นของที่ระลึก

  • Breaking News
  • สตม.โชว์ผลงาน! รวบ\'ชาวจีน\'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่ สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่
  • เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้ เชิญชมเทศกาลศิลปะ ‘พระนคร ออน โอ่งอ่าง : หันน่าเข้าคลอง’ 11-13 ก.ค.นี้
  • อำลาเจลีก!บีจีดึง\'เจริญศักดิ์\'คืนทัพสู้ไทยลีก อำลาเจลีก!บีจีดึง'เจริญศักดิ์'คืนทัพสู้ไทยลีก
  • (คลิป) \'ณัฐวุฒิ\'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง (คลิป) 'ณัฐวุฒิ'แซะ! ดาบในมือศาลรัฐธรรมนูญ อาจเป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
  • \'พิธา\' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด\'ขี้ข้าชาวตะวันตก\' ไม่สอดคล้องความจริง 'พิธา' ของจริง หรือ ของปลอม? วิจารณ์แนวคิด'ขี้ข้าชาวตะวันตก' ไม่สอดคล้องความจริง
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved