กรมโรงงานอุตสาหกรรม-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ 5 สถาบันการเงินหลัก เดินหน้าฟื้นฟู พัฒนา เติมเต็มศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย หลังเผชิญวิกฤติโควิด -19 โดยสนับสนุนแนวคิดใช้เครื่องจักรแปลงเป็นเงินทุน
กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ 5 สถาบันการเงินร่วมสร้างแคมเปญช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME เสริมสภาพคล่อง พร้อมเดินหน้า ฟื้นฟู พัฒนาธุรกิจ โดยมีการนำแนวคิด “แปลงสินทรัพย์เป็นทุน” ที่เคยมีมาแล้วก่อนหน้านี้ กลับมาศึกษา และต่อยอดสู่ โครงการ “เร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2563”
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุถึงที่มาและการดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวว่า “โครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2563” เกิดจากแนวคิดที่มีมาแล้วก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน มีเป้าหมายในการแปลงเครื่องจักรในโรงงานให้เป็นทุนทางการเงิน เพื่อให้สามารถสร้างสภาพคล่อง และต่อยอดธุรกิจให้กับ SME ต่อไปได้ พร้อมให้ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างรวดเร็วและ มีดอกเบี้ยต่ำ โดยมีเครื่องจักรเป็นหลักประกัน ผ่านความร่วมมือกับทางศูนย์วิจัยและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีวิเคราะห์เครื่องจักร พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึก เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้เป็นรูปธรรม ต่อยอดสู่การใช้ทั้งเครื่องจักร และเงินทุนนำไปสร้างธุรกิจ และสนับสนุนให้เกิดการสร้างผลประกอบการต่อไป
ทางด้าน ดร.ธิรินทร์ ณ ถลาง ผู้จัดการโครงการเร่งรัดการจดทะเบียนเครื่องจักรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2563 กล่าวว่า จากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด -19 ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการและโรงงาน ในธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะปัญหาด้านการขาดสภาพคล่อง และเรื่องของทุนในการดำเนินกิจการ จากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน กรอ.และ ม.เกษตรฯ จึงมีแนวทางร่วมกันในการช่วยเหลือโรงงานระดับ SME ให้มีผลประกอบการให้ที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ผ่านการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร และมีปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และนำเครื่องจักรมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงินเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุด ตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการโรงงานระดับ SME ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และยังเป็นการเพิ่มปรับปรุงโครงสร้างของโรงงานหรือเครื่องจักรให้ดีขึ้น เป็นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทิภาพการผลิต ทำให้ศักยภาพการผลิตมีความเข้มแข็งที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
โดยการดำเนินการขอยื่นขอเสนอต่อสถาบันเพื่อข้อกู้เงินทุน รวมถึงการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร กลุ่มผู้ประกอบการหรือโรงงาน SME กรอ. และทาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ได้ให้ความรู้และให้คำแนะนำ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนด้านพลังงาน ลดต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม หรือมีการใช้พลังงานทดแทน ให้แก่โรงงานของผู้ประกอบการ SME นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพให้กับโรงงาน SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล
ในความร่วมมือครั้งนี้ทาง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะมีผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยฯ เข้าไปวิเคราะห์สภาพการปฏิบัติงานของเครื่องจักรของแต่ละโรงงาน เพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรนำไปสู่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุน ไปพร้อม ๆ กัน และนำไปสู่การนำเครื่องจักรมาแปลงให้ทุนสำหรับสินเชื่อในการประกอบกิจการ ทั้งส่วนของการฟื้นฟู พัฒนา และ การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการโดยตรงอีกด้วย
โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังได้เป็นส่วนเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการและ 5 สถาบันการเงินหลัก ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรงเทพ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โดยทางศูนย์วิจัยฯ จะเป็นผู้ประเมินการเสริมประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อประเมินว่าจะต้องใช้เงินทุนประมาณเท่าไหร่และช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร ก่อนจะทำออกมาเป็นหนังสือรายงาน และหารือกับ 5 สถาบันการเงิน เพื่อประเมินแนวทางความช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไป
สำหรับเป้าหมายของโครงการในครั้งนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ได้อย่างทั่วถึงและมีศักยภาพ จึงมีการกำหนดคุณสมบัตินั้นออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่บุคคลหรือนิติบุคคล และมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือสถานประกอบการ หรือกิจการซึ่งอยู่ภายใต้กำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และมีการจ้างงานไม่เกิน 200 คนหรือรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงมีความต้องการปรับปรุงเครื่องจักรเดิมให้มีประสิธิภาพมากขึ้นหรือต้องการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิมเพื่อสร้างโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนตามตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์
โครงการนี้ ได้รับผลตอบรับจากผู้ประกอบการ SME เป็นอย่างดี เนื่องจากทางทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มีนโยบายลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเครื่องจักรให้ถูกลงต่อเครื่อง ทำให้ได้เสียงตอบรับดีขึ้นและสร้างความสนใจให้กับผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ของศูนย์วิจัยและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ได้มีการสัมมนา 6 ครั้ง จำนวน 619 คน โครงการจดทะเบียน 63 ประชุมคณะกรรมการเครื่องจักร 6 ครั้ง อบรมเชิงลึก 2 ครั้ง 96 คน ได้มีการวิเคราะห์เครื่องจักรจากโรงงาน 88 แห่ง คิดเป็นจำนวน 2,036 เครื่อง และจากวิเคราะห์คิดเป็นวงเงินลงทุน 482,668,283 บาท เกิดเป็นผลตอบแทน195,875,300 บาทต่อปี ซึ่งจะสามารถคืนทุนเฉลี่ย 2.46 ปี โดยได้มีโรงงานมีประสงค์เข้าร่วมกว่า 63 แห่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี